ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 9 พ.ย. 2562 ทั้งคู่ได้เข้าพิธีวิวาห์ตามหลักศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก ณ โบสถ์อัสสัมชัญ บางรัก ท่ามกลางคนในครอบครัวทั้งสองฝ่ายมาร่วมยินดี รวมไปถึงเพื่อนสนิทและคนในวงการบันเทิงที่มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก และเมื่อเวลา 16.00 น. ทั้งคู่ก็ได้เปิดใจถึงการเข้าพิธีแต่งงานต่อหน้าสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก ณ บ้านน้อย โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ

เปาวลี-เอิร์ธ

ถามถึงพิธีเข้าโบสถ์เมื่อเช้าเป็นยังไงบ้าง?
เปาวลี “ก็เป็นพิธีคาทอลิกนะคะ เป็นคนละแบบกับวันที่ 2 พ.ย. ซึ่งจะเป็นเน้นสนุกสนานกัน แล้ววันนี้ก็เน้นพิธีที่เรียบง่ายศักดิ์สิทธิ์ค่ะ หนูเปลี่ยนมาเป็นคาทอลิกตั้งแต่เดือน เม.ย. ที่ผ่านมาค่ะ”

เห็นมีการกล่าวคำมั่นสัญญาด้วย?
เอิร์ธ “มีครับ ก็ตื่นเต้นครับ เพราะว่าเราจำอะไรไม่ค่อยได้กัน แต่จริงๆ บทก็พูดออกมาจากใจเราครับ”
เปาวลี “ตื่นเต้นค่ะ (หัวเราะ) เจ้าบ่าวยังอ่านโพยอยู่เลยค่ะ”
เอิร์ธ “แต่เราก็พยายามซ้อมกันมา 2-3 คืนแล้ว แต่จำไม่ได้”
เปาวลี “ก็เป็นคำมั่นสัญญากันว่าจะรักและซื่อสัตย์กันละกันค่ะ”

มีน้ำตามั้ยตอนอยู่ในโบสถ์?
เอิร์ธ “น้ำตาคลอนิดหน่อยครับ พ่อแม่ด้วยครับ ผมก็น้ำตาคลอครับ แต่ก็แอบเก็บๆ นิดนึง ถามว่าบอกอะไรเจ้าสาวมั้ย ไม่ได้บอกอะไรมากครับ แต่เราก็สัญญากันตามพิธีว่าจะรักกัน ดูแลกันไปเรื่อยๆ จนกว่าชีวิตจะหาไม่ครับ”
เปาวลี “ไม่ร้องค่ะ เข้มแข็ง (หัวเราะ) เรามีความปลื้มปีติค่ะ คือมันมีความรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่ดีมากๆ เพราะเราได้เห็นครอบครัวของเราทั้งสองฝ่าย และได้เห็นแขกผู้ใหญ่ที่มาร่วมงานเรา ก็รู้สึกดีใจมากๆ ค่ะ”

เตรียมจะไปฮันนีมูนที่ไหน?
เปาวลี “เชียงใหม่ (หัวเราะ)”
เอิร์ธ “อันนั้นไปเที่ยว (ยิ้ม) ก็กะว่าจะไปญี่ปุ่นกันครับ จะไปต้นปีหน้าเนอะ (หันไปมองเปา)”
เปาวลี “ประมาณเดือน ก.พ. ค่ะ ว่าจะไปเที่ยวญี่ปุ่นกัน”

เปาวลี-เอิร์ธ

จะมีทายาทเลยมั้ย?
เอิร์ธ “เปาเขาขอทำงานก่อนปีนึงครับ งานเข้ามาเยอะเขาบอก”
เปาวลี “เพราะปีหน้าจะมีโปรเจกต์พิเศษไงคะ ก็กำลังทำอยู่ด้วย เราก็รู้ช่วงเวลางานของเราว่าประมาณกลางปีมันจะมีงาน แต่เราก็ไม่ได้ปิดกั้นเนอะ ก็อยากให้มาเหมือนกัน (หัวเราะ) ก็ปล่อยธรรมชาติ”
เอิร์ธ “แต่ว่าก็คุยกันว่าอยากลองไปตรวจก่อน”
เปาวลี “ก็ว่าจะเช็กสุขภาพกันก่อนค่ะ”
เอิร์ธ “ถามว่าอยากมีมั้ย ก็โอเคมีได้ครับ แต่คุณพ่ออยากมีกว่า คุณพ่ออยากอุ้มแล้วครับ ก็ถามเกือบทุกวันว่าจะมีหลานรึยัง เพราะพี่ชายอีกคนนึงที่เป็นญาติกันก็มีลูกแล้ว ถามว่าอยากมีกี่คน สัก 2 คนก็ได้ครับ กำลังดี กดดันมั้ยก็ไม่นะครับ ไม่ได้กดดันขนาดนั้น”
เปาวลี “เราเองก็อยากมีด้วยค่ะ เราก็มีความพร้อม คุณพ่อคุณแม่บอกว่าอายุเริ่มเยอะแล้ว ถ้านานๆ ไปอาจจะอุ้มไม่ไหวรึเปล่า ไปเที่ยวกันไม่ไหว ถ้ามีปุบปับขึ้นมาก็น่าจะเคลียร์งานทันค่ะ (หัวเราะ)”

หลังจากนี้เปาเป็นแม่บ้านเต็มตัวมั้ย?
เปาวลี “ดูท่าทางแล้วสิ่งที่แม่บ้านต้องทำคือเอิร์ธทำหมด (หัวเราะ) ก็ทำกับข้าว ดูแลหลายๆ อย่าง”
เอิร์ธ “เพราะเปาไม่ค่อยมีเวลาครับ เชาต้องไปร้องเพลง เราอาจมีเวลามากกว่าเขา”
เปาวลี “เพราะงานเอิร์ธเป็นงานประจำอยู่แล้วและช่วยคุณพ่อค่ะ แต่งานเราต้องไปต่างจังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหน้าที่เอิร์ธดูแลบ้าน”
เอิร์ธ “ถามว่าเป็นห่วงมั้ยก็เป็นห่วงครับ เพราะเขาเป็นคนที่ร้องแล้วต้องเต็มที่ นอนน้อยบ้าง”

แบบนี้ต้องเบางานลงมั้ย?
เปาวลี “ไม่นะคะ เพราะวันนี้แต่งเสร็จ พรุ่งนี้รับงานลอยกระทง (หัวเราะ) คิดว่าการที่มีงานเป็นความสุขของเราด้วยค่ะ ไม่อยากห่างหาย คือการร้องเพลงเป็นอะไรที่มันเป็นชีวิตเราไปแล้วค่ะ (แต่เราวางแผนจะมีลูก ถ้านอนน้อยก็อาจมีผลกระทบรึเปล่า?) อันนี้ต้องไปเช็กดูค่ะ ยังไม่ได้ไปตรวจสุขภาพ”

ภูมิใจในตัวเจ้าสาวมากแค่ไหน?
เอิร์ธ “ก็ภูมิใจครับ เราเจอเขายังไงก็ยังเหมือนเดิมอย่างนั้นน่ะ พ่อแม่เขาก็รักเราเหมือนลูกคนนึงเลย ก็รู้สึกดีครับ ก็คบกันมา 8 ปีแล้วครับ”

เปาวลี-เอิร์ธ

จดทะเบียนรึยัง?
เอิร์ธ “ยังไม่ได้จดทะเบียนครับ”
เปาวลี “กะว่าจะจดหลังไปเที่ยวค่ะ”
เอิร์ธ “คือมันมีเรื่องของนามสกุลด้วย”
เปาวลี “ต้องเปลี่ยนนามสกุลค่ะ”

ประทับใจอะไรในตัวเจ้าบ่าว?
เปาวลี “เขาก็เป็นคนที่น่ารัก นิสัยดี แล้วก็เชื่อฟังพ่อแม่ เหมือนที่เราเชื่อฟังพ่อแม่ แล้วก็เชื่อฟังเรา (หัวเราะ) คือคู่เราดูเหมือนเด็กๆ แต่เราอายุ 28 ปีเนอะ เขาก็มีภาวะเป็นผู้นำค่ะ จะทำอะไรก็มีความคิดเป็นผู้ใหญ่”

แล้วใครกลัวใคร?
เอิร์ธ “กลัวเปาครับ (ยิ้ม) เขาเงียบๆ แต่เขาดุอยู่ครับ”
เปาวลี “ไม่ดุหรอก (ยิ้ม)”
เอิร์ธ “ไม่ดุก็ไม่ดุ”

คำมั่นสัญญาที่มีให้กัน?
เอิร์ธ “เราจะรักกันไปจนแก่เฒ่า ให้เกียรติที่รักไปจนชีวิตจะหาไม่ครับ (ยิ้ม)”
เปาวลี “ก็เหมือนกันค่ะ วันแรกที่เปาได้เจอเอิร์ธมันเหมือนพรหมลิขิต โชคดีที่ได้เจอคนดีๆ ขอบคุณที่เอิร์ธดูแลเปาอย่างดี อยากจะให้เป็นคนดีแบบนี้ตลอดไป (ยิ้ม)”

เริ่มใช้ชีวิตคู่ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วเป็นไงบ้าง?
เปาวลี “สนุกดีค่ะ (หัวเราะ)”
เอิร์ธ “ก็รู้สึกแปลกที่ตื่นมาแล้วต้องเจอคนอื่นที่อยู่บนเตียงเดียวกันกับเรา แต่ว่าดีครับที่ตื่นมาแล้วเจอหน้าเขาทุกวันครับ”
เปาวลี “ก็แปลกดีค่ะ เพราะปกติแล้วเราตื่นเช้ามาก็จะเจอคุณพ่อคุณแม่เรา แต่ทีนี้พอเราได้มาใช้ชีวิตคู่กับเขา เราก็รู้สึกดีไปอีกแบบ เราได้โตขึ้นไปอีกสเต็ปนึงค่ะ ได้ดูแลกันเอง มีอะไรที่สามารถช่วยกันได้ก็ช่วยกันค่ะ”

ถามถึงชุดแต่งงานที่มีปัญหา ได้เคลียร์กันรึยัง?
เปาวลี “คือมันเป็น…เขาเรียกว่าอะไร แจ็กพอตเหรอ (หัวเราะ) มันเป็นข้อผิดพลาด”
เอิร์ธ “มันเป็นดวงมากกว่า”
เปาวลี “มันเป็นการผิดพลาดที่ชุดมันไม่เสร็จ งานบางส่วนอาจจะไม่เสร็จค่ะ ณ วันนั้นเราต้องตามงาน ก็รู้สึกโกรธเพราะว่าในช่วงนั้นคือทุกๆ อย่างมันอยู่ที่ตัวเราสองคนด้วย เพราะเช้ามาก็ต้องต้อนรับแขก ต้องทำพิธีสงฆ์ด้วย หลายๆ อย่างที่เรารู้มาว่ามันยังไม่เสร็จ มันเหมือนเราต้องกังวลเอง ซึ่งวันนั้นเราก็ไม่ควรที่จะกังวลเนอะ ควรที่จะแฮปปี้ตลอดงาน”

เปาวลี-เอิร์ธ

ทำไมเราถึงเลือกชุดจากร้านเขา?
เปาวลี “คือต้องบอกก่อนเลยว่าทางร้านเป็นพี่ที่รู้จักกันนี่แหละ เมื่อก่อนใช้ชุดจากร้านเขา พอเปาจะแต่งงาน เราก็เลยไปหาพี่ที่คิดว่าเราโอเคก็เลยไป เขาก็เลยอยากจะเป็นแพลนเนอร์ให้ด้วย อยากจะทำชุดทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวทั้งสองวันด้วย และมีชุดเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวอีกค่ะ พอถึงวันงานตอน 6 โมงครึ่ง ได้ชุดเจ้าสาวมา 2 ชุด คือชุดไทย แต่ไม่มีสไบ ไม่ปัก ชุดราตรีซึ่งก็ยังไม่เรียบร้อย ซึ่งมันก็ไฟไหม้เหมือนกันนะเพราะพระมา 7 โมงเช้า แต่โชคดีที่เรามีการวางแผนและปรึกษากันตลอด”
เอิร์ธ “คือโชคดีที่เราได้เจอเหตุการณ์แบบนี้ เพราะเราจะได้ใส่ขุดที่สวยและดีกว่านี้”
เปาวลี “เราก็เลยตัดสินใจไป พ่อกิ๊ก (เกียรติ กิจเจริญ) พอเขารู้เรื่องก็เลยแก้ปัญหาด้วยการพาไปอีกร้านก่อนงานประมาณ 3-4 วัน ซึ่งพี่ที่ห้องเสื้อก็ดูแลอย่างดีค่ะ”
เอิร์ธ “เราก็คิดว่าสำรองไว้ก่อนดีกว่า เราก็ไม่อยากเสี่ยง เราก็เลยวางแผนไว้”

เขาให้เหตุผลอะไรมั้ยเพราะระยะเวลาตัดมันก็ 1 ปี?
เปาวลี “อันนี้เราก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่เราก็มีการคุย มีการตามงานทางไลน์ด้วย มีการไปร้านเขา ซึ่งก็ใช้ระยะเวลานาน ส่วนเหตุผลเราก็ไม่ทราบเหตุผลค่ะ”
เอิร์ธ “แต่จนถึงวันนี้เอาเป็นว่าชุดวันนี้ก็เรียบร้อยแล้ว เราก็เลยไม่ได้สนใจ”
เปาวลี “ชุดวันนี้ก็เป็นของอีกร้านนึงค่ะ”

ได้รับคำขอโทษจากทางร้านนั้นแล้วรึยัง?
เอิร์ธ “ได้แล้วครับ”
เปาวลี “ได้รับมาเมื่อวานนี้ เขาก็ขอโทษ เหมือนอยากให้เราให้อภัยเขา”
เอิร์ธ “คือจริงๆ แล้วเราก็ให้อภัยแหละครับ เพราะมันผ่านมาแล้ว เราก็กลับไปแก้ไม่ได้แล้วครับ”

แล้วค่าเสียหายล่ะ?
เอิร์ธ “ก็ได้จำนวนหนึ่ง แต่เราก็ไม่ได้คุย เพราะเราเองไม่ได้ต้องการกลับคืนมาครับ เพราะมันผ่านมาแล้ว (เขาไม่ได้แสดงความรับผิดชอบอะไรเลยเหรอ?) อันนี้เขาไม่ได้พูดถึง และเราไม่ได้ถามด้วย มันผ่านมาแล้วไงครับ เราก็รู้สึกว่าวันนี้วันดี”
เปาวลี “ก็อยากจะให้ผ่านไป ก็ตัดไปดีกว่าอะไรที่ทำให้เรารู้สึกไม่ดีค่ะ”

เปาวลี-เอิร์ธ

รู้สึกยังไงที่ชุดเจ้าสาวของเรามันเป็นฝันใกล้เอื้อมแต่เอื้อมไม่ถึง?
เปาวลี “ตอนแรกมันก็รู้สึกเสียใจที่มันไม่เป็นไปตามที่เราวางไว้ เพราะงานทุกอย่างมันราบรื่นหมดเลย เราทั้งสองคนไม่ได้ทะเลาะอะไรนะคะ แต่ด้วยมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เรารู้สึกว่าไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเรา แต่ก็โชคดีที่เรายังคุยกัน มีอะไรให้เราแก้ไขร่วมกัน”

ถามถึงสินสอดเป็นยังไงบ้าง?
เปาวลี “กรุบๆ (หัวเราะ) สินสอดก็กำลังพอดีค่ะ สมฐานะสมศักดิ์ศรีค่ะ”

เรือนหอล่ะ?
เปาวลี “ก็ติดอยู่กับบ้านพ่อกิ๊กอยู่แล้วค่ะ เป็นบ้านดั้งเดิมอยู่แล้วค่ะ ถามว่าพอบอกได้มั้ยว่าย่านไหน ย่านเดียวกันกับพ่อค่ะ (หัวเราะ) ก็ใกล้ๆ บ้านพ่อบ้านแม่ด้วยค่ะ”