“ยีน-เกวลิน” มึน มีภาพหวิวหลุดถอดเสื้อผ้าบนรถไฟ ยอมรับเพิ่งไปเที่ยวขึ้นรถไฟมา


ให้คะแนน


แชร์

เริ่มจาก ช่วงนี้ดูจะอวดความเซ็กซี่ในไอจีบ่อย?

“มันก็นิดนึงก็อายุมันได้แล้ว ขึ้นเลขสามแล้วนะ ถ้าไม่ลงตอนนี้ก็ไม่รู้จะลงตอนไหน”

คุณแม่ไฟเขียวมั้ยเวลาเราลงรูป?

“คือเค้าก็ไม่ได้บ่นอะไร แต่ก็บอกว่าอย่าให้มันเยอะไปนะ เพราะว่าบางทีเราลงรูปไปเราก็ไม่ได้เน้นความเซ็กซี่อย่างเดียว แต่แบบว่าเราออกกำลังกายมาก็อยากโชว์หุ่นบ้าง”

ล่าสุดชาวเน็ตจับผิด เหมือนมีภาพเราถอดเสื้อผ้าโชว์หวิวบนรถไฟ ภาพนั้นใช่ยีนมั้ย?

“คือจะบอกว่าไม่ใช่ค่ะ แต่ว่าเราไปขึ้นรถไฟมาจริงอะ แต่มันไม่ใช่รถไฟแบบนั้น คือเป็นรถไฟความเร็วสูงที่เราไปเที่ยวที่ประเทศลาวมา แต่มันไม่ใช่รถไฟแบบในภาพข่าว อันนั้นน่าจะเป็นคนต่างชาติมากกว่า”

ยืนยันนะว่าไม่ใช่เรา?

“ไม่ใช่แน่นอนค่ะ เพราะว่าถ้ามีคนอยู่ในรถไฟเยอะแยะ เราจะไปกล้าเปลี่ยนชุดทำแบบนั้นได้ยังไง”

งงมั้ยหลังโดนจับผิดแบบนี้?

“ก็งงนะ เพราะว่าเพื่อนส่งมาถามว่าใช่เราหรือเปล่า เราเลยย้อนถามว่าแกมันเหมือนฉันเลยเหรอ เราว่าเค้าจะเห็นว่าเราไปเที่ยวบนรถไฟมามั้ง แต่อาจจะเป็นการเข้าใจผิดกันมากกว่า”

ภาพหลุดหน้าคล้าย ภาพหลุดหน้าคล้าย “ยีน”

ย้ำชัดใช่มั้ยว่าไม่ใช่เราแน่นอน?

“ไม่ค่ะ ถ้าเป็นเราอะมันต้องแซ่บกว่านี้ (หัวเราะ) คือไม่ใช่แน่นอน อย่าเพิ่งเข้าใจผิดกันไปค่ะ”

ฟีดแบ็กกระแสละคร “ศีรษะมาร” เป็นยังไงบ้าง?

“ก็ถือว่าดี คนอินค่อนข้างเยอะ เอาตรงๆฟีดแบ็กเรื่องที่คนมองว่าการเป็นลูกเมียน้อยมันไม่ถูกต้องอะ แต่ชีวิตจริงๆมันก็มีนะ คนอาจจะไปให้ความสำคัญเรื่องการมีมือที่สาม มีบ้านเล็กบ้านน้อย”

โดนชาวเน็ตถล่มกับบทบาทนี้มากจริงมั้ย?

“ก็ถูกค่ะ เพราะว่าโดนเรื่องนี้เยอะ แต่อย่างคนเป็นลูกก็ไม่รู้เรื่องหรอกว่าสิ่งที่พ่อแม่เค้าทำไว้ในอดีตคืออะไร คือเค้าเล่าให้เราฟังอาจจะไม่หมดก็อาจจะเป็นไปได้ แต่มันก็ต้องดูด้วยว่าเหตุผลมันเกิดจากอะไร เราก็ไม่ได้ยุยงว่าต้องให้ใครแย่งใครคืนมา เรื่องมันเพิ่งเริ่มอย่าเพิ่งตัดสินกันเลย เดี๋ยวมันต้องมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่อีกเยอะ”

แล้วที่ต้องเล่นเป็นพี่น้องกับ “หยาด” จนคนบอกว่าไม่เหมาะสมล่ะ?

“ขำๆบางทีเราก็อาจจะคุณพ่อเป็นจีนคุณแม่อาจจะเป็นเอเชีย แต่เราก็ดันมาแบบว่าหมวยจ๋าก็เลยเป็นพี่น้องที่อาจจะหน้าตาไม่เหมือนกัน แต่มันก็คือละครอะเนอะ ทุกอย่างขอให้เราติดตามก่อนอย่าเพิ่งตัดสิน เพราะเดี๋ยวมันจะมีเซอร์ไพรส์อีกเยอะมากในเรื่องนี้มันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคิดก็ได้”

แล้วบทบาทของเรื่องนี้เป็นยังไง?

“รับบทเป็นนักข่าวสาว แมวเหมียว น้องสาวคนละแม่แต่มีพ่อเดียวกับปี๋ คือพี่หยาดทิพย์ ราชปาล เรา 2 คนถูกปลูกฝังเรื่องของการเลี้ยงดูที่ต่างกัน เจอกันต้องปะทะกันตลอดในเรื่องเชือดอารมณ์กับสาดความแรงใส่กันแบบต่อเนื่อง เหมือนอยู่ในกองไฟของความแค้น บทบาทของแมวเหมียว คือการสะท้อนให้เห็นถึงการทำงานในรูปแบบของนักข่าวอีกด้วย ต้องทำการบ้านหนักมาก เพราะตอนแรกคิดว่าการที่ได้เป็นนักข่าวแค่มีบทก็อ่านตามบทเท่านั้น แต่ความจริงมันคือการอ่านข่าวยังไงให้น่าสนใจ ต้องรู้กระบวนการของการเป็นนักข่าวที่ดี ซึ่งเป็นอีกสูตรหนึ่งที่จะทำให้เราได้รู้ตั้งแต่พื้นฐานงานของนักข่าวได้ดียิ่งขึ้น

และสำหรับผู้ประกาศข่าวที่มีอิทธิพลในมุมมองของยีนคงต้องยกให้กับ Yuriko Koike (ยูริโกะ โคอิเกะ) นักข่าวระดับโลกที่มีทั้งทักษะสูงไหวพริบดีและยังมีอิทธิพลต่อผู้ชมอย่างมาก แถมยังอ่านข่าวได้เก่งมากๆเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือเข้มแข็ง จนกลายเป็นผู้ว่าการกรุงโตเกียวหญิงที่โดดเด่นเกินใครของญี่ปุ่นอีกด้วย บอกเลยบทบาทของผู้หญิงสมัยนี้ทั้งสวยเก่งสตรองกว่าที่หลายคนคิด ส่วนเรื่องของกระแสถูกเปรียบเทียบบอกเลยว่าไม่ซีเรียสค่ะ เชื่ออยู่แล้วว่าต้องมีอยู่แล้วตอนแรกที่ได้รับการติดต่อให้แสดงยังรู้สึกกดดันไม่น้อยเลยเพราะเวอร์ชันเก่าได้แสดงเอาไว้น่ากลัวขนหัวลุกจริงๆ แต่ในของปัจจุบันก็มีการปรับและพัฒนาบทมากขึ้นทั้งเรื่องของรสนิยมความสนใจของผู้ชมบทบาทของนักแสดงที่พลิกแพลงไปจากเดิมรวมทั้งสถานที่เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย แน่นอนว่าถ้าทุกคนเปิดใจให้กับเวอร์ปัจจุบันทุกคนจะต้องรักกับบทบาทแมวเหมียวมากกว่าเดิมแน่นอน”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2494165
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2494165