ต้น ตระการ โต้ เป็นพรีเซ็นเตอร์ สายรัดประหยัดน้ำมัน วอนผู้ชำนาญนำไปทดสอบ


ให้คะแนน


แชร์

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

ต้น ตระการ โต้ / กำลังเป็นที่พูดถึงในโซเชียลอย่างมากสำหรับสายรัดประหยัดน้ำมัน ซึ่ง ‘ต้น’ ตระการ พันธุมเลิศรุจี นักแสดง-พิธรกรชื่อดัง ถูกพาดพิงว่าเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพราะมีรูปถ่ายคู่กับผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
ต้น ตระการ โต้

ล่าสุดที่ พีเพิล พาร์ค คอมมูนิตี้มอลล์ @ People Park อ่อนนุชในงานแถลงข่าว ความร่วมมือทางธุรกิจ ระหว่าง บริษัท เชิญยิ้ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด กับ บริษัท เรนนี่ คอปเปอเรชั่น จำกัด นักแสดงดัง ‘ต้น’ ตระการ พันธุมเลิศรุจี มาร่วมงานในฐานะพิธีกรผู้ดำเนินรายการ

หลังจากเสร็จงาน ต้น ได้ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดราม่าเรื่องที่ตนมีภาพปรากฏเกี่ยวข้องกับ สายรัดประหยัดพลังงาน ที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อยู่ในโลกโซเชียลขณะนี้
ต้น ตระการ โต้

ถูกพูดถึงว่า เป็นพรีเซ็นเตอร์ สายรัดประหยัดน้ำมัน? “ไม่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ ไม่ได้รับรีวิว ไม่ได้รับเงิน ไม่ได้รับอะไรทั้งนั้นเลย ที่มาของรูปก็คือ คุณยุวดี (บุญครอง) เอามาให้ทดลองใช้ คือเราก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นวิกฤตน้ำมัน ก็อยากท้าพิสูจน์ ก็บอกว่าโอเคพี่เอามา เดี๋ยวผมลองใช้ดู แต่ไม่ได้รับเงินไม่ได้รับอะไรทั้งสิ้น และผมก็ไม่ได้เอารูปตรงนั้นไปโพสต์ต่อ เพราะเราก็ยังอยู่ในการพิสูจน์ว่ามันใช้งานได้จริงหรือเปล่า เพราะก่อนติดตั้ง เราก็ถามว่า พี่ตัวนี้มันได้รับการรับรองจากใครยังไงหรือยัง ถ้าเกิดมันประชาสัมพันธ์ไปมันจะเข้าใจผิดนะ จะกลายเป็นผลเสียนะ ก็มีการพูดกัน”
ต้น ตระการ โต้

ตอนนี้ก็ได้มีการเข้าใจผิดเกิดขึ้นจริงใช่ไหม? “ผมยังบอกไม่ได้ว่ามันใช้ได้ผลจริงหรือไม่ เพราะว่าก็ อาจารย์เจษฎ์ (เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) ทักมาในหลักวิชาการ ในมุมของคุณยุวดีซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ถ้าเขาจะค้าขายก็สามารถทำได้ แต่ผมว่าทั้งนี้ทั้งนั้นภาครัฐเองหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเป็นคนตรวจสอบ อย่างอาหารและยามี อย. อย่างสินค้าบางอย่างต้องมี มอก. เราก็อยากขอความอนุเคราะห์จากหน่วยงานเหล่านี้ช่วยหน่อยเถอะถ้าสามารถเอาไปพิสูจน์ได้ ประโยชน์จะตกอยู่กับประชาชน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือผมเอง (ยิ้ม) สิ่ง ที่เราพิสูจน์สิ่งที่เราท้ายความจริงมันจะได้พูดได้เต็มปากว่า มันได้ผลนะ ส่วนใครจะกำไรหรือจะรวยจากการค้าขายนี้ก็ว่ากันไป แต่ว่าคนที่ได้ประโยชน์คือคนที่ได้เอาไปใช้”

ส่วนตัวได้ทดลองใช้แล้วเป็นยังไงบ้าง? “ส่วนตัวคือเป็นความรู้สึกตามที่อาจารย์เจษฎ์ พูดคือมันยังพิสูจน์ทางวิชาการไม่ได้ เพราะมีเรื่องของทฤษฎีต่างๆ ที่จะวัดค่า แต่ในความรู้สึกของเราเอง เราก็รู้สึกอัตราการเร่งดีขึ้น ระยะการใช้นั้นมันย่นระยะเวลาไปทำนองนี้ อย่างที่บอกคือความรู้สึกแต่ละคนไม่เหมือนกัน ก็จะมีคอมเมนต์จากนักแข่ง ผู้ใช้รถ คนที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องของการใช้รถ ถ้าเกิดคุณกระทืบมันไปก็ใช้น้ำมันเยอะแหละ แต่ถ้าเกิดค่อยๆ เลียไปเรื่อย ใช้อัตราความเร็วคงที่มันก็ประหยัดน้ำมันซึ่งก็จริงก็ถูกต้อง ผมก็เป็นคนหนึ่งที่มีข้อสงสัยนี้แหละ แต่คนพิสูจน์ไม่ใช่ผม ไม่ใช่คุณยุวดี ไม่ใช่คนทดลองใช้ ต้องบอกว่าหน่วยงานกลางรีบทำเถอะครับ”

เรียกว่าเป็นปากท้องของประชาชน? “ผมว่ามันเป็นอันหนึ่งที่จะช่วยรัฐบาลด้วยนะ ถ้าสามารถบอกได้ว่ามันจะประหยัด ถ้าเกิดมันได้ผลจริงๆ มันจะประหยัดรถที่ใช้เชื้อเพลิงทั้งหลาย ทั้งน้ำมัน แก๊ส ผมว่ามันจะมีประโยชน์อย่างยิ่งเลยนะครับ”
ต้น ตระการ โต้

แต่หลายคนก็ตั้งธงว่าเราเป็นคนร่วมโปรโมตไปแล้ว แบบนี้อธิบายยังไงดี? “(หัวเราะ) ตรวจสอบเส้นทางการเงินดีไหม ต้องบอกว่าเดี๋ยวนี้มีคำว่าอวิชาเกิดขึ้น แต่พอมันพิสูจน์หรือทดสอบแล้วมันเป็นไปได้มันอาจจะกลายเป็นวิชาก็ได้ ซึ่งผมตอบไม่ได้ แต่ด้วยเราอาจจะเข้าถึงวัตถุนี้ก่อนคนอื่นก็เลยเป็นภาพที่ปรากฏออกไป ถ้าหากคนอื่นเข้าถึงก่อนเราก็อาจจะไม่เป็นข่าวเท่านั้นเองครับ”

กังวลไหมว่าต่อไปจะทดลองอะไร ต้องตรวจสอบก่อน? “ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็นการรีวิว การพูดถึงสินค้าหรืออะไรก็ตามผมจะทดลองด้วยตัวเอง จะไม่ได้ฟังจากคำบอกเล่าสรรพคุณโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ สถานที่ สินค้าหรืออะไรต่างๆก็ตาม ผมจะใช้และเข้าไปสัมผัสด้วยตัวเอง และจะใช้ความรู้สึกบอก แต่บังเอิญเจ้าวัตถุตัวนี้มันต้องพิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์ ซึ่งเราไม่มีเครื่องมือเราจะตอบได้แค่ความรู้สึกเท่านั้น แต่ถ้าในเชิงวิชาการหรือสถิติวิทยาศาสตร์อะไรทำนองนี้ยังตอบไม่ได้”

ถ้าผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการนำไปพิสูจน์? “ยินดีด้วยเลย ทั้งเจ้าของผลิตภัณฑ์นะ และคนไทยด้วยที่ได้ของดีๆ นำไปใช้ ส่วนว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ทำไมไม่เอาไปติดตั้ง อันนี้เราไม่ก้าวล่วง อันนี้แล้วแต่บุคคล”

ได้มีโอกาสคุยกับเจ้าของไหม หลังมีข่าว? “ได้คุยๆ ก็บอกพี่เขาว่าจากประเด็นตรงนี้มันมีผลกระทบนะ ยังไงพี่ช่วยดูแล้วกันหรือให้ภาครัฐช่วยพิสูจน์สักทีเถอะ จะได้หายคาใจเสียที ผมเองก็จะได้สบายใจ”

ส่วนรูปที่มีเราอยู่นั้น จะต้องลบไหม? “มันไม่ได้เป็นเชิงการค้า ผมก็ไม่ซีเรียส แต่ถ้าเป็นเชิงพาณิชย์ เอารูปเราไปเป็นการค้าการประชาสัมพันธ์ก็ค่อยว่ากัน แต่ทีนี้เราเป็นพี่เป็นน้องกัน ถ้าส่วนไหนผมช่วยได้ก็จะช่วย จริงๆนะ ถ้าเป็นในมุมบวกใครที่มีความรู้ มีเครื่องมืออยากจะทดสอบติดต่อเข้ามาได้เลย ติดต่อคุณยุวดีเลยว่าอยากเอาของนี้ไปทดสอบ ถ้ามันได้ผลก็เอามาช่วยกันเผยแพร่ได้นะครับ ก็จะเป็นเรื่องดีนะครับ”

ขอบคุณรูปจากอินเตอร์เน็ต

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7160157
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7160157