“โป๊ป-ธนวรรธน์” อัปเลเวลคลั่งรัก “เบลล่า” รอเจอรักจริง ผ่านจุดฟีเวอร์มองอย่างเข้าใจ


ให้คะแนน


แชร์

บทที่แตกต่างจาก “พี่หมื่น” สู่ “ภพ”?

“บทเรื่องนี้ไม่เหมือนพี่หมื่นในละคร พี่หมื่นจะนิ่งๆดุๆเก็บความรู้สึกจะเก๊กๆแต่ตัวภพจะเป็นคนคลั่งรัก ซึ่งไม่เหมือนตัวจริงของผมเท่าไหร่ (หัวเราะ) ต้องเรียนการแสดงเยอะมาก (ยิ้ม) ปกติละครที่ผ่านมาผมจะเล่นเป็นคนอบอุ่นพูดน้อย เขินอาย แต่เรื่องนี้คือไม่เขินเท่าไหร่ เป็นคนคลั่งรัก ตามจีบนางเอกทุกรูปแบบ มีความตลกน่ารัก เป็นการแสดงที่ผมไม่ค่อยได้แสดงเท่าไหร่”

พอเป็นคนคลั่งรักในจอแล้วนอกจออยากเป็นอย่างนั้นมั้ย? “ตอบยากเลย ผมวางการแสดงก็ส่วนการแสดง แต่ชีวิตจริงก็จะแยกแยะได้ คิดว่าคงไม่นะ เป็นคนไม่ได้คลั่งรักมาก”

แล้วบท “ภพ” มีอะไรคล้าย “โป๊ป” บ้าง? “น่าจะเป็นเรื่องความกวน รู้สึกยังไงก็พูดอย่างนั้น ไม่ค่อยเก็บ ภพจะมีความตลกด้วย ผมว่าจริงๆตัวละครภพใกล้เคียงกับผมมากกว่าพี่หมื่นอีก ยกเว้นเรื่องคลั่งรัก (หัวเราะ) เพราะภพเค้าคือเจอบุพเพสันนิวาส เจอคู่ในฝันแล้ว และทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เค้ามาเป็นคู่ ต้องไปดูในหนังว่านางเอกปฏิเสธเรายังไง ถ้าเป็นเราชีวิตจริงโดนปฏิเสธอย่างนั้นคงไม่กล้าแล้ว แต่ตัวภพไม่ยอมแพ้ เพราะคิดว่านี่คือผู้หญิงคนสุดท้ายของเราแล้ว”

กลับมาเจอ “เบลล่า” ครั้งนี้แบบคลั่งรัก ทำงานร่วมกันเป็นยังไงบ้าง?

“สนุกครับ เบลก็ยังเหมือนเดิม ค่อนข้างรู้ทางในการแสดง จะมีการนอกบทอิมโพรไวซ์กันได้อีกนิด เพราะเราค่อนข้างที่จะเข้าใจกันในการแสดง ผมก็ใช้ความรู้สึกในการแสดง เวลาเบลเป็นเกสรแล้วส่งอะไรมาแล้วผมเป็นภพกลับไปยังไง มันค่อนข้างที่จะเนียนในการแสดงแม้แต่ไปทำงานในละครพรหมลิขิต ก็เป็นอีกคาแรกเตอร์ ก็เข้ากันได้ดี ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร”

รับส่งมุกทันกันตลอด? “ใช่ครับ เข้าบทตามนั้นแล้วก็จะมีรายละเอียดเล็กๆซึ่งมันไม่มีในบท เราก็จะใส่เข้าไปในการแสดงโดยเป็นคาแรกเตอร์ตัวนั้นได้อย่างลงตัว”

เรื่องความฟินล่ะมากน้อยแค่ไหน? “เรื่องนี้มีหลายอารมณ์ จะไม่เหมือนบุพเพฯที่เป็นละครที่ว่าเอะอะเดี๋ยวก็ขาอ่อน ล้มทับกัน แต่เรื่องมันสนุกค่อยๆปูเรื่องมาแต่ด้วยความเป็นหนังมันต้องกระชับ และในทางของจีดีเอชบทก็ลงตัวอยู่แล้ว บทอาจจะไม่ได้ฟินขนาดนั้นเหมือนในละคร แต่จะค่อยๆทำให้คนยิ้มและน่ารักแนวนั้นมากกว่า”

ในละครมีโล้สำเภา ในหนังจะโล้อะไรมั้ย? “ผมก็อยากให้มีนะแต่มันไม่มี ก็ไม่รู้ถึงขั้นนั้นรึเปล่า มีเลิฟซีนครับแต่จะเยอะมากน้อยแค่ไหนต้องไปดูในหนังครับ”

แฟนคลับ “โป๊ป-เบลล่า” เหนียวแน่นรอคอยการกลับมาครองคู่?

“ผมรู้สึกมีกำลังใจในการทำงานจากแฟนคลับด้วยส่วนหนึ่ง รู้สึกว่าเค้ายังอยากดูงานที่เราทำ เหมือนเราวาดรูปสักงานแล้วมีคนอยากซื้อของของเรา เราก็มีแรงที่จะทำต่อ แฟนคลับก็เป็นกำลังใจที่ดี ดีครับ ขอบคุณเบลด้วยครับ ส่วนกระแสเชียร์ผมกับเบล ส่วนใหญ่เค้าก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นพี่น้องกัน สนิทกับเบลจนเหมือนน้องสาวแล้ว เลยไม่รู้ยังไงต่อ หมายถึงว่าไปต่ออย่างนั้นมันไม่ได้ไง ทำงานด้วยกันมานาน 6-7 ปีเลยนะ ไม่ได้คิดถึงตรงนั้น คุยไลน์กันหรือโทร.หรือเจอกันที่กองก็เหมือนคุยกับพี่น้อง กองเชียร์เชียร์ต่อไปก็ได้”

ความรู้สึกจากละครสุดฟีเวอร์มาสู่ภาพยนตร์ในวันนี้?

“ในการทำงานบุพเพสันนิวาส ๒ กับ จีดีเอช สนุกมากครับ หนังมีมุกต่างๆค่อนข้างแตกต่างกับละคร หวังว่างานที่ออกมาจะประทับใจคนดู มันมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว เพราะละครจะเป็นมุกประมาณนึง ส่วนหนังก็จะเขียนใหม่หมดเลยมีทั้งความตลก ซึ้ง จิ้นก็มี สนุกตลกอมยิ้ม พอเป็นหนังมันยาวแค่ 2 ชม.กว่า ก็จะเอาทุกอย่างมารวมเล่าเรื่องให้ได้กระชับสนุกที่สุด”

ทำงานกับปิ๊ง–อดิสรณ์ ผู้กำกับ เป็นไงบ้าง? “ตอนแรกๆผมก็ไม่ค่อยสนิทกับพี่ปิ๊งเท่าไหร่ ทำงานไปเรื่อยๆ ก็กล้าคุยกล้าถามมีความคิดเห็น เริ่มเสนอว่าซีนนี้ไม่ควรเล่นขนาดนี้ เค้าก็เข้าใจเราและแฟร์ในเรื่องการทำงาน บางทีเรามีความคิดเห็นในตัวละครที่ใช่กว่าเค้าก็รับฟังก็เป็นการทำงานที่สนุกครับ ส่วนทำงานร่วมกับนักแสดงคนอื่น จะเข้ากับไอซ์-พาริส เยอะ เค้าก็เป็นคนตั้งใจทำงาน น่ารักนอบน้อม ทำการบ้านมาเยอะ ตั้งใจทำงาน เรื่องส่วนตัวก็ปกติแซวเล่นกัน”

ไอซ์บอกว่าโดนแกล้งเยอะอยู่? “ไม่หรอก เราเป็นพี่ก็อยากแหย่เค้า ทำความรู้จักเค้า ก็มีมันเขี้ยวบ้างชอบแหย่น้อง สนุกดี”

ความยากที่สุดของโป๊ปในการแสดงเรื่องนี้คืออะไร?

“จะบอกว่าไม่ยากเลย ผมแสดงหนังเรื่องนี้แล้วผมรู้สึกว่าสบาย ผ่อนคลาย สนุกกับการทำงาน จะเหนื่อยมากกว่าตรงคิวเยอะและถ่ายฉากบู๊คือเหนื่อย เพราะบู๊จริงจังมากจัดเต็ม มันมีทุกอย่างเลยในหนังทั้งตื่นเต้นสนุก พอจะดราม่าก็มีตลกตบ หลายรสชาติ สร้างเรือใหญ่มากได้แสดงบนเรือใหญ่ ผมเป็นคนมาจากหนังบู๊ ผมประกวดจะเด็ดมา ต้องซ้อมคิวบู๊ พอผมเล่นบู๊ทุกคนจะบอกว่าเล่นได้ด้วยเหรอ เรามีพื้นฐานคิวบู๊ ก็รื้อวิชาหมัดต่อย ดาบ ม้า ได้หมดแค่เหนื่อยนิดหน่อย เมื่อก่อนบู๊ตอนอายุยี่สิบต้นๆ ตอนนี้ก็ยี่สิบปลายๆแล้วเนอะ เลยเหนื่อยนิดนึง (หัวเราะ)”

สิ่งที่ประทับใจที่สุดในการทำงานเรื่องนี้คืออะไร? “ความเป็นมืออาชีพในการทำงานครับ ค่อนข้างเป๊ะ ผมชอบทำงานที่เป็นระบบประทับใจตรงนี้และเป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงานกับจีดีเอชด้วยก็คุ้มค่าและดีใจที่ได้มาร่วมงานด้วยครับ”

กดดันมั้ยกับการ กลับมามีผลงานครั้งนี้?

“ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงกดดันมากว่ามันจะเป็นยังไงออกไปทางไหน แต่ตอนนี้เฉยๆ ความคิดมันก็เปลี่ยนไป ผมก็ทำงานทุกอย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะตั้งแต่เริ่มเตรียมตัว เข้าคาแรกเตอร์ อัดเสียง โปรโมต ผมทำทุกอย่างด้วยความเต็มที่และความรักงานจริงๆ เมื่อก่อนอาจจะมีความคาดหวังเยอะว่าต้องประสบความสำเร็จ ต้องดัง แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว จะเป็นยังไงก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต และไม่ได้คาดหวังว่าหนังจะเป็นยังไงจะดีไม่ดี สุดท้ายแล้วบุพเพก็ทำให้เห็นว่าพอสำเร็จแล้ว สุดท้ายมันก็เป็นแค่อดีตที่ผ่านมาแล้ว ก็ต้องเริ่มต้นใหม่อยู่ดี ปัจจุบันนี้ก็เลยไม่ค่อยคาดหวังอะไรก็ทำให้ดีที่สุดในปัจจุบัน จะยังไง ก็ได้ ผมก็ผ่านมาหมดแล้ว ทำให้ดีที่สุด อยากให้งานออกไปแล้วคนดูได้ผ่อนคลายได้สนุกกับสิ่งที่เราตึงเครียดมาตลอดหลายปี เลยรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้จะทำให้คนไทยได้แฮปปี้ได้รับมุมมองดีๆ”

หวังถึงเป็นพระเอกพันล้านมั้ย? “ได้นะครับ ผมว่าศักยภาพของหนังถึงอยู่แล้ว ในความใหญ่ความสนุกที่ผมได้ดูบางส่วน จากที่ถ่ายทำอ่านบท ทุกคนบอกว่ามันดีมากจริงๆ ขึ้นอยู่กับว่าคนดูจะเข้าไปอุดหนุนไปดูมั้ย”

เราเป็นสายมูขอพรให้ปังบ้างมั้ย? “ไม่เลย เอาจริงๆชีวิตผมไม่เคยขออะไร ผมเชื่อในการกระทำมากกว่า ถ้าเราตั้งใจทำอะไรและซื่อสัตย์กับมันจริงๆเต็มที่กับมันด้วยความใส่ใจมันรู้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำงานแต่ละอาชีพคืออะไร ผมว่าไม่ต้องมูอะไรเพราะผมพิสูจน์กับตัวเองมาแล้วว่าผมไม่เคยขออะไร ผมแค่ทำดีที่สุด พยายามเป็นคนดีให้ได้มากที่สุด แล้วเดี๋ยวสิ่งดีๆมันก็จะเข้ามาเองในชีวิต”

เชื่อเรื่องบุพเพสันนิวาสมีจริงมั้ย? “ผมว่าของแบบนี้เป็นเรื่องที่ไม่มีใครรู้ บางคนก็ไม่เชื่อ บางคนก็เชื่อ ผมก็ตอบไม่ได้จริงๆ แต่ผมว่ามันก็คงทำมาด้วยกันแหละ ที่เราจะเจอใครสักคนและต้องใช้ชีวิตร่วมกัน ผมว่าต้องทำมาร่วมกันไม่ว่าชาติไหนก็ตาม แต่บุพเพสันนิวาสอย่างในหนังก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง”

เรื่องหัวใจตอนนี้ยังนิ่งๆ?

“ใช่ครับ ยังเหมือนเดิมเลยเหมือนเริ่มชินแล้ว เมื่อก่อนก็ยังมีสาวๆ เข้ามาบ้างนะ แต่พอโควิดปุ๊บสถานการณ์เปลี่ยนเลย อยู่กับเพื่อน เตะบอล ฟิตเนส ตีกอล์ฟอย่างเดียว ยังคุยกับรุ่นน้องว่าหาแฟนให้หน่อยแต่ก็พูดเล่นๆกันแหละเพราะเราเหงา จะมีแฟนก็ได้แต่ถ้าไม่มีผมก็อยู่คนเดียวได้เพราะใช้ชีวิตอย่างนี้มานานหลายปี คือถ้าเราเจอคนนั้นเราก็มีได้ ก็พร้อมที่จะอยู่กับเขาแต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร เพราะมันชินแล้วเท่านั้นเอง แต่ถ้าวันนึงเจอคนคนนั้น ก็คงใช่ครับ”

ถ้าเจอคนที่ใช่ก็แต่งเลยมั้ย? “ผมไม่อยากแต่งงานนะ อยากอยู่กันเป็นเพื่อนไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่รู้ถ้าอนาคตอาจจะแต่งก็ได้หรืออาจจะอยู่คนเดียวแบบนี้จนแก่ก็ได้”

มีสเปกผู้หญิงตายตัวมั้ย?

“ไม่มีหรอก ชอบผู้หญิงสวยน่ารักปกติเหมือนผู้ชายทั่วไปแหละ”

เบลล่าตรงสเปกอยู่นะ? “เบลก็ตรง ก็เป็นผู้หญิงที่สวยแต่เราค่อนข้างสนิทกันและเห็นกันหลายๆด้าน กลายเป็นความผูกพันที่คบกันแบบเพื่อน ผมมองเบลอย่างนั้น ตอนที่ยังไม่ได้ทำงานกันต่อเนื่องก็มองว่าเค้าสวยมากแต่พอได้ทำงานกันไปเรื่อยๆกลายเป็นน้องสาวอย่างนั้นไปแทนมากกว่า มันไม่ถึงกับรู้ไส้รู้พุงทุกอย่างของเบลเพราะผมก็ยังให้เกียรติน้อง ไม่ถามอะไรที่เป็นส่วนตัวเลย ทำงานด้วยกัน 6 ปี ไม่เคยคุยนอกเรื่อง นอกจากเรื่องงาน เรื่องในกอง หรือว่าเป็นโควิดเป็นยังไงมากกว่าแค่นั้นเลยครับ”

หลายคนเฝ้ารอว่าผู้หญิงของโป๊ปคนนั้นจะเป็นใคร?

“ผมก็รออยู่เหมือนกัน (ยิ้ม)”

มีแล้วจะเปิดมั้ย? “คือผมชอบคบเงียบๆ คุยกับใครแล้วผมชอบพิสูจน์ว่าเค้ารักเรา คือว่าอยากเปิดหรือเปล่าหรืออยู่กันเงียบๆแล้วรักกันได้ ผมเป็นอย่างนั้นมากกว่า ผมไม่ได้กลัวแฟนคลับหวงหรือกลัวว่าใครจะมองยังไง แต่แค่พิสูจน์ใจอะไรหลายๆอย่าง ผมคิดว่าถ้าคนที่อยู่กับผมได้เขาก็ต้องเป็นคนที่มีจิตใจที่ดีเหมือนกัน ที่รักเราในแบบนี้”

เรื่องมีลูกล่ะ? “ผมไม่ได้อยากมีลูก ต่อให้แต่งก็จะไม่มีลูกครับคือคิดว่าการมีลูกก็อาจจะไม่ใช่สิ่งสูงสุดในชีวิต ไม่ได้เป็นความสุขที่สุด มีลูกเราก็อาจจะมีห่วงเยอะมันจะเป็นทุกข์มากกว่า”.

เรื่อง: สุภลัคน์ วุฒิกรีธาชัย

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2452628
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2452628