“เจมส์จิ” อัปเดตหัวใจยังคงคอนเซ็ปต์รักเรียบง่าย ปลื้มแฟนคลับแห่มากรี๊ด


ให้คะแนน


แชร์

เริ่มจากวันนี้ ได้มาเจอแฟนคลับในรอบกี่ปี?

“ถ้าเกิดว่าเต็มๆอย่างนี้ก็น่าจะมากกว่า 2 ปี คือตอนแรกมันก็มี แต่ว่าด้วยความเข้มงวดที่เราต้องรักษาระยะห่างเลยอาจจะจำกัดคนในการเข้าถึง แต่ตอนนี้มันเริ่มผ่อนคลายแล้ว ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกเลยที่ได้มาเจอกันแบบนี้ คิดถึงเหมือนกัน คิดถึงบรรยากาศนี้มาก ผมก็ได้มีโอกาสไปเอนเตอร์เทนเบาๆ แต่พูดไม่หยุดเลย ด้วยความที่คุยกับตัวเองมาค่อนข้างนาน (หัวเราะ) วันนี้เลยดีใจที่ได้เจอ ตอนแรกไม่ได้คิดเลยว่าทุกคนยังคิดถึงและยังอยู่ด้วยกัน พอมาเจอกันก็น่ารักและดีใจมากๆ เพราะว่ายังมีอีกหลายคนที่มาไม่ได้”

สถานการณ์เริ่มดีขึ้นแล้ว อยากจะคืนกำไรแฟนๆด้วยการจัดแฟนมีตติ้งบ้างมั้ย?

“มีคนถามเหมือนกัน แต่ตอนนี้ก็ยังไม่กล้ารับปาก มันอาจจะเป็นแบบปุบปับ (หัวเราะ) เพราะแพลนนานๆ ไม่ค่อยรอดสักที จริงๆ ในใจผมก็คิดว่าปีนี้แหละ แต่ก็ไม่ได้อยากให้คำมั่นสัญญาสักเท่าไหร่”

ช่วงนี้เริ่มกลับมาทำงานเต็มที่แล้ว?

“ตอนนี้เริ่มกลับมาทำงานค่อนข้างเกือบจะปกติ จริงๆละครก็ดำเนินการมาเรื่อยๆ แต่ว่าตอนนี้เริ่มมีงานอื่นๆที่กลับมาด้วย ผมรู้สึกว่าตอนนี้บรรยากาศในการทำงานมันเริ่มคึกคักขึ้น ทุกคนไม่ได้ดูกังวลมากขนาดนั้น แต่ยังไงก็ยังอยากให้ทุกคนระมัดระวังตัวเองด้วย ส่วนงานของผมในปีนี้ก็จะมีละครพิศวาสฆาตเกมส์ ที่จะได้ชมกันต้นเดือนหน้า แล้วเดี๋ยวก็จะมีโปรเจกต์อื่นอีกเยอะ ส่วนงานต่างประเทศก็มีติดต่อมาบ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นอีเวนต์แต่ว่ายังไม่ได้คอนเฟิร์ม”

อัปเดตหัวใจนิดหนึ่ง?

“ตอนนี้ก็ดีครับ ดีเป็นปกติ ไม่ได้มีอะไรที่ไม่ค่อยดี”

คงคอนเซปต์ไม่หวือหวาหรือออกตัวเยอะ?

“ใช่ครับ คือของผมก็จะอยู่แบบนี้มาสักระยะหนึ่งแล้ว แล้วก็อยู่กันไปเรื่อยๆผมว่าแบบนี้มันก็มีความสุขดี แฮปปี้”

เวลาไปไหนมาไหนก็ใช้ชีวิตปกติเลยใช่มั้ย?

“ใช่ครับ อย่างเช่นเวลาจะไปทานข้าวหรือไปเที่ยวหรือทำอะไรก็ใช้ชีวิตตามปกติ จริงๆก็มีหลายคนที่ชื่นชอบบ้างในคู่ของเรา มันก็เหมือนกับผ่านระยะเวลามาสักระยะหนึ่งแล้วแหละ เราก็พยายามทำให้ทุกคนเห็นว่าเราก็สบายใจแบบนี้ แล้วก็พยายามประนีประนอมให้ได้ทุกส่วน คือผมเองก็อยู่ตรงกลางด้วย ก็พยายามทำให้ทุกคนมีความสุขที่สุด เพราะผมมีอาชีพที่สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคน”

หลายคนเอ็นดูคู่เราตรงที่ไม่ลงรูปในโซเชียลตัวเอง แต่คนอื่นเอาไปลงให้เห็นเอง?

“ครับผม ผมไม่ได้ห้ามใครเลยครับ คือมันเป็นการใช้ชีวิตปกติ ถ้าเกิดมันเริ่มมีการบอกเยอะหรือระแวดระวังเยอะ อันนั้นไม่ได้อันนี้ไม่ได้ มันก็จะไม่มีความสุข คือพอเราทำแบบนี้มันก็ไม่ได้มีอะไร แล้วเราบริสุทธิ์ใจ เพราะว่าเราไม่ได้ไปทำผิดอะไรด้วย แล้วก็สะดวกใจที่จะทำ”

เรื่องสร้างบ้านคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว?

“คือสร้างบ้านที่กรุงเทพฯ จริงๆมันเป็นบ้านที่สร้างมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ว่าเป็นหลังแรกที่อยู่ในกรุงเทพฯ เพราะปกติที่ผ่านมาจะอยู่คอนโดฯ ไม่ได้มีบ้าน ถามว่างบบานปลายไปถึงไหนแล้ว คือตอนแรกเราก็ไม่เชื่อเค้าหรอกว่าบ้านมันจะสามารถบานปลายได้ขนาดนี้ แต่พอมาเจอจริงๆมันก็บานปลายได้แบบไม่สิ้นสุดด้วยนะครับ แล้วก็ไม่ใช่บานปลายแค่เรื่องของเงิน แต่บานปลายแม้กระทั่งเรื่องของขนาด ต้องลดต้องเพิ่มตรงนั้นตรงนี้ แล้วระยะเวลามันก็เสียไปเรื่อยๆ เงินมันก็เสียไปเรื่อยๆ เหมือนอย่างที่เขาบอกจริงๆว่าทำบ้านมีแต่ความบานปลาย”

ระยะเวลาในการสร้างนานแค่ไหนแล้ว?

“ผมว่าตอนนี้ น่าจะประมาณสองปีครึ่งได้แล้ว แต่คือผมปักหมุดเอาไว้แล้วว่าจะเสร็จต้นปีหน้า แต่ตอนนี้ยังไม่เริ่มตกแต่งภายในเลย ก็ไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นไปได้มั้ย จริงๆก็เป็นความช้าด้วยตัวของเราเองด้วย แต่ก็โทษโควิดไปด้วยส่วนหนึ่ง (หัวเราะ)”

เห็นภาพแว้บๆก็ดูใหญ่โตมโหฬารอยู่?

“จริงๆก็ไม่ได้ใหญ่มาก กลางๆครับ ความตั้งใจก็คือว่าก่อนหน้านี้คุณพ่อคุณแม่ทำบ้านไว้ที่พิจิตรด้วย แล้วก็มีที่นี่ด้วย เวลาเค้าขึ้นมาหาหมอหรือมาเที่ยวผมก็ไม่ได้อยากให้เค้าอยู่แค่ในคอนโดฯ อยากให้มันมีพื้นที่ไม่ได้รู้สึกอึดอัด”

เวลามองบ้านหลังนี้แล้วมันเป็นความภาคภูมิใจขนาดไหน?

“มันเป็นความภาคภูมิใจแล้วก็เจ็บใจในเวลาเดียวกัน (หัวเราะ)”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2432066
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2432066