เปิดอกนางเอกตัวแม่ “นุ่น-วรนุช” ยังสนุกไม่เคยเบื่อวงการ รัก 16 ปี หวาน “ต๊อด” ลงตัว


ให้คะแนน


แชร์

เรื่องนี้ยังมีความท้าทาย ความยากอะไรสำหรับนุ่น-วรนุช?

“ก็ยากนะคะ มันค่อนข้างหนักมากๆเพราะเป็นเรื่องไกลตัวนุ่นเหมือนกัน เช่น แท้งลูก และเป็นการแท้งครั้งที่ 2 มันต้องหนักหน่วงเบอร์ไหนที่ฝังใจเราตลอด”

เจี๊ยบ-โสภิตนภา ผู้จัดฟันธงว่าเรื่องนี้ต้องเป็นนุ่นเล่น? “ก็ขอบคุณพี่เจี๊ยบ เพราะพี่เจี๊ยบเคยบอกนุ่นตั้งแต่เล่นละครเพลิงเสน่หาด้วยกัน ว่าอยากทำละครให้นุ่นเล่นก็ได้เรื่องนี้มา ก็มาคุยกันว่าบท “เยาวยอด” เป็นแบบไหนเลยรับ มีอะไรให้เราเล่น อะไรที่ท้าทายและทำให้เราสนุกกับการทำงานอยู่”

กดดันมั้ยกับการที่ทุกอย่างเริ่มจากนุ่นแล้วเป็นละครเรื่องนี้? “ก็ไม่ค่ะ จริงๆทุกตัวละครก็มีความสำคัญหมด แต่ละคนทำหน้าที่ของตัวเอง ได้ร่วมงานกับน้องๆหลายคนที่ไม่เคยร่วมงาน พอได้นักแสดงนำมา 5 คน จะทำยังไงให้บททุกคนมันไม่หายไป ไม่ทิ้งกันก็คงยาก สำหรับผู้จัด พอเห็นบทแล้วบอกเลยว่ายาก อ่านไปก็คิดว่าเล่นยังไง มีอะไรให้ทำหลายอย่างมาก จะสื่อสารยังไง”

ตัวละคร “เยาวยอด” มีหลากอารมณ์? “ใช่ วาไรตี้มากๆ เค้าก็เป็นคนน่ารัก ถ้ามองข้ามเรื่องอะไรที่ไม่ถูกใจเค้า เค้าก็อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์ มีความรักดีๆเหมือนคนทั่วไป แต่อาจจะโชคร้ายที่คนที่เข้ามาไม่ได้รักเค้าจริงๆ มีคำถามว่านุ่นชอบอะไรในตัวเยาวยอด เค้าเป็นคนแฟร์มาก ถ้าเค้าไม่ทำผิดอีกคือจบแต่เรื่องราวมันทำให้มีอะไรพัวพันไปเรื่อยๆไม่จบซะที”

กับเก้า-จิรายุ เจอกันมาตั้งแต่เด็กๆ 17 ปีก่อน เล่นเป็นหลาน วันนี้ต้องมาเป็นพระนาง?

“คือถ้าเราไม่ได้เทียบความเด็ก ฝีมือเค้าก็ไม่เด็ก นะคะ เป็นเพื่อนร่วมรุ่นเรา ถ้าบอกว่าไม่คิดถึงภาพเก่าๆ เลยคงเป็นไปไม่ได้ มันก็มีภาพเพราะเรื่องนั้นที่นุ่นเล่นกับเก้า ทั้งสองคนก็ดราม่ามาก เป็นป้าหลานที่ไม่ยอมกัน เค้าด่าเรา เราด่ากลับ เล่นยากมากแต่จำได้ว่าเค้าเป็นคนเล่นละครเก่ง ณ ตอนนี้มีโอกาสได้มาร่วมงานกันก็ดีใจ เราก็เห็นเค้าโตและเป็นพระเอกจริงจังได้แล้ว อยากให้ดูที่ความสามารถเค้า นุ่นก็ชวนทุกคนเล่น ชวนคุยหมดกับหลายๆคนที่ไม่เคยร่วมงานกัน อย่างที่บอกว่าฉากอารมณ์ค่อนข้างเยอะ เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่ได้สนิทกัน คุ้นเคยกันมันอาจจะแอบยาก”

เลิฟซีนก็ไม่ธรรมดารึเปล่า?

“มีบ้างค่ะ แต่ไม่เยอะ”

แต่ได้ข่าวว่ามีเลิฟซีนฉากที่เจี๊ยบ-โสภิตนภา ผู้จัดละครเกรงใจต๊อด-ปิติ สามี? “ก็พอมีบ้างแต่อยากให้ดูนอกจากมองเป็นฉากเลิฟซีน แต่อยากให้คิดถึงความพอดีในการเล่าเรื่องของตัวละคร 2 ตัว มากกว่า มันจะเห็นอะไรที่มากกว่าคำว่าฉากเลิฟซีน”

เรามีข้อกำหนดมั้ยว่าเลิฟซีนได้แค่ไหน? “จริงๆ เมื่อก่อนเราเกรงใจที่บ้าน แต่บางครั้งความสมบูรณ์ของภาพมันก็ขาดไปแล้ว ยิ่งอยู่ในยุคนี้มันไม่ได้กลายเป็นเรื่องแปลก ถ้าเราสามารถทำให้ภาพเหล่านั้นทำให้เรื่องมันสมบูรณ์มากขึ้นนุ่นก็โอเค”

ทุกวันนี้ต้องบอกคุณสามีมั้ยว่ามีฉากไหนบ้างที่เลิฟซีน? “(หัวเราะ) ก็เคยคุยค่ะ แต่ไม่ได้ไปนั่งย้ำ ก็บอกว่ามีแค่นั้น”

เค้ามีฟีดแบ็กมั้ยกับฉากแบบนี้? “ได้ดูนะ วันนั้นมีฉากจูบกับบูมเค้าก็หันมาอ้าว”

เค้าแซวมั้ย? “ไม่นะคะ”

ปกตินั่งดูด้วยกันตลอด? “ก็แล้วแต่ค่ะ พาเพื่อนมาเค้าก็จะไปอยู่อีกห้องถ้าไม่มีใครมาก็นั่งดูด้วยกัน”

กับเรื่องนี้คาดหวังยังไงบ้าง? “ทุกคนทำงาน ก็อยากให้ออกมาดี ตัวนุ่นเองเต็มที่ 100% เพราะฉะนั้นไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง นุ่นรับได้หมด เราเต็มที่ของเราแล้ว และพยายามสื่อสารทั้งนักแสดง ที่ทำงานด้วยกันตัวละครด้วยกัน แล้วก็สื่อสารกับคนดูให้เค้าเข้าใจตัวละครเรามากที่สุด”

อีกหนึ่งความท้าทายต้องทำภาษามือในเรื่องเห็นว่าการเล่นฉากนี้ของนุ่นทำให้ เจี๊ยบ-โสภิตนภาว้าวมาก? “ก่อนถ่ายก็จะมีน้องส่งภาษามือมาให้ดูว่าอันนี้เป็นยังไงแต่การจำอาจจะยากนิดหนึ่งเพราะการพูดเรียงประโยคไม่เหมือนกัน ก็พยายามศึกษาไปด้วย พี่เจี๊ยบบอกว่าซีนนี้มันยาว เราจะมีครูที่เป็นภาษามืออยู่แล้วมาเข้าฉากไม่ต้องทำก็ได้พอไปหน้าเซต คุณครูทำ เราก็หันไปหาพี่เจี๊ยบว่าทำไมให้ครูทำเราอยากทำ ทำได้รึเปล่า เราก็ซ้อม 2 วันก่อนถ่าย คือภาษามือนอกจากมือที่เราใช้แล้วเป็นเรื่องของสีหน้าที่ต้องมีอารมณ์ไปกับไดอะล็อกนั้นๆด้วยค่ะ ก่อนที่เราจะรู้ว่าได้ทำภาษามือก็จะไปเปิดยูทูบ เค้าทำอะไรกันบ้างมีอะไรบ้าง ก็สนุกดี (ยิ้ม)”

การร่วมงานกับเจี๊ยบ-โสภิตนภา ผู้จัดละครที่เป็นคนสนิทกันอยู่แล้วเป็นยังไงบ้าง?

“ไม่ยากเลย (หัวเราะ) เค้าก็เต็มที่กับงานในทุกๆส่วนเค้าก็จะเหนื่อยหน่อยเพราะต้องดูแลทั้งกองและนักแสดงอีกหลายคนด้วย ดูภาพรวมด้วย ส่วนตัวเราก็เป็นคนเต็มที่กับงานอยู่แล้ว คือการทำงานหนึ่งในเรื่องนี้ปัญหามันมีอยู่แล้วในทุกๆเรื่อง เราก็ฟังบ้างว่าพี่มีปัญหาอะไรยังไง บางทีในฐานะที่เราเป็นเพื่อนเราก็จะแยกแยะว่ามีบางอย่างที่คุยกัน แต่ในฐานะที่เป็นนักแสดงพี่ไม่ต้องห่วงเลยเพราะหนูจะเต็มที่ของหนู”

การทำงานกับเพื่อนสนิทมีมุมที่ง่ายขึ้นและยากยังไง? “ก็ง่าย มีอะไรผู้จัดก็จะส่งมาบอกก่อน (หัวเราะ) อย่างเช่นประชุมกันเรื่องบท แบ็กกราวด์ตัวละครเขากลัวลืมก็ส่งมาหาเรา ถ้าถามถึงสิ่งที่ยากก็ไม่มี แต่พี่เจี๊ยบ อาจจะกระโดดเยอะในกอง เค้ามีเอนเนอร์จีเยอะ (หัวเราะ)”

การแสดงยังท้าทายสำหรับ “นุ่น” ยังไง?

“ก็ยังมีอะไรให้เล่นอยู่ค่ะ เดี๋ยวนี้คาแรกเตอร์และบทบาทตัวละครก็เปิดกว้างค่อนข้างเยอะมากๆ ถ้าถามว่าเบื่อมั้ย ไม่เบื่อค่ะ นุ่นชอบ สนุกที่ได้เล่นเป็นคนอื่นและได้ทำงาน ส่วนงานเบื้องหลังนุ่นช่วยคนอื่นได้ แต่ให้มาทำเองคงไม่เวิร์ก มันต้องรับผิดชอบเยอะ ทำเป็นจริงเป็นจังคงไม่ได้เห็นค่ะ เล่นละครดีกว่าค่ะ นุ่นยังสนุกกับตรงนี้”

ตอนนี้ยังมีเป้าหมายอะไรในชีวิตที่ “นุ่น-วรนุช” ยังไม่ได้ทำบ้าง? “ไม่ได้มีเป้าหมายอะไรไกลๆเลย แค่รู้ว่าในช่วงเวลาใกล้ๆเราจะทำอะไร เราแพลนอะไร อนาคตไกลๆมันลำบากเพราะเราไม่รู้ รู้แค่แบบอุ๊ย ต๊อดไม่อยู่เราไปเที่ยวดีกว่า (หัวเราะ) เวลาเค้าไปแข่งรถเราไม่ได้ไป นุ่นก็จะไปทะเล หรือบางทีสมมติว่าเค้าไปแข่งรถเมืองนอกเราไปด้วยดีกว่า เจอเค้าวันแข่งเค้าก็แบบมาหาเขา 2 วัน คือเราก็ไปเที่ยวของเรา ก็จะแพลนใกล้ๆ”

เรื่องงาน ณ ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?

“ละครก็ค่อยๆรับ เพราะต้องแบ่งเวลาให้ครอบครัว เรื่องนี้จบก็น่าจะมีเรื่องใหม่ แต่น่าจะเปิดเดือน ต.ค.เลยกับทาง GMM ค่ะ ก็มีติดต่อมาเรื่อยๆค่ะ ยังไม่มีที่ถ่ายซ้อนกัน”

เลือกรับงานยังไง? “ก็เอาที่ชอบค่ะ เหมือนเราอ่านหนังสือเล่มนึงแล้วรู้สึกว่าเรื่องนี้สนุก เรื่องนี้ไม่สนุก ทุกคนสามารถรู้ได้ นุ่นก็เป็นเหมือนกัน ถ้ารับเล่นแล้วจะมีใครเล่นกับเรา ใครกำกับ เป็นยังไง มันก็จะมีเรื่องให้คุยต่อ แต่เรื่องไหนที่เรารู้สึกว่าไม่สนุก ไม่เหมาะ กับเราก็จะวาง”

แต่ละปีที่มีละครส่งมา ปัดตกไปกี่เรื่อง? “ก็มีบ้างค่ะ (หัวเราะ) จริงๆไม่จำเป็นต้องเป็นละครโหดๆหรือแรงๆ อย่างเรื่องใหม่ที่นุ่นจะเล่นกับ GMM ก็จะสบายๆ ก็จะได้เห็นนุ่นในอีกแบบนึง ก็สลับๆกันไป ไม่ใช่ว่าจะต้องหนักๆอย่างเดียวแต่ส่วนใหญ่มักจะได้เรื่องที่หนักๆ ซึ่งชีวิตจริงๆของนุ่น-วรนุชไม่ได้เป็นคนหนักแบบนั้น แต่พอละครคนก็ชอบให้เล่นดราม่าๆ (ยิ้ม)”

ตัวจริงกับภาพ ในละครต่างกันเลย เพราะตัวจริงดูชิลๆ? “นุ่นเป็นคนใช้ชีวิตสนุกและมีความสุขค่ะ (ยิ้ม)”

พระเอกที่ร่วมงานก็เด็กลงเรื่อยๆ?

“อันนี้เป็นสิ่งนึงที่คนชอบอิจฉา (หัวเราะ) เป็นเรื่องของการเปิดกว้างในการทำงานของวงการละคร ถ้าเรามองชีวิตจริงคนที่โตแล้วมีแฟนเด็กก็มีเยอะนะ ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกแต่คนก็ชอบบอกว่าโชคดีได้กินเด็ก (หัวเราะ) ในละครไง ไม่ใช่ในชีวิตจริง (ยิ้ม)”

ก็เหมือนเป็นเคมีใหม่ๆ? “เอาจริงๆ เวลานุ่นเล่นละครนุ่นไม่ได้คิดเรื่องเคมีเลย อย่างตอนเล่นกับจอส-เวอาห์ เค้าก็ใหม่มากๆ ก็มาเรียนรู้การแสดงซึ่งกันและกันเลย ไม่ได้ดูว่าเคมีหรือไม่เคมี เพราะแค่มานั่งเล่นละครเราก็เหนื่อยแล้ว เราไม่มานั่งคิดตรงนั้น แต่ฟีดแบ็กที่ได้คือคนดูชอบเท่านั้นเอง กับก๊อต-จิรายุก็เหมือนกัน ก็มาทำงานกันก็คือตัวละครแหละ เราไม่ต้องคิดว่าอายุอะไรยังไง เพราะความรักมันเกิดขึ้นได้ในทุกเพศ ทุกวัย ไม่จำเป็นว่าจะต้องเท่านี้ๆ แต่บทที่เราได้มันดันเป็นช่วงจังหวะแบบนี้ และนุ่นว่าคนก็เปิดกว้าง ก็ยังขอบคุณที่คนดูยังรับได้ (ยิ้ม) เราก็ทำหน้าที่แสดงให้ดีที่สุด และนุ่นก็ดูแลตัวเอง ให้ดีที่สุด เพราะเรายังรักงานแสดง ยังชอบเล่นละคร เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราจะทำให้อาชีพเรานานหน่อยก็คือดูแลตัวเอง มีความสุขทุกวัน ตามันโกหกไม่ได้เนอะ มันก็จะสดใส หน้ามันสว่าง เวลาที่เล่นละครเศร้าคือแย่มาก ร้องไห้ ร่างกายเราก็แย่ไปด้วย ก็เลยคิดว่าชีวิตจริงเราอย่าเป็นอย่างนั้นเลย”

หลังๆได้เห็นนุ่นกับต๊อด สามีดูสวีตขึ้นมีโมเมนต์น่ารัก หรือเป็นแบบนี้อยู่แล้วแต่ไม่ค่อยได้เห็น?

“อาจจะอยู่ด้วยกันเยอะหรืออาจจะช่วงโควิดมีเวลาอยู่ด้วยกันเยอะ ได้เจอเพื่อนๆแล้วถ่ายรูป เป็นคนอื่นถ่ายนะ (หัวเราะ) เมื่อก่อนคนอาจจะไม่ค่อยได้เห็น เพราะต๊อดเค้าก็ถ่ายรูปกับทุกคนยกเว้นนุ่น (หัวเราะ) เค้าจะไม่ชอบคนวิพากษ์วิจารณ์ นุ่นเดานะ แต่เวลาคนอื่นเอาไปลงเค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วจะให้มานั่งถ่ายรูป มานั่งยิ้ม เค้าก็ไม่ถนัดค่ะ”

เค้าเขินมั้ยเวลาคนแซว? “เค้าพยายามหลบตลอด เค้าจะตาไว บางทีเพื่อนแอบถ่ายเค้าก็หันมาเห็นแล้วก็ตลกๆดีค่ะ เราก็คุ้นเคยว่าเค้าเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ก็เป็นคนอื่นถ่ายทั้งนั้นค่ะ”

ได้เห็นฟีดแบ็กมั้ยว่าแฟนๆชอบ? “ไม่ได้คิดอะไรเลยค่ะ ก็คือชีวิตคนคนนึงที่เดี๋ยวนี้โซเชียลมีผลกับเรามากขึ้น ก็ธรรมดา ก็ปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติค่ะ”

จะได้เห็นภาพหวานที่ถ่ายกันเองบ้างมั้ย? “ก็มีถ่ายไว้บ้างค่ะ(ยิ้ม) อย่างไปเที่ยวก็ขอถ่ายรูป 3 รูป หรือแบบขอถ่ายรูปเก็บไว้หน่อย คือด้วยความที่เค้าเป็นผู้บริหาร เราก็เข้าใจเค้าค่ะ”

เป็นความเข้าใจซึ่งกันและกัน? “เราแต่งงานกันมา 12 ปี ก่อนแต่งคบกัน 4 ปี ก็ 16 ปีแล้ว ก็เรียนรู้กันไปเยอะ”

ต๊อดก็ยัง แฮปปี้ที่ให้ “นุ่น” ทำงานในวงการ? “ใช่ค่ะ เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร เอาที่เราชอบเรารัก เพราะตัวเค้าเองไปแข่งรถนุ่นก็ไม่เคยห้าม อยากจะไปทำอะไรก็ตามสบายใจ”

เรียกว่าชีวิตคู่ลงตัว? “ก็โอเคนะคะ แต่คือเราก็ไม่ได้คิดว่าอนาคตจะต้องเป็นยังไง คือทุกวันนี้ก็ยังใช้คำเดิม ว่าถ้าเราคิดว่าวันนี้ดี พรุ่งนี้ก็ดี พรุ่งนี้ดี มะรืนดี ก็ยังโอเค แต่ถ้าวันนึงไม่ดี อนาคตมันก็จะเปลี่ยนแปลงไป แต่ว่าไม่ได้มองไกลๆ เอาแค่ใกล้ๆ”

ความโรแมนติก 12 ปีแล้วมีเพิ่มเติมขึ้นมั้ย? “ก็เหมือนเดิมค่ะ คือเราก็ไม่รู้ว่าความหวานของแต่ละคนเป็นยังไง แบบไหน แต่ว่าแค่ดูแลกัน ใส่ใจกัน ฟังเรื่องราวของกันและกัน นุ่นว่ามันก็เป็นแฟมิลี่ที่ความหมาย เหมือนกันค่ะ”

ในสิ่งที่ต๊อดเป็นก็เป็นสิ่งที่นุ่นแฮปปี้? “โอเคนะคะ เราเรียนรู้กันทุกวันๆ คือคนเรา ไม่ได้เปลี่ยนว่าวันนี้เป็นแบบนี้ พรุ่งนี้คือหน้ามือหลังมือ มันไม่ใช่ มันคือการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ด้วยประสบ การณ์ที่เราโตขึ้น เราไปเจอ เรื่องราวมามากมาย เค้าไป เจอเรื่องราวมามากมายแค่ได้มาคุยกัน มาแชร์กัน นุ่นว่ามันก็โอเคค่ะ”.

เรื่อง: สุภลัคน์ วุฒิกรีธาชัย

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2496087
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2496087