ออฟฟี่ แม็กซิม ร้องไห้เปิดใจหลังเจอดราม่าหายไป 3 ปีวันนี้ได้บทเรียนแล้ว


ให้คะแนน


แชร์

3 ปีที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตบ้าง?

เยอะแยะมากมาย ปีแรกโดนคนด่าทั้งประเทศ ใช้ชีวิตอยู่โรงพยาบาลรับไม่ได้ต้องขอหมอฉีดยานอนหลับ อยากฆ่าตัวตาย กินยาเป็น 100 เม็ด และห้ามแตะโทรศัพท์ต้องลบแอปเฟซบุ๊กและไอจีออก เพราะอดไม่ได้ที่จะเข้าไปอ่าน พออ่านก็ทำให้ตัวเองดิ่ง ตอนนั้นมืดไปหมดเลย 

ชีวิตไปต่อไม่ได้ ไม่เหลืออะไร ทุกคนสาปแช่ง ตอนนั้นอาละวาด หมอบอกว่ามีโอกาสจะฆ่าตัวตายถึง 97% มีอาการไบโพลาร์ และฮาร์ฟซึมเศร้า เศร้าจมดิ่งไปเลย หรือไม่ก็เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย 

หลายคนอาจจะมองว่าโรคซึมเศร้าเป็นโรคตอแหล ไบโพลาร์ ตอแหล ไม่จริง แต่พอได้เจอเอง และกินยามันดีขึ้น เลยเชื่อว่ามันมีอยู่จริง คนที่บอกว่าโรคนี้เป็นโรคตอแหลจะไม่ต่อต้านเพราะได้เป็นจริงๆ ถึงรู้ว่าเป็นอย่างไร 

ตอนนั้นเป็นหนักมากต้องมัด และเขวี้ยงของแตกหมด ไม่อยากอยู่ที่นี่ ตื่นมาถูกมัดแขนมัดขา ผลักพยาบาล เรียกหาโทรศัพท์จะออกไปข้างนอก เดินไปทางไหนก็เจอแต่ประตูที่ถูกล็อก ล็อกไว้ทั้งหมด 3 ชั้น 

พอหมอเริ่มให้ยาก็เริ่มดีขึ้น ไม่สวิง ตอนนี้อาการปกติ หมอดีใจกลับมาสดใสเหมือนเดิม คิดบวกขึ้น ไม่นอยด์แล้ว ไม่เหวี่ยงลูกน้องแล้ว มันคือบทเรียนของออฟ ทำให้ได้รู้จักตัวเอง

คิดแค่ว่าคนอื่นมีข้อเสีย ก็จะไปด่าเขา คิดแต่ว่าตัวเองเพอร์เฟกต์ ทุกอย่างต้องหมุนรอบตัวเรา ไม่ได้ดั่งใจก็หวีดวีน และไปสอนเขา แต่ที่ออฟเหวี่ยงเพราะอยากให้คนอื่นเก่งเหมือนเรา เพราะเราทำได้ แต่ออฟใช้คำพูดไม่น่ารักและไม่น่าฟัง 

เงินหมดไปกับผู้ชาย การพนัน และกินเหล้า?

อันนี้เรื่องจริง หลังจากที่ป่วยเป็นปีที่ 2 ที่เริ่มสตรองขึ้น แต่ไม่ได้กล้าเผชิญหน้ากับสังคมนะ อยากไปเมาแล้วก็หลับไม่ต้องคิดอะไร ติดการพนัน เล่นไพ่ เสียเป็นล้าน ใช้ชีวิตเสเพลอยู่เกือบปีที่เสียเรื่องไพ่ 

เคลียร์ประเด็นเรื่องเงินบริจาค? 

พูดจากใจจริงและยืนยันคำเดิม หลังจากที่ไปออกโหนกระแส เกิดจากความสะเพร่าของตัวเอง ตอนนั้นทำงานเยอะ ดันใช้บัญชีส่วนตัวรับเรื่องการบริจาคเข้ามา และรวมกัน แล้วคิดว่ายอดบริจาคน่าจะน้อยๆ เราก็จะบวกยอดนั้น ยอดเป็นแสนอันนั้นก็เป็นเงินของเรา

และไม่ได้ทำให้ถูกต้องโดยการชี้แจง ไม่มีจิตที่จะโกงอะไรแบบนั้น เพราะก็ยังเป็นคนชอบทำบุญเป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว แต่ครั้งนั้นมันพลาด ไม่แปลกที่คนจะคิดว่าโกงเงิน ทำไมไม่ให้ เราให้ลอตแรกไปแล้ว พอพยายามอธิบายคนก็หาว่าตอแหล จะบอกเรื่องบริจาคไม่เคยคิดว่าจะเอาตังค์จากตรงนี้ ไม่มีความจำเป็นเลย 

จุดต่ำสุดในชีวิตคือสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เสียชื่อเสียงไปเลย ไม่มีงาน จากที่ทำงานทุกวัน รู้สึกไร้สมรรถภาพ คนไม่เชื่อถือเราแล้ว ไม่มีงานทำเลย และตอนนี้ทุกอย่างเป็นบทเรียนและดีใจที่ทำให้ออฟเปลี่ยนไปในทางที่ดี ตอนนี้แฮปปี้กับการเป็นนิวออฟฟี่มากๆ อยากให้ทุกคนเห็น ดูออฟไปเรื่อยๆ ว่าออฟเปลี่ยนไปจริงหรือเปล่า 

อะไรที่ปรับปรุงไปแล้ว ก็คือรู้จักคำว่าไม่เป็นไร เพราะไม่เป็นไรทำให้มีความสุขมากขึ้น พูดให้น้อยลง และพูดในที่ควรพูดเท่านั้น เพราะเมื่อก่อนชอบพูดถึงบุคคลที่ 3 ชอบติถึงบุคคลที่ 3 คนก็เอาไปพูดว่าเราไปว่าเขา ทั้งๆ ที่เราก็ไม่ใช่คนใหญ่โตจากที่ไหน ทำไมถึงไปดูถูกเขา คนก็มองว่ามันคือคำดูถูก มองว่าตัวเองเก่งคนอื่นไม่เก่งเท่า 

ยังคิดว่า ถ้าออกไปยืนดูตัวเองแล้วเห็นก็รู้สึกกลัวเพราะมันน่ากลัวมาก เข้าไปย้อนอ่านกรุ๊ปที่เคยด่าลูกน้อง เคยด่าลูกน้องจนร้องไห้หนีออกจากบ้าน ไม่มีใครทนออฟได้ จริงๆ เป็นหัวหน้าต้องมีเหตุผล รับฟังทุกคน 

ที่เกิดเรื่องขึ้นออฟสูญเสียทุกอย่างแม้กระทั่งคนที่รักที่เป็นคนดีมากๆ (ร้องไห้) ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่มีทางปล่อยให้หลุดมือ เพราะเขาดี เขาคือพ่อของลูก ดีมากๆ ต้องสูญเสียเขาไปเหมือนกัน 

วันที่เขาออกไปเพราะออฟทำตัวเอง ตอนที่ทะเลาะกัน ออฟไม่กลับบ้านเลย แต่เขานอนบ้านทุกวัน พอจะเข้าบ้านก็โทรไล่เขาออกจากบ้าน ออฟเป็นคนเ_ี้ยมาก คบซ้อน ทั้งๆ ที่มีลูกด้วยกันแล้ว และเขาก็ทำหน้าที่ของสามีได้ดีมากๆ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะไม่มีวันทำอย่างนั้นเด็ดขาด

อยากบอกอะไรกับเขามั้ย?

ขอโทษที่ทำตัวเองและทำให้ทุกอย่างมันแย่ลง (ร้องไห้) ทำให้รอบครัวแตกแบบนี้ ตอนนี้ก็ยังมีเจอกันบ้าง ในช่วงเสาร์-อาทิตย์ แต่สิ่งที่ลูกขาดไปคือการที่พ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกันเพื่อดูเขา 

อยากขอโทษทุกคนที่ออกมาพูด ที่ผ่านมามันแย่จริงๆ และขอบคุณที่ให้บทเรียน มันทำให้ออฟฟี่เปลี่ยนแปลงได้ ชีวิตออฟที่ผ่านมาอยู่กับการสร้างคอนเทนต์มาตลอดเพื่อให้คนดูชอบ

และตอนนี้ก็มีคนบอกให้กลับมาทำคลิป มันเป็นความรู้สึกที่ทำให้ใจฟูที่คนยังชอบผลงานอยู่ ขอบคุณที่ให้โอกาสหนู พอได้งานหนูมีความสุข ขอบคุณสำหรับโอกาส 

จากนี้ไปออฟก็คงไม่พูดว่าตัวเองเป็นคนดี ก็ยังใช้ชีวิตเสเพลแต่อยู่ในหลักการมีกรอบ มีขอบเขตตัวเองมากขึ้น เอาใจใส่ความรู้สึกของคนอื่น ไม่ว่าร้ายใคร ไม่ติเตียนใครอีกแล้ว เพราะตัวเองก็มีข้อเสียเหมือนกัน 

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2406581
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2406581