ทริปสวิตเซอร์แลนด์ที่ผ่านมาเป็นไงบ้าง?

“มันเป็นแบบนี้ทุกครั้งว่าพอแพลนจะไปเที่ยวไหน ก็จะมีเพื่อนมีพี่ไปด้วยในนาทีสุดท้าย เราอาจจะเป็นคนง่ายๆ ก็ได้ ทุกคนเลยมาขอไปด้วยกันเรื่อยๆ เราก็เลยงงว่า เอ๊ะ เดี๋ยวก่อนนะ มันชักจะเยอะขึ้นเรื่อยๆตอนนี้ก็เริ่มมีผู้จัดการของนักแสดงท่านอื่นมาขอไปด้วย เริ่มมีความคิดใหม่แล้วว่าหรือเราจะเปิดทัวร์ดี จะมีแบบสิ้นปีไปไหน จะไปไหน ขอไปด้วย ส่วนใหญ่ตามเค้าจะเป็นคนทำแผน ว่าจะไปไหน ทำอะไร ยังไงบ้าง ส่วนโดนัทจะเป็นสไตล์ตามเค้าบ้างครึ่งนึง ไม่ไปบ้าง อันไหนที่เราไม่ไปเค้าจะได้มีเพื่อนไป จริงๆตั้งใจไปกันสองคน (หัวเราะ) ต้องขอโทษเพื่อนๆด้วยนะคะ”

พอไปกันเยอะแพลนเปลี่ยนมั้ย?

“ไม่นะ ทุกอย่างก็เหมือนเดิม ตามเค้าชอบทำอะไรกับเพื่อนๆ เราเองก็รู้สึกบางทีอยู่กันสองคนก็ชอบทะเลาะกัน มีคนอื่นมาอยู่ด้วยบ้างมันก็ดี”

ลดความสวีตมั้ย?

“เหมือนเดิม พอมันแต่งงานแล้ว มันผ่านเวลาหลายอย่างมาเนิ่นนาน เอาจริงๆนะ บางทีเรานั่งอยู่โต๊ะเดียวกันแล้วเห็นเพื่อนที่เป็นแฟนกัน รักกันมาก เราก็คือต่างคนต่างนั่ง โดนัทว่ามันเป็นเพื่อนกันไปแล้ว โมเมนต์สวีตอยู่กับเพื่อนก็ทำได้ การมีเพื่อนสำหรับเรามันก็รู้สึกว่าไม่เหงาดี ไม่ต้องทะเลาะกันสองคน มีคนอื่นให้แบ่งไปทะเลาะบ้าง”

รับบทช่างภาพด้วย?

“แต่ก็ลำบากดิฉันเหมือนกันนะคะ รับบทช่างภาพแล้วไม่มีรูปตัวเองเลยทั้งทริป คือถ่ายแต่รูปคนอื่น นั่งเปิดๆ เอ๊ะ! ทำไมไม่มีรูปฉันเดี่ยวบ้างเลย ตามเค้าก็ถ่ายให้บ้างค่ะ แต่เค้าต้องได้รูปก่อน เพิ่งไปหัวหินมาล่าสุดเค้าก็ดูรูปแล้วก็บอกว่าไม่มีรูปถ่ายกับเมียเลยเพราะรูปเดี่ยวเค้าเยอะมาก คือบางทีพอเหมือนเราทำงานในวงการ เราก็ขี้เกียจถ่ายรูปไปเลย อย่างพูดกับกล้อง ต้องพูดอีกแล้วเหรอ เราก็อยากจะสบายมากกว่า เค้าอาจจะสนุกที่ได้ถ่ายรูป อย่างเราจะชอบเวลาที่ได้ถ่ายรูปให้เค้าให้เพื่อนๆแล้วเค้าเอาไปลงกัน”

ถามถึงแพลนมีทายาท?

“ก็เลี้ยงหมาค่ะ เดี๋ยวนี้โดนัทว่าหลายๆอย่างมันยาก เลี้ยงหมาเราก็แฮปปี้แล้ว รู้สึกเติมเต็ม รู้สึกว่าการดูแลมันยังง่ายกว่าที่จะมีลูก เค้าก็ไปไหนมาไหนกับเราด้วยตลอดตอนนี้โซโห น้องหมาถ่ายโฆษณาแล้วด้วย โซโหทำงานแล้วค่ะ ก็รู้สึกว่ามันอบอุ่นแล้ว ทุกวันนี้กว่าจะออกมาทำงานได้ก็ยากเหมือนกัน ต้องลากันหลายอย่างอยู่ เค้าเหมือนคนเลย ตอนไปสวิตเซอร์แลนด์โทร.มาก็ไม่คุยด้วย งอน พอเห็นเราเก็บกระเป๋าเค้าก็เริ่มไม่คุยด้วย”

คุยกับตามแล้ว?

“เราก็คุยกันมาตลอดตั้งแต่แต่งงาน ก็รู้สึกว่าแบบนี้ก็สบายดีนะ มันไม่ต้องกดดันตัวเอง ดูไปแล้วมันยาก โดนัทว่าโลกทุกวันนี้การมีกันสองคนมันก็อบอุ่นดี เราทั้งสองคนมีพ่อแม่ที่เราเอาเวลาไปให้เค้า เอาเวลาไปให้ผู้ใหญ่ดีกว่า เว้นเรื่องของเด็กไว้ก่อน”

แพลนกันไว้มั้ยว่าอนาคตสองคนไปเที่ยวกันแบบตายาย?

“กับหมาด้วยค่ะ ตอนนี้เราเอาโซโหไปด้วยทุกที่เลยนะคะ ดีหน่อยที่เดี๋ยวนี้บ้านเรามีที่ให้หมาไปเที่ยวด้วยได้มากขึ้น”

จะเลี้ยงเพิ่มมั้ย?

“เลี้ยงตัวเดียวไปก่อน เอาจริงๆตัวเดียวยังยากเลย ถ้าจะเลี้ยงเพิ่มอีกตัวต้องไปขออนุญาตหมาก่อน (หัวเราะ) คือตอนนี้หมาเป็นเจ้าของบ้านไปแล้ว”

ถามถึงตอนนักร้องข้ามกำแพงทำไมถึงตัดสินใจรับ?

“ตอนที่เค้าติดต่อมา ทีมงานก็บอกเชิญไปเป็นเกสต์ ของพี่บีม-กวี ได้เจอพี่บีม กับแดน-วรเวช ก็รู้สึกสนุกดีนะ ก็เลยไป เหมือนไปสนุกกับเพื่อน ตื่นเต้นมาก เหมือนหัวใจจะหลุดออกมา ฉันร้องถูกมั้ย ฉันต้องยังไง เราก็เลือกเพลงส่งกันไปมา จนสุดท้ายพี่บีมส่งเพลงมา 5-6 เพลง โดนัทเลยเลือกไป 2 เพลง แล้วบอกเค้าช่วยเลือกจากอันนี้ได้มั้ย แล้วเค้าก็เลือกมา เอาจริงๆว่าใบ้กันจนรู้ พี่บีมไม่รู้คือไม่ได้ พี่บีมต้องรู้ เพราะถ้าไม่รู้คือโกรธ ไม่รู้ได้ไง แต่เข้าใจเลยนะตอนที่อยู่ตรงนั้นมันตื่นเต้นจริงๆ เลยอาจจะสติหลุด หรือเดาไม่ได้ ดีใจและขอบคุณทุกคนมากๆเลยนะคะที่รู้สึกมีความสุขกับพวกเรา โดนัทไม่ค่อยได้ทำอะไรอย่างนี้ พอทำแล้วมันได้คอนเนกต์กับคนที่โตมาด้วยกันก็ดีใจ”.