ลุ้นไม่ขึ้น! “มิกค์” เคลียร์สถานะ “ฐิสา-เปรี้ยว” เป็นแค่เพื่อนกัน เผยเริ่มติดใจชีวิตโสด


ให้คะแนน


แชร์

“ออนแอร์ไปกระแสตอบรับดีมากๆครับ ทั้งเรื่องของเนื้อหาเป็นแนวดราม่าสืบสวน ทุกตอนเลยมีเรื่องชวนให้คนดูติดตาม ภาพของละครมุมกล้องที่ออกมาสวยงาม รวมถึงฉากแฝดที่ทุกคนบอกว่า CG เนียนมากๆ เหมือนฉากที่คนสองคนมานั่งคุยกันจริงๆ รวมถึงคาแรกเตอร์ที่มีคนชมเยอะว่า 2 คนมีคาแรกเตอร์แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ทั้งตัวเจและโจ ทำให้รู้สึกหายเหนื่อยครับ มันคุ้มกับหนึ่งปีกว่าๆที่ตั้งใจทำมา”

เรื่องนี้รับบทแฝดครั้งแรกด้วย ทำไมถึงอยากเล่นล่ะ

“ผมว่ามันท้าทายครับ อยากลองดูสักครั้งหนึ่งว่ามันจะเป็นอย่างไร แล้วก็ได้รู้ว่ายากมาก คือได้ลองตั้งแต่ได้บทมา ต้องมาตีความกัน มาเวิร์กช็อปกัน ทำให้เรารู้ว่า 2 ตัวละครนี้ค่อนข้างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ตัวเจ หรือ ตะวันฉาย จะเป็นคนที่สุขุมนุ่มลึก จะแสดงออกทางสายตามากกว่า ส่วนตัวละครโจ หรือศศิน เขาจะเป็นคนที่โผงผาง อารมณ์ขึ้นง่ายมาก ปรี๊ดง่ายตัวผมกับผู้กำกับ รวมถึงพี่อี๊ฟ (พุทธธิดา ศิระฉายา) ก็จะสร้างคาแรกเตอร์เพิ่มให้โจขึ้นมา แบบว่ามือจะอยู่ไม่นิ่ง ชอบจับ ชอบเกา หรือเม้มปากแบบนี้”

เหมือนมิกค์ที่อยู่ไม่นิ่ง “(หัวเราะ) โจอยู่ไม่นิ่งกว่าผมเยอะเลยครับ เนี่ยก็เป็นอีกอย่างที่มันแปลกใหม่ เราไม่เคยเล่นแบบนี้มาก่อนเลย อันนี้เราก็เสี่ยงด้วยเหมือนกัน ไม่รู้ว่าคนดูจะชอบไหม เขาจะรำคาญหรือเปล่า คือมันก็ลุ้นไปด้วยตอนที่ละครออกอากาศ แต่กลายเป็นว่าคนดูชอบ คือเขาชอบความที่มันเรียล มันไม่ต้องมานิ่งมาก เราก็เลยรู้สึกว่าเรามาถูกทางแล้ว”

แฟนๆบางกลุ่มก็ยังชอบให้มิกค์ เป็นพระเอกสายละมุนๆมากกว่า

“ใช่ครับ ตอนนี้ก็เริ่มมีทีมแล้วครับ คือ #ทีมเจ #ทีมโจ คือใครชอบเจก็จะอยู่ทีมเจ ใครที่ชอบโจก็ไปอยู่ทีมโจ แฟนๆตั้งทีมกันเองเลย (มีไฝว้กันเองบ้างไหม 2 ทีม) ผมว่าต้องมีครับ (หัวเราะ) เพราะละครเริ่มมีดราม่าเกิดขึ้น เพราะ 2 คนนี้ตกหลุมรักผู้หญิงคนเดียวกันคือนุ่น (ฐิสา-วรฏฐิสา) เขาก็จะยิ่งแบ่งทีมเชียร์กันชัดเจนเลย”

มาร่วมงานกับฐิสาเป็นอย่างไรบ้าง

“ไม่ได้เจอกันนานมากแล้วครับ”

อยู่หมู่บ้านเดียวกันไม่ใช่เหรอ “ใช่ครับแต่หมายถึงการทำงานด้วยกัน ถ้าในงานนี่เกือบสิบปีแล้วครับที่ไม่ได้เจอกันวันนี้พอมีโอกาสได้เจอกันต้องบอกว่าโชคดีที่เราสนิทกันอยู่แล้วเข้าฉากด้วยกันเลยค่อนข้างไว และเล่นง่าย ตัวคุณฐิเองเขาก็เป็นคนที่ทำการบ้านมาดี นับ 5 4 3 2 เขาก็น้ำตาไหลได้เลย คือไวมาก เนี่ยๆผมว่าเขาน่าจะเป็นไบโพลาร์ก่อนผม (หัวเราะ)”

ทำงานกับฐิสาพอสนิทบางทีก็มีซีนดราม่าใส่กัน มันยังไง “ในละครพวกซีนดราม่า เวลาเข้ากับคุณฐิคือสบายครับ เพราะเขาเก่งอยู่แล้ว ส่วนเรื่องของฉากกุ๊กกิ๊กเนี่ย มันก็มีทั้งข้อดีข้อเสียนะครับ ข้อดีคือเรากล้าที่จะจับตัว กล้าที่จะโดนตัวเขา แต่ข้อเสียคือด้วยความที่เราเป็นเพื่อนกัน สนิทกันอยู่แล้ว อย่างฉากหอมแก้มอะไรแบบนี้ มันก็มีเขินๆแบบจั๊กจี้กัน เราก็พยายามให้มันหลุดขำให้หมดตอนซ้อม เพื่อเวลาที่ทำงานจริงเราจะได้ไม่พลาด”

หลังๆมิกค์ดึงฐิสาเข้าวงการติ๊กต่อกไปกล่อมกันยังไงเหรอ

“ใช่ครับ ผมว่าแฟนคลับต้องขอบคุณผมนะ (หัวเราะ) เพราะผมชวนคุณฐิมาเล่นติ๊กต่อกมากขึ้น แล้วแฟนๆก็ชอบ ผมเองก็มีดึงคนโน้นคนนี้เข้ามาด้วย อย่างในกองละครเรื่องนี้ก็จะมีบอยแบนด์นะครับ คือพี่ปราบ ยุทธพิชัย, พี่ป๋อง-กพล, พี่บิ๊ก-ณทรรศชัย ส่วนคุณฐิเนี่ย เวลาจะถ่ายเขาต้องออกแนวบังคับ คือบอกแบบ คุณฐิมานี่ๆ เปิดเพลงแล้วบอกให้เขาเต้น เอาท่านี้ แบบนี้นะ คือเราจะบอกเขาไวๆแบบที่เขายังคิดไม่ทัน ไม่ทันตั้งตัว แต่เราตั้งกล้องถ่ายเรียบร้อย หลอกบวกกับบังคับไปด้วยในตัวครับ (หัวเราะ) หลังๆนี่เริ่มชวนง่ายขึ้นแต่เขาก็ยังยืนยันนะว่าเขาเต้นไม่ได้ แต่ผมก็พยายามบังคับให้เขาเต้นให้ได้”

กลายเป็นช่วงโควิด– 19 ที่ทำให้มิกค์มีโอกาสได้ทำอะไรที่แตกต่างหลาก หลายเหมือนกันนะ

“ใช่ครับ ได้เป็นพ่อค้าออนไลน์ มีผลิตภัณฑ์บ้าบอเกิดขึ้นมา ตัวผมได้ไปไลฟ์สด มีรถฟู้ดทรัคด้วย มีทั้งหมูยอทอด มีกวยจั๊บญวน มีไปไลฟ์กับพี่ยุ้ย-จีรนันท์ ,พี่ธัญญ์-ธนากร ด้วย คือได้ทำอะไรหลายอย่างมากที่เราไม่เคยทำ ความจริงมันยากมากเลยนะครับ คือเราต้องพูดแล้วดึงดูดให้คนมาฟังเรา ในระยะเวลาที่แบบว่าชั่วโมง 2-3 ชั่วโมง วันที่ผมไปไลฟ์ ผมอยู่กับพี่ธัญญ์ คนดูเข้ามาดูเยอะมาก แป๊บเดียวคือคนเยอะมาก แต่ไม่มีคนเอฟของ (หัวเราะ) จนผมต้องบอกกับพี่ยุ้ยว่า พี่ยุ้ยกลับมาก่อนเถอะครับ แต่พอพี่ยุ้ยมานั่งปุ๊บ พี่ยุ้ยจะมีวิธีพูด ซึ่งแป๊บเดียวเขาก็เอฟกันจนของหมด คือมันต้องมีวิธีพูดจริงๆ”

ตอนนี้เรียกว่าการไลฟ์ขายของมิกค์เชี่ยวชาญแล้วสิ “สำหรับตัวผมให้ 50 เปอร์เซ็นต์ก่อน”

ไม่รู้สึกว่าแปลกๆ ใช่ไหม เป็นพระเอกแล้วมาขายของแบบนี้ “ผมมองว่าฐานของคนที่ดูละครและคนที่มาเอฟไม่เหมือนกันนะครับ อาจจะเป็นแม่บ้านบ้าง อาจจะเป็นคนดูละครอยู่แล้วบ้าง เวลาผมไปไลฟ์ก็จะได้รู้จักเรามากขึ้นในอีกแง่มุมหนึ่งด้วย ผมว่าดีนะอีกอย่างคือผมได้สื่อสารกับเขาในแง่มุมของละครด้วยครับ”

ระหว่างมิกค์กับฐิสามีกระแสคู่จิ้นเยอะมากพอจะมีลุ้นไหม

“ขอบคุณนะครับที่แฟนๆชื่นชอบ ชื่นชม รวมถึงเชียร์นะครับ เราก็เก็บพวกนั้นมาเป็นแรงขับเคลื่อนในการทำงานนะครับ เพราะผมจะบอกเสมอว่า ถ้าใครเชียร์ ใครชื่นชอบ ก็ฝากติดตามผลงานของเราด้วยนะครับ ในฉากก็มีน่ารักๆให้ชมอยู่
นะครับ”

จะมีจิ้นนอกจอไหมครับ ตอนนี้ก็โสดๆกันอยู่ “ผมโสดมาก (หัวเราะ)”

จะมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าให้ลุ้นสถานะนอกจอ “คือเราก็ไม่ได้คิดว่ามันจะต้องมากหรือน้อยแค่ไหนนะครับ เอาเป็นว่าตอนนี้เราโอเคในสถานะที่เป็นเพื่อนกัน เรารู้จักกันมานาน มีอะไรก็คอยช่วยเหลือกัน ผมว่าสถานะแบบนี้มันโอเค ก็เลยไม่ได้คิดเรื่องของอะไรพวกนั้นด้วย”

ทำให้เราจะต้องระวังในการวางตัวกับฐิสาไหม เพราะจะยิ่งทำให้คนอินหนักขึ้น

“เรื่องของการวางตัว เราค่อนข้างเซฟคุณฐิอยู่แล้ว ความที่เราเป็นผู้ชายด้วย เราจะดูแลในส่วนที่เราดูแลได้ แต่เวลาอยู่ด้วยกันส่วนใหญ่ก็ไม่มีหวานอยู่แล้วครับ ส่วนมากจะตีกัน แกล้งกันมากกว่า ผมชอบแกล้งเขา แกล้งในช่วงเวลาที่มันเหมาะสม แต่ถ้าเขากำลังจะเข้าฉากดราม่า อันนี้ไม่แกล้ง ต้องให้พื้นที่ให้เขาได้อยู่กับตัวเองก่อน ส่วนมากผมจะแกล้งเวลาที่เขาว่างๆ เพราะเดี๋ยวนี้พอเขาว่างปุ๊บ เขาจะจับโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเกมเลย ผมก็จะแกล้งตอนนั้น ไปเขี่ย ไปลบเกมทิ้ง เขาก็จะโวยวายแล้ว อย่านะอย่า เดี๋ยวตาย ส่วนผมไม่ค่อยติดเกมอะไรแบบนี้เท่าไหร่ครับ”

ก่อนหน้าก็มีข่าวเป็นป๋าสายเปย์ซื้อของให้เปรี้ยว–ทัศนียาด้วย

“ข่าวเยอะจริงๆเนอะตัวผมเนี่ย (หัวเราะ) คือกับเปรี้ยวเนี่ยจากกอง บ่วงวิมาลาเลย ผมต้องบอกว่า ผมทำตามสัญญาครับ เราไปสัญญากับเขาว่าถ้าเขาลดน้ำหนักได้เท่านี้ ในเวลาเท่านั้นนะ เปรี้ยวอยากได้อะไรเปรี้ยวบอกเลย พี่มิกค์จะซื้อให้ เขาก็บอกพี่มิกค์พูดแล้วห้ามคืนคำนะตอนนั้นผมบอกให้เขาลด 5 กิโลกรัมในระยะเวลา 2 เดือน สรุปเขาทำได้ แล้วก็ทำได้มากกว่าที่ผมตั้งไว้ด้วย”

สรุปเปรี้ยวอยากได้ของรางวัลจากมิกค์ “ผมเป็นแค่จุดเล็กๆของการผลักดัน หรือกำลังใจให้เขาเท่านั้นเองครับ ผมว่าเปรี้ยวเขาทำได้ด้วยตนเองอยู่แล้ว ของรางวัลเป็นรองเท้าปราด้า คือตอนนั้นพอรู้ว่าเขาทำได้ ก็ถามคุณอยากได้อะไรพูดมาเลยนะ”

วันนั้นพาเขาไปซื้อเลย “มีพี่หนิง-ปณิตา ไปด้วยครับ พอไปถึงเขาก็บอกว่ามีเล็งๆไว้แล้ว ผมก็โอเค ได้ คือผมตั้งใจให้เขาอยู่แล้ว ผมก็เป็นคนแพ้ผู้หญิงพูดเพราะด้วยครับถ้าอ้อนๆมาหน่อยเนี่ย ผมหมดตัวแน่ๆ”

ดีนะเงินอยู่ กับคุณแม่ กับผู้จัดการ ไม่อย่างนั้นต้องเรียกว่า มิกค์เป็นป๋าสายเปย์ “ไม่ขนาดนั้นครับ (หัวเราะ) แต่พอเปรี้ยวได้ปุ๊บ พี่หนิงก็มาเลยแบบ ป๋ามิกค์คะ พี่หนิงยังไม่ได้อันนี้ เจ้ามุกดา นรินทร์รักษ์ ก็ โอ๊ย…พี่มิกค์ทำไมหนูไม่ได้ ผมก็ต้องบอกว่าทุกคนใจเย็นๆนะ เราไม่ได้มาทำกันง่ายๆ ต้องมีเรื่องราวก่อนนะ นานๆ ทีนะ เราไม่ทำกันถี่ๆ นะ ”

กับความรักตอนนี้ เราเปิดใจขนาดไหน

“เปิดใจแต่ก็ยังโสดสนิทครับ คือเรายังสนุกกับชีวิตทำงาน สนุกกับชีวิตโสด ที่รู้สึกว่ามันอิสระ อยากไปไหนก็ไปได้เลย อยากไปต่างจังหวัด อยากขับรถเที่ยว คือยังสนุกอยู่”

เรียกว่าเป็นช่วงที่โสดนานที่สุด “ก่อนหน้านี้ก็มีบ้างแหละครับผม แต่ก็มีน้อย (หัวเราะ)”

ตอนนี้มีคนเข้ามาแบบที่เราถูกใจ ถูกชะตาบ้างไหม “ก็มีคนน่ารักๆที่เรามีโอกาสได้คุยๆกันแต่ก็จะเป็นพี่เป็นน้องเป็นเพื่อนกันอยู่ในตอนนี้นะครับ อย่างที่บอกว่าเรายังไม่ได้โฟกัสมาก เรายังสนุกกับการเป็นอิสระของเรา แต่ว่าเราก็ไม่ได้ปิด ถ้าแบบวันไหนถ้าเรารู้สึกว่าเราคุยกับใครแล้วมันคลิกขึ้นมา มันโอเค มันก็อาจจะเป็นไปได้”

จะเป็นแบบพี่เวียร์ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) ไหม เปิดปุ๊บแต่งปั๊บ “(หัวเราะ) ละไว้ในฐานที่เข้าใจ ขอให้ไปคุยกับพี่ผมได้เลยครับ เพราะความสุขของพี่คือความสุขของผม”

ตอนนี้คือเรามีความสุขกับชีวิตโสด

“ณ ตอนนี้ใช่เลยครับ”

ไม่เหงาเหรอ “ไม่นะครับ เมื่อไหร่ที่เรารู้สึกเหงา เราก็ DM ไปหาคนคุยด้วยครับ คุยเป็นเพื่อน เป็นพี่น้อง”

การเป็นมิกค์ ทองระย้า มันทำให้เราเริ่มต้นคุยกับใครยากไหม “สำหรับตัวผมนะครับ ผมเป็นคนตรงๆ ถ้าเรารู้สึกตัวว่าชอบใคร แล้วเราอยากคุยกับใคร เราก็บอกเลยว่าเราชอบ แล้วผมก็จะจีบเลย เพียงแต่ ณ ตอนนี้ที่อายุเราเยอะขึ้นเรื่อยๆ เราคงต้องใช้เวลาหน่อย เราไม่รีบแล้ว ถ้าเรารู้สึกว่าเจอใครที่เขาน่าสนใจ เราคงใช้เวลาในการดูก่อน คงไม่รีบเหมือนเมื่อก่อนสมัยที่เราเป็นวัยรุ่น แบบที่ชอบปุ๊บจีบเลย คือวัยของเราตอนนี้ เราก็ต้องมองหาแม่ของลูกแล้ว ดังนั้นเราไม่อยากรีบครับ”

คิดในเรื่องของครอบครัว “ใช่ครับ มากขึ้น”

ลึกๆคุณแม่อยากอุ้มหลานแล้วหรือเปล่า “คุณแม่ยังไม่เคยพูดเลยครับ (หัวเราะ)”.

เรื่อง: วรรณี ห่อวโนทยาน

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2445742
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2445742