‘เกรท วรินทร’ เล่าย้อนดราม่า จนโดนขุดเหยียดเพศ เพิ่งรู้ ‘เต้ย’ มีคนคุย เผยพ่อเร่งให้มีเมีย


ให้คะแนน


แชร์

‘เกรท วรินทร’ เล่าย้อนดราม่า จนโดนขุดเหยียดเพศ เพิ่งรู้ ‘เต้ย’ มีคนคุย เผยพ่อเร่งให้มีเมีย

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

วันที่ 6 ก.ย.65 ที่ Great Ballroom ชั้น 3 W Bangkok Hotel พระเอกชื่อดัง เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์ ให้สัมภาษณ์หลังมาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญ Shopee 9.9 วันช้อปแห่งปี : Super Shopping Day ถึงเรื่องที่ตนเองเข้าไปคอมเมนต์ในไอจีของนักแสดงหนุ่ม แก๊ป จักริน ที่ลงภาพจากละครคู่กับ แคร์ วงศ์วชิรา โดยแซวว่า “เรียบร้อยไม่ต้องเบ่ง” จนกลายเป็นประเด็นดราม่าร้อนแรง ก่อนถูกขุดคุ้ยในโลกทวิตเตอร์ว่าเป็นคนชอบเหยียดเพศ ส่งผลให้เกิด #เกรทวรินทร

เครียดขนาดไหนกับดราม่าที่ผ่านมา? “อันนี้พูดส่วนตัวก่อนว่า จริงๆ ไม่อยากให้ประเด็นนี้มันถูกฟื้นขึ้นมาอีก ต้องบอกว่าเป็นความเจ็บปวด รู้สึกไม่ดีกับสิ่งที่มันออกไป เพราะว่าตอนที่โดนก็มานั่งนึกย้อนว่าเรารู้สึกไม่ดีกับคำพูดนั้น ทั้งๆ ที่น้องที่เราไปคอมเมนต์เป็นน้องผู้ชายที่สนิทและแมนๆ ทั้งคู่ แล้วก็สนิทกับเรา แต่เข้าใจในแง่มุมที่มันเกิดขึ้นเสียใจครับ ถือเป็นบททดสอบหนึ่งในชีวิตอยู่เหมือนกันที่ต้องพาจิตใจผ่านไป”

ทำให้เราต้องระมัดระวังมากขึ้นไหม? “ต้องอยู่แล้วครับ เรียกว่าเป็นบทเรียนของตัวเองเลย ว่าเรื่องของการคอมเมนต์หรืออะไร มันก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำที่จะไปกระทบจิตใจคนที่อ่านแล้วรู้สึก เราก็มานั่งคิดอยู่ตลอดว่าเราไม่น่าเป็นแบบนั้น แต่ก็มีหลายอย่างที่รู้สึก อย่างคนจะบอกว่าตัวเราเองเป็นคนแบบนั้นแบบนี้ อันนี้ก็อยากจะพูดในส่วนตัวนิดหนึ่ง เพราะว่าไม่เคยรู้สึกที่จะเหยียดใคร หรือว่ารู้สึกไม่ดีกับใครเลย สิ่งที่เจ็บปวดอีกอย่างหนึ่งคือคนที่อาจจะไม่ได้รู้จักเรา แต่ด่าว่าเราหนัก อันนี้เป็นเรื่องที่เสียใจ เพราะว่าไม่อยากให้คนที่กำลังเห็นเรา แล้วก็เข้าใจเราผิด อันนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ดีใจที่ได้พูดครับ เพราะเราไม่ใช่คนแบบนั้น”

เราทราบกระแสตีกลับตอนนั้นได้ยังไง? “น้องแก๊ปเป็นคนบอก แบบว่าที่พี่ไปคอมเมนต์จะดราม่าไหม ผมก็เห็นแล้วก็คิดว่างานเข้าแน่เลย เลยลบดีกว่า คือต้องพูดจริงๆ ว่าเจตนาเราไม่คิดเหยียดใครอยู่แล้ว แต่ก็เป็นเรื่องของการแซวกันกับน้องแบบผู้ชายๆ แต่ก็เข้าใจได้พอมันออกไปแล้วก็เป็นเรื่องเซ้นซิทีฟก็เลยรู้สึกว่าเข้าใจแล้วว่าอันนี้ไม่เหมาะสม คิดว่าไม่ควรเกิดขึ้น แต่น้องๆ ที่เราไปแซวเขาไม่ได้ติดใจอะไรเลยครับ”

หลังจากเหตุการณ์นั้น เราพักโซเชียลหรือพักอ่านคอมเมนต์เลยไหม? “อ๋อ…ไม่อ่านเลย เจ็บปวด ผมว่ามันเป็นวิธีการหนึ่งที่เราต้องผ่านมันไป เราก็ต้องมายอมรับกับตัวเองก่อนว่าเราเสียใจนะ พอเราเสียใจเราก็ต้องขอโทษ และต้องรู้ด้วยว่าสิ่งที่เราทำไม่เหมาะสมตรงไหน เลยต้องขอโทษผ่านสื่อที่ออกไป และหลังจากนั้นก็เป็นเวลาที่ดูใจตัวเอง แล้วก็เห็นคอมเมนต์บ้าง แต่ก็พักก่อนดีกว่า เลยไม่ได้เล่นโซเชียลช่วงนั้นอยู่สักพักนึง ถือว่าเป็นอุปสรรคอย่างนึงที่จะทำให้เราผ่านมันไป แล้วก็จะเข้มแข็งขึ้น”

ทำให้ไม่กล้าไปคอมเมนต์แซวใครเลยไหม? “ไม่ถึงขนาดนั้นครับ ยังคงแซวปกติ แต่ว่าเรื่องแบบนี้คงไม่เล่น (ต้องอ่านทวนก่อน?) อะไรอย่างนั้นครับ ผมคิดว่าไม่ว่าจะเป็นประเด็นเล็กๆ น้อยๆ หรือแม้ว่าเราจะเล่นกับเพื่อนที่สนิทก็ตาม แต่เราเป็นคนที่ยืนอยู่ตรงนี้มันก็อาจจะมีคนอื่นที่อาจจะไม้ได้รู้จักเราจริงๆ และไม่ได้รู้ว่าความสัมพันธ์เรากับเพื่อนเราเป็นยังไง เขาอาจจะเข้าใจผิดได้ ผมว่าก็เป็นเรื่องปกติที่ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงหรือคนมีชื่อเสียง เรื่องนี้เป็นการบ้านที่เราจะต้องเก็บไปคิด แต่เราก็ยังคงเป็นตัวเองแบบนี้ แต่ว่าอะไรหลายๆ อย่างก็ต้องระวังตัวมากขึ้น”

แล้วพิจารณายังไงว่าอะไรที่ควรพูดหรือไม่ควรพูด? “ผมว่ามันเริ่มต้นจากข้างในของเรา ส่วนหนึ่งผมสบายใจตรงที่ว่าเรารู้อยู่แล้วว่าเราไม่ได้เป็นคนเหยียด ไม่ได้เป็นคนที่ชอบตำหนิ หรือด่าว่าคนอื่น ดังนั้นเรื่องนี้ก็เลยรู้สึกว่าเรามั่นใจว่าเราเป็นแบบนั้น แต่ว่าประเด็นคอมเมนต์ในเรื่องของการแซวที่อาจจะเกิดผลกระทบได้ก็ต้องมีสตินิดนึงในการเล่น”

สภาพจิตใจกว่าจะกลับมาได้นานไหม? “นอยด์ไปประมาณวันหนึ่งแบบหนักๆ ก็ยอมรับกับตัวเอง คิดถึงโซเชียลเหมือนกันนะ แต่ประเด็นสำคัญที่อยู่ในใจเราตอนนั้น คือเรารู้สึกว่าคนที่ติดตามเรา เห็นเราเป็นแบบอย่าง หรือรักเราเป็นกำลังใจให้เรา สิ่งนี้คือสิ่งที่เสียใจที่สุดที่ทำให้เขาเข้าใจเราผิดซึ่งผมกล้าพูดเลยว่าผมไม่ใช่คนแบบนั้น มันเป็นการคอมเมนต์ที่คึกคะนอง แล้วก็เล่นๆ กับน้องเท่านั้นเอง”

พอเราขอโทษแล้วแฟนๆ เข้าใจเราไหม? “คือแฟนคลับผมส่วนใหญ่จะรู้ว่าคอมเมนต์นั้นเจตนาเราคืออะไร แต่คนที่ไม่รู้ก็อยากบอกให้รู้ ว่าเราไม่ได้เป็นแบบนั้นนะ (ยังเป็นเกรท วรินทรเหมือนเดิม?) เหมือนเดิม(ยิ้ม) ยังเป็นคนดี คนน่ารักเหมือนเดิม (คนดีที่ไหน?) ใช่อะไรแบบนั้น (ยิ้ม)”

ถามเรื่อง “เต้ย จรินทร์พร” เขาบอกมีหนุ่มแล้ว? “มีเหรอ ไม่รู้เลย ไม่ได้เจอเต้ยเลยนะ ไม่รู้ข่าวด้วย (เรารู้จักฝั่งผู้ชายของเต้ยไหม?) ไม่รู้ ไม่รู้ข่าวเลย (น้องมีคนคุยไหม?) ไม่รู้ เนี่ยเพิ่งรู้ เห็นไหมเวลาถามเรื่องคนอื่นกระซิบก่อนสิ (หัวเราะ) (พอรู้แล้วเราจะไปแซวน้องเขาไหม?) อ๋อ…ไม่แซวหรอก แซวทำไม ถ้าเกิดเขาแฮปปี้ก็ต้องยินดีกับเขา”

แล้วของเราล่ะ? “วนเข้าเรื่องตัวเองอีกแล้ว (ยิ้ม) ไม่มี ใสๆ เลย ไม่มี้ ไม่มีครับ (ไม่มีหรือยังไม่เปิด?) ไม่บอกกับไม่มีก็เหมือนกันนั่นแหละ(หัวเราะ) ตอนนี้กำลังจะเริ่มต้นโปรเจ็กต์ใหม่กับร้านอาหาร แต่ก็รู้สึกว่าช่วงนี้เพื่อนๆ มีกันหมดแล้ว เขาก็รักกันกับแฟนๆของเขา”

อิจฉาไหม? “รำคาญมากกว่าอิจฉา(ยิ้ม) ไม่เหม็น(ความรัก)หรอก แค่เห็นเพื่อนมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปเราก็…อืมนะ (โดยเฉพาะ บอย ปกรณ์?) เห็นป่ะ ผมไม่ต้องพูดเลย (ยิ้ม)”

เขาบอกแล้วเขาตั้งใจจะอวด? “ใช่ เขาเป็นคนตรงๆ แบบนั้นอยู่แล้ว เขาก็ยังมาสงสัยนี่เราคลั่งรักตรงไหนวะ (เขาไม่รู้ตัว?) ไม่ คือเขาก็ชัดเจนไง แสดงในความรักของเขา ซึ่งก็น่ารัก ผมก็ไปกดไลก์ตลอด แซวตลอด (ไม่อยากมีโมเมนต์น่ารักบ้างเหรอ?) ตอนนี้ยังเฉยๆ”

โปรโมชั่นแม่กุ้งก็ยังไม่ได้ใช้เลย? “เก็บไว้ก่อน (ยิ้ม) (ต้องเพิ่มอัดฉีดไหม?) เพิ่มดีไหม (ยิ้ม) เพิ่มๆ ไปบอกเจ๊กุ้งนะ (หัวเราะ)”

ที่บ้านมีเร่งไหม? “ถามอยู่เรื่อยๆ (หัวเราะ) ถามว่ามีเร่งเราไหม มีพ่อที่เร่งนิดๆ ว่าเมื่อไหร่จะมีเมียอะไรแบบนี้ เมื่อไหร่จะมีสักทีอะไรแบบนี้ แต่พ่อแม่ก็ค่อนข้างรู้จักนิสัยใจคอเราเป็นอย่างดี พ่อก็จะพูดว่าเป็นแบบนี้ไม่มีหรอก (ยิ้ม) เขาก็มีแนะนำลูกเพื่อนให้บ้าง แต่ผมก็ไม่ได้อะไร ชอบหาเองมากกว่า (หัวเราะ)”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7251974
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7251974