วันนี้มาร่วมรดน้ำศพซันนี่เป็นคนแรกๆ เลย?
“จริงๆ ถ้าเท้าความถึงผูกพันกับพี่ซันนี่ เราก็รู้จักกันมาร่วม 40 ปี เพราะว่าพี่ซันนี่เป็นรุ่นพี่ตั้งแต่ที่โรงเรียนเก่า โรงเรียนเซนต์ดอมินิก สนิทกันตั้งแต่สมัยประถม มานอนที่บ้าน มาวันเกิด จนเราเติบโตมาด้วยกัน จนพี่ซันนี่ได้เข้ามาอยู่ในวงการบันเทิงในค่าย คีตา เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ก็เป็นค่ายเดียวกันอีก ออกงานด้วยกัน โชว์ตัวด้วยกัน ถูกโกงด้วยกัน ผ่านกันมาหมดทุกอย่างครับ

เราเลยรู้สึกใจหาย เมื่อวานเราทำงานและมีคนขอพิกัดบ้านพี่ซันนี่ เราก็ยังถามเลยว่าจะไปสัมภาษณ์เหรอ แต่พอเขาบอกว่าพี่โก้รู้ยังว่าพี่ซันนี่เสียแล้ว เราก็ตกใจจนต้องหยุดงาน มันไม่มีวี่แวว ในแง่การทำงาน เมื่อย้อนกลับไปประมาณ 2 ปีที่แล้ว คอนเสิร์ต KITA Missing You ที่จะจัด ก็มีการเลื่อนแล้วเลื่อนอีก จนจะได้เล่นอีก 2 อาทิตย์ พี่กับพี่ซันนี่ต้องโชว์คู่กัน ซ้อมกันเสร็จ แต่มันเป็นเรื่องธรรมชาติ เพราะต้องปิดประเทศ และก็เลื่อนไปโดยไม่มีกำหนด

แต่เราก็ได้มีการคุยกันผ่านทางโซเชียล เราจะมีไลน์กลุ่มเด็กนักเรียนเซนต์ดอมินิก ในกลุ่มก็จะมีการคุยกันว่าเป็นยังไงบ้าง เดือน ก.พ. ที่ผ่านมา เขายังขอรูปเขาสมัยเด็กๆ สมัยนั้นเขาไปประกวดสยามกลการ ไม่มีวี่แววเลย จนเมื่อเดือนที่แล้ว เดือน มิ.ย. เป็นเดือน Pride Month ก็ยังจะนัดมามีตติ้งชาวเรา แต่พี่ซันนี่หายไปเลย แต่ความที่หายไปเลยในกลุ่มก็ไม่มีใครเอะใจ คิดว่านางคงดูดวง ไม่ว่าง เพราะปีนี้พี่ซันนี่ก็อายุ 50 เอง ก็ไม่มีอะไร

จะถามว่ามีลางมั้ย ช่วงอาทิตย์นึงที่ผ่านมา คนชอบมาถามเราว่าซันนี่เป็นยังไงบ้าง เราก็บอกไม่รู้เหมือนกัน นางคงปลีกวิเวกตามสไตล์นาง บางทีนางอยากไปต่างประเทศก็บินไปทำงานเลย บางทีจะไลฟ์ดูดวงก็ไลฟ์ทั้งวันทั้งคืนไม่ออกไปไหนเลย เลยไม่ได้คิดว่าจะมีปัญหาตรงนั้น”

เรื่องอาการป่วยของซันนี่ไม่ได้อัปเดตกันเลย?
“คือพี่ซันนี่เวลาเขาเล่าเรื่องเจ็บป่วย เขาจะไม่เล่าเหมือนคนที่เจ็บป่วย เขาจะเล่าเหมือนเอนเตอร์เทนว่าฉันเป็นมะเร็ง แต่เราคิดว่า 3-4 ปีที่แล้ว เขาน่าจะดีขึ้นแล้ว เพราะตอนเจอกันที่คอนเสิร์ตคีตา เขาก็ควบคุมเรื่องอาหารการกินทุกอย่าง

แต่สิ่งหนึ่งที่เราคิดอยู่ในใจ และเพื่อนหลายคนรู้กันในวงใน เขามีภาวะซึมเศร้าด้วย ด้วยความซึมเศร้าหรือเปล่า เวลามีเรื่องทุกข์ใจ แกจะปลีกวิเวก ไม่อยากบอกใคร จนทำให้หลายๆ คนพลาดโอกาสที่จะได้คุยหรือช่วยเหลือกัน บ้านเราไม่ไกลกัน แต่เราห่างกันไปช่วงโควิดก็แยกย้ายกันไป

สุดท้ายก็เป็นอุทาหรณ์ทำให้เราได้คิดว่าเรื่องสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะสุขภาพจิต มันเกิดจากความเครียด แต่ถ้าเครียดและได้พูดบ้างอย่างน้อยมันจะทำให้เราไม่ป่วยหนัก แต่ถ้าเครียดแล้วเก็บสะสมๆ บางทีพอรู้ก็สายไปแล้ว”

มองว่าโรคซึมเศร้าอาจเป็นส่วนหนึ่ง?
“โก้ว่าอาจเป็นส่วนนึง เพราะปกติเราเจ็บป่วยจะตีโพยตีพาย ขอความช่วยเหลือ แต่ด้วยความที่พี่ซันนี่เป็นคนที่ไม่ชอบเอาภาระไปให้ใคร กับโก้เขาก็ไม่เคยยืมเงินเลย เขาไม่สร้างภาระให้ใคร เราก็เลยรู้สึกเสียดายจริงๆ มันเร็วไปจริงๆ เขาเป็นคนสู้ชีวิตตั้งแต่เด็ก เขาไม่ได้เกิดมาสบาย พี่ซันนี่เป็นคนลำบาก ครอบครัวไม่ได้อยู่ด้วยกัน”

พอเขาเจ็บป่วยแล้วไม่ปริปากบอก เรารู้สึกยังไง?
“จริงๆ สัมภาษณ์ในสื่อแกก็บอกว่าป่วย แต่เป็นลักษณะบอกแบบเอ็นเตอร์เทน ไม่ได้บอกว่าฉันไม่ไหวแล้ว มันไม่ได้ถูกเสนอในแง่ความน่าสงสาร เขาก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการปฏิบัติต่างๆ”

เมื่อกี้พูดอะไรกับเขาตอนไปรดน้ำศพ?
“โก้ก็บอกเขาว่าพี่ซันนี่ไปสบายแล้วนะ พี่ได้ไปสวรรค์ก่อนใคร ไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องมีภาระ มีห่วงอะไรอีกแล้ว ไปในภพภูมิที่ดี อยู่ในที่ที่มีแต่คนรักเรา ยอมรับเรา (เสียงเครือ)”

ภาพจำของซันนี่ ประทับใจอะไรซันนี่บ้าง?
“(ร้องไห้) เขาเป็นรุ่นพี่ที่ดี เป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนและในวงการที่ดี ซัพพอร์ตในเรื่องของคำแนะนำหรือว่ากำลังใจให้มาตลอด”.