นุ่น เผยว่า “นุ่นมาทำเรื่องสุขภาพ ตอนนี้อาชีพใหม่เป็นเฮลธ์โค้ช ทำหน้าที่เรื่องเกี่ยวกับการให้คำปรึกษาด้านโภชนาการ ด้านอาหาร ไลฟ์สไตล์ เริ่มจากตัวเอง และนุ่นไปเรียนมาด้วย”

ทำไมถึงมาศาสตร์นี้ได้ “เริ่มจากที่เราป่วยเองก่อน และนุ่นเป็นคนชอบทำอาหาร เราเริ่มป่วยเลยอยากเอาอาหารมารักษาตัวเอง ทีนี้เราค่อยศึกษากระบวนการในร่างกาย และสารอาหารที่ร่างกายต้องการ อาหารแต่ละบุคคล เฉพาะโรค แต่ละคนมี DNA และไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน ความต้องการอาหารที่แตกต่างกัน นุ่นเน้นกลุ่มผู้หญิงก่อน ตัวนุ่นค้นพบการรักษาให้เนื้องอกยุบได้โดยที่ควบคุมอาหาร ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ บริโภคน้ำตาลกับคาร์โบไฮเดรตต่ำ”

หันหลังงานวงการนานมาก “ไม่รับงานในวงการมาประมาณ 8-9 ปีแล้วค่ะ ส่วนที่นุ่นทำให้ความรู้โภชนาการ และมีผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก ไอศกรีมที่ไม่มีน้ำตาล ไม่ใส่นม ไข่ ทานมีไบโอติกคือช่วยถ่าย ถามว่าเหมาะกับใครบ้างก็เหมาะกับทุกเพศทุกวัย”

ใจเด็ดไม่รับละครเลย “จริงๆนุ่นรู้สึกว่าเราถึงจุดอิ่มตัวตรงนั้นแล้ว มันหมดแพชชันในการทำงาน เรารู้สึกว่าเราไม่ชอบไลฟ์สไตล์แบบนั้น ไลฟ์สไตล์ที่เครียด เร่งรีบ กดดัน เราจะเครียดเพราะจะต้องรีบตื่น ขับรถฝ่ารถติดมากอง เราอยู่ไปไม่รู้กลับกี่โมง เราไม่เหมาะกับไลฟ์สไตล์แบบนั้น มีความ เครียดสูง พัก ผ่อนน้อย นุ่นเลยเปลี่ยนเวลา ใช้วิธีแบบนี้ เราสามารถควบคุมงานของเราเองได้ เราสามารถสร้างสรรค์งานดีๆแบบอื่น แบบที่เรามีความรู้และศึกษามาแล้ว”

ปฏิเสธงานเยอะขนาดไหน เชื่อว่าคนมีฝีมืออย่างนุ่นมีแต่คนติดต่อเข้ามาอยากร่วมงานด้วยเยอะแน่ๆ “มีคนติดต่อแหละแต่นุ่นเลิกรับแล้วจริงๆ ทุกคนก็จะถาม จริงเหรอ? แน่เหรอ? ถ้ามีอันนี้ล่ะเอามั้ย รับเชิญล่ะ นุ่นก็บอกว่ามันเสียเวลากับการที่คือบางทีเราเสียเวลากับการนั่งรอ เมื่อไหร่ถ่าย ฝนก็ตก แดดก็ออก เราต้องรอความพร้อมทุกอย่างมันมีปัจจัยที่เราไม่สามารถควบคุมได้ นุ่นไม่ชอบ รู้สึกว่าถ้าเราควบคุมปัจจัยต่างๆไม่ได้ เราจะต้องมานั่งรออย่างเดียว นุ่นไม่สามารถทนรอได้ จะบอก ว่าเราเลือกได้ก็ไม่เชิง แต่เราสามารถเลือกทำสิ่งที่เราสบายใจ มีความสุข”

แฟนๆละครคิดถึงนุ่นกันนะ “555 ให้ดูรีรันไป (ยิ้ม) เชื่อมั้ยนุ่นไม่เคยดูผลงานของตัวเองเลย แต่ว่าทุกคนจะเล่ามีเรื่องนี้ เรื่องนี้คนจำได้ ทักมา เราก็รู้สึกดีใจ จำเราได้ เป็นอาชีพที่ให้กำเนิดเรา ทำให้เรามีวันนี้ได้ แต่ว่าพอวันนึงเรารู้สึกไม่มีประโยชน์ในวงการนั้น เราถอยออกมาสร้างสรรค์ผลงานในมุมอื่นได้ดีกว่า”

เป็นเพราะข่าวดราม่าต่างๆที่นุ่นเจอมีผลในการตัดสินใจออกจากวงการมั้ย “นุ่นว่าเดี๋ยวนี้มีช่องทางสื่อเยอะมาก แต่เรามองว่าไม่ใช่ผลและประเด็น เหตุและผลของเราเรื่องไลฟ์สไตล์เป็นหลัก เราต้องการคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่วัตถุนิยมคุณภาพชีวิต เป็นความสุขทางจิตใจ เรารู้สึกว่าตรงมุมนักแสดงที่เราอยู่ไม่ได้ตอบโจทย์ตรงนี้ของเรา และเราไม่ได้มีความสงบสุขในจิตใจ เราต้องการตรงนั้น ถ้าเราหาได้สถานที่ไม่จำเป็น อาชีพไม่จำเป็น ในพื้นที่ที่นุ่นอยู่ เรารู้สึกว่า การที่นุ่นออกมาตรงนี้ เรามีพื้นที่ของความรู้แบบใหม่ มีความสร้าง สรรค์แบบใหม่ เราสามารถให้ประโยชน์กับคนอื่นได้ แชร์ความรู้ ทั้งให้เค้าและเราให้เขากลับไปได้ด้วย ตรงนี้มันน่าเป็น 10 ปีข้างหน้า ถ้าเรามีได้อยู่ต่อ สร้างสร้างสรรค์อะไรดีๆ ได้ช่วยคนอื่นได้ พอเราค้นพบความสุขของตัวเอง เรามีรากที่มันหยั่งแล้ว เราเข้าใจพื้นฐานความสุขของตัวเองแล้ว มั่นคงแล้ว เราสามารถตัดสินใจดำเนินแนวทางได้ง่าย”

อัปเดตสถานะหัวใจตอนนี้ “โสดสนิทมีหมาอยู่ตัวนึง (หัวเราะ) นอนกับหมาทุกวันโสดมาเกิน 8 ปี หรือมากกว่านั้น ลืมนับผ่านมากี่ปีแล้ว มาตรฐานคนเราเคยตั้งไว้ สังคมตีกรอบ ผู้หญิงทุกคนเป็นแบบนี้อะไรต่างๆ นุ่นว่ามันใช้ไม่ได้กับยุคนี้แล้ว จริงๆใช้ไม่ได้มานาน ไม่รู้ทำไมทุกคนจะต้องเอามาตรฐานนี้สำหรับผู้หญิงตลอดเวลา คนโสดก็มีความสุขได้ เผลอๆคนโสด ไม่มีลูกในยุคนี้อาจจะโชคดีก็ได้ ไม่มีโฟกัสจุดอื่น เราโฟกัสแค่ตัวเราเอง และที่เราไม่มีคู่คนที่อยู่ข้างเราก็ไม่มีก็เลยเหลือแต่ตัวเรา กลายเป็นว่าเวลาที่มีอยู่เราใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ การที่เรามีความรักหรือไม่มี ไม่ใช่เรื่องสำคัญเพราะเป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆในชีวิตแค่นั้นเอง”

คนเดียวอยู่ได้ “อันนี้ในมุมของนุ่นนะ หาประโยชน์ไม่เจอ (หัวเราะ) ถ้าเรามีแฟนทะเลาะกันงานก็เสีย มันสุกๆ ดิบๆ เดี๋ยวมันก็ขึ้นลง พอไม่มีแฟน วันๆเราก็ทะเลาะกับหมานั่นแหละ เรามีเวลาไปทำอย่างอื่นเยอะ ทำอะไรไม่ต้องแคร์ใคร (หัวเราะ)”.