ยอมรับตรงๆไม่ได้เป็นคนมั่นใจเรื่องความรักสักเท่าไหร่…ทุกอย่างเริ่มจะกลับมาเหมือนเดิมแล้วเตรียมตัวยังไงบ้าง?

“เตรียมตัวทำงานหนักค่ะ ก็จะมีงานมากขึ้น คือทุกคนก็ยังกังวลเรื่องโควิดอยู่แล้ว แต่เหมือนเศรษฐกิจและการทำงานต้องเดินหน้าต่อไปและเราดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโควิดแล้ว ก็ทำให้กลับมาทำงานได้”

เรื่องหัวใจเป็นยังไงบ้างโยเกิร์ตเปิดวาร์ป?

“คือจริงๆ วุ้นบอกตั้งแต่แรกว่าอยากจะพูดน้อยมาก แต่ว่ามันก็รู้กันเป็นธรรมชาติไป ก็ไม่ได้ปิดอะไรเลย ก็มีแหละ”

เพื่อนรู้ไหมว่าเราไม่ได้อยากให้เปิดตัวอะไรขนาดนั้น?

“เราไม่ได้เปิดยิ่งใหญ่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ครั้งแรกก็นานาใช่ไหม เรื่องโทรศัพท์แล้วก็เริ่มมีเพื่อนถ่ายรูป แต่ว่าในไอจีของเราก็ยังไม่กล้าลง คือเราก็รู้สึกว่ารอให้มั่นใจกว่านี้หรือรอให้มันเป็นเรื่องเป็นราวค่อยเปิด”

หรือว่าเกรงใจอีกฝั่งนึง?

“จริงๆตัวเขาง่ายๆ แต่ก็คิดว่าเขาก็คงไม่ได้อยากจะให้เปิดมาก เขาบอกแล้วแต่เรายังไงก็ได้ แต่ตัวของเขา ก็ไม่ได้อยากจะอยู่ในแสงขนาดนั้น เขาเป็นคนทำงาน”

ที่หลุดออกมาคือเพื่อนแกล้ง?

“คือจริงๆเวลาไปไหนวุ้นก็ลงบ้างนิดหน่อยค่ะ แต่เวลาเพื่อนลงเขาก็ขอก่อน มันก็รู้สึกว่ามันก็ไม่ได้เสียหายอะไรเพราะเราก็ไม่ได้แอบคบกันหรืออะไร แต่ถ้าจะให้ลงเยอะๆ มันไม่ใช่สไตล์”

ตอนนี้มั่นใจมากขึ้นแล้ว?

“มันก็เกือบ 3 ปีแล้ว มันก็ไม่ได้มั่นใจขนาดนั้น อนาคตเราก็ต้องดูกันต่อไป ถามว่าคุยคนเดียว ดูคนเดียวก็ใช่ ก็เลยคิดว่าใช้ชีวิตแบบไม่ต้องปกปิดมากก็ได้”

จะมีใจอ่อนลงได้แล้วหรือยัง?

“คือมันก็ไม่ได้มีใครเรียกร้องให้เปิดไง แต่คิดว่าเขาไม่ได้เหมาะกับหน้ากล้องขนาดนี้ก็เลยรอดูจังหวะ”

ฟีดแบคเป็นยังไงบ้าง?

“ก็มีคนแซวมากขึ้น แต่เราก็รู้สึกว่าเราไม่อยากโกหกอะไรไปไหนก็ไปด้วยกันเดินด้วยกัน แต่แค่ไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน เราประสบการณ์เยอะยอมรับเรื่องความรักเยอะจริงๆ”

ที่มีข่าวออกมาเขาเป็นยังไงบ้างเกร็งขึ้นไหม?

“ก็เขินนิดหน่อยแต่ว่าเขาก็ยิ้มๆ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ตัวเขาไม่ได้กลัวเรื่องเปิดวาร์ปแต่วุ้นรู้สึกไม่อยากให้เขาโดน อยู่ข้างหน้ารับมือไม่ได้แต่ไม่รู้ว่าถ้าคนข้างๆ เขาไม่เคยเจออะไรแบบนี้เขาจะทำยังไง”

บอกเขาถึงวิธีรับมือไหมเพราะสุดท้ายแล้วยังไงแสงไฟต้องส่อง?

“คือมันบอกเขาว่าถ้าวันนึงเราสองคนลงเอยค่อยว่ากัน แต่ว่าวันนี้เราก็ใช้เวลาศึกษากันไปก่อนเพราะว่าเราก็ไม่มีใครอยากพลาดในชีวิตรักอยู่แล้ว”

รอบนี้ไม่ได้หวือหวามาก การไม่เปิดตัวดีกว่าไหม?

“ดีกว่าเยอะเลยค่ะ ที่ผ่านมาเราเปิดมันรู้สึกว่ามันไม่ได้สมูทมาก วุ้นคิดว่าไม่ได้ปิดแต่ก็ใช้ชีวิตไม่ต้องมีแสงตลอดเวลาก็ได้”

3 ปีก็นานพอสมควรที่จะทำให้เราตัดสินใจกับชีวิตอนาคต?

“บางคนก็ไม่ 3 ปีนะก็นานกว่านั้น บางคนก็จะมีความพร้อมด้านอื่นๆ อีกเยอะมากที่เราคิดว่ามันจำเป็นกับชีวิตของคนสองคน ก็เลยคิดว่าตอนนี้เราอาจจะยังไม่ถึงจุดนั้น ก็ใช้เวลาไป ขอแค่อย่าให้มันมีเรื่องอะไรเข้ามาทำให้ปวดหัว เพราะว่าเปิดทีไรจะต้องมีอะไรที่ทำให้ปวดหัว”

เรามีความมั่นใจเพิ่มขึ้นไหม?

“เอาอะไรมามั่น ไม่มั่น ไม่เคยมั่นใจเรื่องความรักเลย แต่ว่าเป็นคนที่เวลาใครถามอะไรก็บอก”

มีหมอทักไหมว่าห้ามเปิด?

“จริงๆ เขาทักกันเยอะตั้งแต่ 10 ปีที่แล้วว่าไม่ต้องเปิดหรอก แต่เราก็พลาดตลอด เราก็เปิดตลอด แต่ครั้งนี้ก็รู้สึกว่าเปิดเบาๆ ให้เห็นว่าเขาหน้าตาเป็นยังไง เราก็บอกเพื่อนๆ หลายๆคนว่าไม่ต้องลงเยอะหรอก เรารู้สึกว่าเวลาไปไหนมาไหนแล้วไม่มีคนพูดถึงเราเรารู้สึกสบายใจ แรกๆอาจจะพูดถึงเราในแง่ดีแต่พอมีปัญหาอะไรกันขึ้นมามันก็จะมีคนวิพากษ์วิจารณ์อีก เราก็เลยรู้สึกว่าเราอยากจะอยู่จุดที่มันเบาๆ เราก็อยู่มาตั้งนานแล้ว เราคิดว่าเราเลือกได้แล้วว่าจะสงบขึ้น”

อะไรที่เขาทำให้ชนะใจเราได้ว่าคนนี้แหละที่จะเป็นแฟนเรา?

“จริงๆ วุ้นก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไงแต่คิดว่าตอนนี้เราเข้ากันได้ คุยกันรู้เรื่องไลฟ์สไตล์ เข้ากันได้ไม่ทะเลาะกันเลย นี่มันก็เพียงพอสำหรับวุ้น คือไม่ต้องมานั่งคิดว่าเธอหน้าตายังไงจบอะไรมาอันนั้นเป็นเรื่องภายนอกที่วุ้นก็ไม่ได้จะสนใจ แค่ว่าเราคุยกันแล้วรู้สึกเข้าใจกัน ก็ใช้คำว่าแฮปปี้ดีค่ะ”

ถามถึงเรื่องแหวนของไอซ์ อภิษฎา เห็นเราแสดงความยินดี?

“แหวนใหญ่เนอะ คือวุ้นไม่ได้รู้เรื่องแล้วมาตอบแทนเขาได้ แต่วันนั้นคือเจอแล้วเห็นมีคนลงก็เลยถามเขาว่า เห้ยตกลงยังไง เขาก็บอกลงได้ไม่เป็นไร แต่เรื่องรายละเอียด อะไรต่างๆรอให้เขาตอบเองดีกว่า เพราะว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องใหญ่เหมือนกัน”

อันนี้คือเป็นข่าวชัวร์แล้วหรือยัง?

“อันนี้ไม่รู้ค่ะอันนี้ต้องให้ไอซ์บอกเพราะเราไม่อยากจะเป็นคนที่มาบอกอะไร อันนี้เราเห็นเขาใส่เราก็แบบอุ๊ย! สวยจังเลยแต่เรื่องดีเทลให้เขาพูดเองดีกว่า”

หลายคนโฟกัสแหวน?

“ใช่ๆ ค่ะอยากได้ (หัวเราะ)”

คือไอซ์เขายืนยันผ่านเราแล้วแต่ว่าแค่รอให้เขาพูดเองใช่ไหม?

“ยืนยันผ่านเราหรือเปล่าเหรอต้องถามเขาเองก็คือยังไม่ได้พูดอะไรเยอะมาก”.