เห็นว่าตอนนี้งานเยอะมาก?

แม่อี๊ด: ตอนนี้มีละคร 4 เรื่อง

แม่โย: เหลือ 4 เรื่อง ปิดไป 3 เรื่อง วันๆ ตื่นมาก็คือไปทำงานเลย ไปกองถ่ายแทบจะทุกวัน เป็นแบบนี้มานานแล้ว

ทั้ง 2 คนเป็นเพื่อนรักกันมา 50 ปีแล้ว?

แม่อี๊ด: เป็นเพื่อนรักกันมา 50 กว่าปีแล้ว ต่างคนต่างมีฉายา เพื่อนๆ ในแก๊งจะเรียก “หมวย”

แม่โย: คือไม่มีใครรู้เลยนะ ถ้าเพื่อนในกลุ่มเดียวกันจะเรียกเขาว่า “หมวย” ส่วนแม่ฉายาในวงการคือ “ลูกเป็ดขี้เหร่” เพราะว่าไม่สวยไง คือจริงๆ แม่เกิดเร็วผิดยุคค่ะ แต่ก่อนนี้เขาไม่นิยมคนผอมๆ ยาวๆ เขาไม่นิยม สมัยก่อนเขาฮิตสาวน้อยตัวเล็กๆ ไซส์มินิ ถ้าเกิดเกิดยุคนี้ก็จะเป็นโมเดล สวยแต่อาจจะไม่ได้เป็นที่นิยมของยุคนั้น

สนิทกันมา 50 ปี แต่นิสัยไม่เหมือนกันเลย?

แม่อี๊ด: แม่ก็จะเป็นคนสันโดษ สาวๆ จะพูดน้อย หลังกล้องก็จะไม่ค่อยคุยกับใคร

แม่โย: เขาเป็นคนพูดเบา พูดช้า เสียงเบา ไม่พูดคำหยาบ เวลาเราสอนให้เขาเวลาโมโหให้ด่าไปสิ แต่กว่าเขาจะพูดออกมาได้คนนั้นเขาไปไหนแล้วก็ไม่รู้

สมัยก่อนแม่โยเป็นยังไง?

แม่อี๊ด: เขาห้าวค่ะ เหมือนทหารทั้งกองพัน พร้อมรบพร้อมสู้ ปะทะตลอด พร้อมลุยตลอด ต้องบอกโยเย็นไว้ เขาเดือด

อย่าคำหยาบสุดในชีวิต?

แม่อี๊ด: บ้า คือโยเขาเคยจ้างแม่ให้ด่า ถ้าพูดคำนี้ออกมาจะให้สองพัน เมื่อ 50 ปีที่แล้วนะ คือเขาจะให้เราพูดคำว่า “อาเฮีย”

สิ่งหนึ่งที่ “แม่โย” ทน “แม่อี๊ด” ไม่ได้คือเรื่องความสะอาด?

แม่โย : คือคนเราร่างกายก็จะมีแบคทีเรียคุ้มกัน ไม่ว่าจะเป็นผิวหนังหรือฟัน คนนี้เขาฟันผุ ไม่ใช่เกิดจากความสกปรกนะ แต่คนนี้เขาแปรงฟันมากเกินไป แปรงฟันจนฟันผุ อาบน้ำมากเกินไปตัวก็เป็นผื่น เขาก็ให้เหตุผลว่าที่อาบบ่อยเพราะฝุ่นมันเยอะ

“แม่อี๊ด” มีอะไรของ “แม่โย” ที่เราไม่ชอบ?

แม่อี๊ด : เยอะเลยค่ะ มากมาย ที่สุดคือนางสามารถลืมน้องขวัญได้ที่เป็นลูกรัก ลืมไปรับลูกที่โรงเรียน จนทุกคนกลับบ้านไปหมดแล้ว เห็นรถแม่อยู่ไกลเลยไปเคาะเรียก สรุปเขาหลับในรถ แล้วเขาไม่เคยจำอะไรเกี่ยวกับลูกเขาได้ คุณหมอถามอะไรเกี่ยวกับลูกก็จำไม่ได้ คือสนิทกันมากแต่จำไม่ได้

แม่โย : คือไม่จำ เรื่องมันแล้วไปแล้วมันรกสมอง เลยไม่เก็บอะไรไว้ จำแต่บทละคร

สนิทกันขนาดนี้มีเรื่องทะเลาะมั้ย?

แม่อี๊ด : ก็มีเรื่องที่ไม่ถูกใจ แต่ไม่ถึงกับทะเลาะ คือเรื่องที่ไปทานข้าว ขับรถไปก็จะต้องจอดตรงร้านอาหาร ตรงประตูแล้วจะไม่จอดรถชั้นครึ่ง คือเขาจะเป็นคนยึดติดจะไม่เดินไกล แล้วเวลากินข้าวก็จะต้องกินตรงเวลาเป๊ะตอนเที่ยง

แม่โย : เรากลัวเป็นโรคกระเพาะ เวลาเที่ยงก็ต้องกิน หิวๆ ต้องกินเลย ตอนเย็นก็ต้องกิน 6 โมงเป๊ะ

เห็นว่ามีคนนึงตัดขนจมูกจนป่วย?

แม่โย : จะมีใครล่ะ เราก็บอกว่าขนจมูกมีไว้กรองฝุ่นละอองไม่ให้แบคทีเรียเข้าไป

แม่อี๊ด : ก็คือมันไม่เรียบร้อย ถ้าเป็นผู้ชายเห็นขนจมูกก็จะไม่เป็นอะไร แต่ผู้หญิงก็คือไม่เรียบร้อย

เห็นแบบนี้คือก็เคยทะเลาะกันครั้งใหญ่เลย?

แม่อี๊ด : มันก็เป็นเรื่องธรรมดานะ ลิ้นกับฟันก็มีบ้าง เป็นสัจธรรมของชีวิต เรื่องของเราเหมือนแค่ทายาหม่องก็หาย ไม่ต้องผ่าตัด

แม่โย : คือมีคนมาบอกเขาให้เข้าใจผิด แล้วเขาก็เปลี่ยนไป คือไม่รู้ว่าเขาไปฟังอะไรมายังไง เขาก็ไม่ถาม

นานมั้ยกว่าจะเคลียร์กัน?

แม่อี๊ด : ก็ไม่นานนะ เพราะเราสองคนจริตตรงกัน ไม่เก็บอะไรเล็กๆ น้อยๆ มาเก็บไว้ อะไรข้ามได้ก็ข้าม แม่จะยึดสายกลาง ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ คบกันมา 50 ปีก็ต้องมองข้ามกันไปบ้าง

เป็นคู่เลสเบี้ยนคู่แรกของวงการไทยเลย?

แม่โย : มันเกิดเพราะว่าเราไปไหนไปด้วยกันตลอด และไม่มีแฟน ด้วยบุคลิกด้วยเพราะเขาเป็นคนนุ่มนิ่ม ส่วนเราห้าวๆ ก็จั่วหัวหน้าหนึ่งเลย ตอนนั้นเราอ่อนต่อโลกไม่รู้ว่าเลสเบี้ยนคืออะไร จนมีคนบอกๆ แม่อี๊ดเขาก็เสียใจร้องไห้ แต่ยุคนั้นคงหาเหตุมาเม้าส์กันไม่ได้ ยุคนั้นคือไม่มีเรื่องการฟ้องร้อง เรื่องเมื่อ 40 ปีที่แล้ว คือมีคนเชื่อด้วยนะ แม่ค้าก็เอาไปเม้าส์

แม่อี๊ด : ก็เสียใจ ขับรถอยู่น้ำตาก็ไหลมองไม่เห็นถนนเลย

เมื่อก่อนนี้มีเสี่ยมาจีบ “แม่อี๊ด” เยอะมาก?

แม่โย : เยอะมาก

แม่อี๊ด : จริงค่ะ ก็อาจจะเป็นบุคลิกหญิงไทย ไม่ทราบคนเขามองเรายังไง ตอนนั้นอายุ 22-23 คงเป็นสาวเต็มตัว ในวงการก็มี ก็ไม่ทราบว่าเขามายังไง เป็นเจ้าของกิจการ ผู้อำนวยการสร้าง

เขาเปย์มั้ยแม่?

แม่อี๊ด : เขาก็ไม่ถึงกับเปย์

แม่โย : เขารักจริงหวังแต่ง มาสู่ขอที่บ้านเลย มีฐานะออกไปทางจีนๆ หน่อย มาถึงบ้านจะมาสู่ขอกับพ่อแม่เขา แต่เขาไม่เอาสักคน เขาไม่ชอบ เราก็สแกนให้เขา ถ้าเขาไม่ชอบ เราก็กันให้

ทำไมไม่เลือกสักคน?

แม่อี๊ด : บางคนอาจจะไม่ใช่คู่กัน เชื่อในเรื่องของคู่กัน เชื่อเรื่องบุพเพฯ

ทำไมถึงมาลงเอยกับสามี?

แม่อี๊ด : คือเขาก็เป็นลูกท่านหลานเธอ เราเต้นกินรำกิน แต่เพื่อนๆ เชียร์ทุกคน

แม่โย : เพื่อนๆ เชียร์เขาเป็นคนน่ารัก เข้ากับเพื่อนๆ ได้ แป๋มเขาก็ชอบเพื่อนๆ ก็ยุ คนนี้เชียร์เพราะไม่เหมือนกับทุกคน

ทุกวันนี้สามีคลั่งรัก และกลัวแม่อี๊ดมาก?

แม่อี๊ด : ไม่กลัวหรอก ขอแก้ข่าว คนเป็นเมียและแม่เท่านั้นที่จะรู้ว่าเหตุการณ์ในครอบครัวในบ้าน มันจะมีทั้งมุมมืดและมุมสว่าง

แม่โย : ถ้าเขาองค์ลงคือเขาจะดุกว่าเราอีก

เวลาโกรธคือเขาทำให้เราโกรธขนาดนั้นเลยเหรอ?

แม่อี๊ด : คือถ้าเราผิดเราก็จะขอโทษ โกรธมันก็ต้องมี เพราะชีวิตคู่เราก็อาจจะไม่ได้ดั่งใจสามี แต่เขาแค่ไม่แสดงออก

“แม่โย” เป็นคนหวงเนื้อหวงตัวมาก?

แม่โย : หัวโบราณมาก มาถูกเนื้อต้องตัวไม่ได้นะ เราเป็นคนชอบคนยากมาก หว่านเสน่ห์ไม่เอาเลย เราเป็นคนกระด้าง มีคนชวนไปประกวดนางสาวไทยก็ไม่กล้าไป ที่บ้านดุ พี่ชายก็บอกจะไปใส่ชุดว่ายน้ำโชว์เขาเหรอ คือไม่คิดว่าจะไปเลยนะ เพราะไม่กล้า

แต่คนก็แซวว่า “แม่โย” ห้าวๆ แต่ก็ท้องคนแรกของกลุ่มเลย?

แม่โย : (หัวเราะ)

อาอี๊ด : ใช่ค่ะ คนที่ถูกลือว่าเป็นทอม แต่ท้องคนแรกเลย

แม่โย : ลืมไปค่ะ กันให้คนอื่น ลืมกันให้ตัวเอง

เจอนักแสดงมาเยอะ แต่เจอนักแสดงรุ่นลูกเชิดใส่?
อาอี๊ด : คือเราชวนเขามาต่อบทกัน แต่เขาก็แบบอะไรอะ? คือมันนานแล้ว พอมาหน้าฉากเขาก็ทำได้ แต่มันไม่ได้เข้าเนื้อ เหมือนเราปรุงอาหารขลุกขลิก

“แม่โย” คิดว่านักแสดงรุ่นใหม่ควรต่อบทมั้ย?
แม่โย : คือไม่ว่าจะรุ่นไหนก็ควรค่ะ มันเป็นงาน มันเป็นการทำงานที่ทุกคนต้องเข้าถึงตัวละคร และอินตัวละคร เข้าถึงคนดูได้ แต่เดี๋ยวนี้เขาไม่เห็นความสำคัญ ก็บอกเตือนไม่ได้.