“เขื่อน – แพรรี่” เปิดชีวิต LGBTQ กว่าจะถึงวันนี้โดนบูลลี่-ถูกขู่ฆ่า มาแล้ว


ให้คะแนน


แชร์

“เขื่อน – แพรรี่” เปิดชีวิต LGBTQ กว่าจะถึงวันนี้โดนบูลลี่-ถูกขู่ฆ่า มาแล้ว

            เป็นอีกสีสันของวงการบันเทิง สำหรับ อดีตนักร้อง เขื่อน ภัทรดนัย และ แพรรี่ ไพรวัลย์ หรืออดีตพระมหาไพรวัลย์ ที่ตอนนี้ทั้งคู่ชัดเจนในความรู้สึกและเป็นตัวของตัวเอง แต่งตัวในลุคและสไตล์ที่ตนเองชอบ เปิดเผยในเรื่องการเป็นLGBTQ แต่กว่าจะถึงวันนี้ทั้งเขื่อน และ แพรรี่ โดนกระแสบูลลี่ต่างๆ มากมาย หนักสุดถึงขั้นโดนขู่ฆ่ากันเลยทีเดียวโดยงานนี้ทั้งคู่มาเปิดใจผ่านทางรายการ  ฮัลโหลซุปตาร์ ว่า

อ่านข่าวต่อ : รู้สึกอบอุ่น! “เขื่อน” เผย “โทโมะ-ป๊อปปี้” เป็นอีกพื้นที่ปลอดภัยของหมวย

แพรรี่ ไพรวัลย์ เขื่อน ภัทรดนัย

แพรรี่ ไพรวัลย์ เขื่อน ภัทรดนัย

เขื่อนจะมีภาพจำเรื่องการแต่งตัว?
เขื่อน : เขื่อนจะพูดตลอด ไม่มองตังเองเป็นแฟชั่นนิสต้า แต่เป็นการแต่งตัวสไตล์แบบเคารพตัวเอง อยากทำอะไรทำเลยที่ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน เสื้อผ้าไม่มีเพศ

แพรรี่ : รู้สึกว่าการแต่งตัวเป็นการแสดงออกอย่างหนึ่งที่ชัด ตัวตนฉันเป็นแบบนี้นะ วันนี้ฉันแต่งแบบนี้ พรุ่งนี้ฉันจะแต่งอีกแบบก็ได้ แต่ไม่ว่าฉันจะแต่งอะไรนี่คือตัวตนของฉัน คุณควรเคารพในตัวของฉัน และมันคือความสุขของฉัน

พอเราเป็นแบบนี้ ดราม่าแรกๆ โดนกันเยอะไหม?
เขื่อน : หนูโดนคนรุมตั้งแต่ก่อนจะมีคำว่าทัวร์ลง เพราะหนูเริ่มทำเพลงตั้งแต่ 13 ตอนนั้นการยอมรับ LGBTQ+ น้อยมาก เขื่อนโตมากับการโดนคนรุม ไซเบอร์บูลลี่ค่อนข้างเยอะ 

แพรรี่ ไพรวัลย์ เขื่อน ภัทรดนัย

หนักสุดของเขื่อนคืออะไร?
เขื่อน : เขื่อนโดนทุกรูปแบบเลย ตั้งแต่จดหมายขู่ฆ่า ลุกลามทางเพศใน DM เราจะมองว่าสมัยนี้เป็นที่ยอมรับ ก็จะมีบางคนที่ไม่เข้าใจ เขาไม่ชอบ ก็จะมีคนมาว่าคุณพ่อ คุณแม่ว่าทำไมเลี้ยงลูกแบบนี้ เขื่อนโดนมาตั้งแต่เด็ก เพราะฉะนั้นเราจะมีวิธีทำความเข้าใจว่าอันนี้คืออะไร  มันเกิดอะไรขึ้นกับเรา

แพรรี่จะหนักหน่อย เพราะออกมาจากอีกทางแล้วมาเป็นอย่างนี้เลย?
แพรรี่ : หนูจะโดนในนักบวช ศาสนา ภาพลักษณ์อันนี้หนูจะโดนเยอะ เพราะว่าคนพุทธจะติดภาพจำ การติดภาพจำนี่แหละทำให้หนูรู้สึกว่ามันไม่แฟร์และไม่เป็นธรรมกับหนู คนจะบอกว่าเป็นพระมา แล้วทำไมมาเป็นแบบนี้ โบราณบอกบวชนานมันจะเพี้ยน จะบ้า คนก็จะว่าให้เรา ดีนะสึกมาจะได้ไม่เสื่อมศาสนาเราจะโดน

เราตอบไปว่ายังไง?
แพรรี่ : มีบางครั้งที่เราไฟท์ติ้ง เราอัดคลิปชี้แจงบ้าง แต่หลังๆ เริ่มรู้สึกว่าอธิบายไปก็เท่านั้น เพราะคนที่เขามาบูลลี่เราหรือด่าเรา เขาไม่ได้ต้องการคำอธิบาย เขาแค่รู้สึกว่าถ้าเขาได้ว่าเราแล้วเราเสียใจ อันนั้นคือจุดประสงค์ของเขา คือความสำเร็จของเขา เขาต้องการอย่างนั้น หลังๆ ก็ไม่พยายามเป็นแบบถ้าใครด่าจะรู้สึกเฟลล์ พยายามมีความสุขในทุกวันให้เขาเห็นว่าคุณด่าดิฉัน ดิฉันก็มีความสุข สุขมากขึ้น เพราะดิฉันทาปาก ดิฉันเจาะหู

แพรรี่ ไพรวัลย์ เขื่อน ภัทรดนัย

มีไหมเวลาที่เครียด วิธีที่ถูกต้องคือหานักจิตบำบัด?
เขื่อน : จริงๆ ด้วยอาชีพหนู คืออาชีพหลักหนูเป็นนักจิตบำบัด หนูเรียนปริญญาโทกับปริญญาเอกด้านนี้ เขื่อนโตมากับที่บ้านที่ค่อนข้างชัดเจนกับเรื่องมีสุขภาพจิตค่อนข้างเยอะไม่ว่าจะเป็นคุณแม่หรือพี่สาว เราก็เห็นและโตมารู้เลยว่าการยอมรับและการรักษามันน้อยมากๆ ในเมืองไทย มันดีขึ้นแล้วนะครับ แต่มันน้อยมาก ก็เลยรู้สึกว่าถ้าเราไม่ทำตรงนี้ให้ดีแล้วใครจะทำ ก็เริ่มที่เราก็ค่อยๆ แพชชั่นของตัวเอง แล้วมาจับได้ว่าอยากทำเรื่องสุขภาพจิต อยากไปเรียน เพื่อที่กลับมาทำให้เรื่องสุขภาพจิตในเมืองไทยเป็นเรื่องที่จับต้องได้ ทุกคนเข้าหาได้ คนขอความช่วยเหลือแล้วรู้สึกว่าไม่อ่อนแอ ไม่ผิด

คนที่เข้ามาปรึกษามีเรื่องอะไรบ้าง?
เขื่อน : โดยรวม มันกว้างมาก

เมื่อก่อนไม่มีนักจิตบำบัด คนก็ไปปรึกษาพระ?
แพรรี่ : เยอะ เวลาหนูให้คำแนะนำ คือไม่ให้คุณค่าไปทางใดทางหนึ่ง หรือให้คนมีฟังชั่นว่าแค่ต้องมาทางนี้ เช่น ป่วยก็ต้องมาเข้าวัด นั่งสมาธิ นั่งสมาธิอะไรแบบนี้ แล้วมันทำให้บางเคสนอกจากอาการป่วยไม่หายแล้วมันหนักขึ้น เพราะมันได้รับการรักษาที่ไม่ถูกทาง คนมีภาวะทางจิตใจมันเฉพาะจริงๆ ต้องเป็นคนที่เขารู้จริงๆ ว่าคนแบบนี้ต้องใช้วิธีการเยียวยาแบบไหน

แพรรี่ ไพรวัลย์ เขื่อน ภัทรดนัย

แพรรี่ : สิ่งที่คิดว่ามีความสุขที่สุดสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ชื่อว่าแพรรี่ ทุกวันนี้มีความสุขมากที่ได้กลับมาอยู่บ้าน ได้อยู่กับครอบครัว ได้ดูแลแม่ ผู้หญิงคนเดียวที่ดิฉันรักที่สุดในชีวิต ได้เป็นตัวของตัวเอง มีไลฟ์สไตล์ที่ไม่ต้องคอยฟังว่าใครจะว่ายังไง ดิฉันมีความสุขมากๆ ที่ทุกวันได้ลุกมาแต่งตัว ได้ทาปากแดงๆ แบบนี้ ที่สำคัญได้สร้างงานให้กับคนในชุมชน พี่น้องอันเป็นที่รักของดิฉัน

ทั้งคู่รักแม่มาก?
เขื่อน : ใช่ค่ะ สนิทกับคุณแม่มาก ทุกวันนี้เขาเข้ามาอยู่ในโลกของเขื่อน เขื่อนก็เข้าไปอยู่ในโลกของเขาเยอะขึ้น ก็มีตัดชุดคู่กัน เขื่อนมีปัญหาเรื่องแฟนก็ปรึกษาคุณแม่ สนิทกันมาก เพราะตั้งแต่เด็กจนโต คุณแม่จะพูดตลอดเลย เลี้ยงลูกเขื่อนแบบเพื่อนสนิทนะ ตอนเด็กๆ เราจะไม่เข้าใจ แต่พอวันนึงเราโต เราผ่านอะไรหลายๆ อย่างมา เราเข้าใจแล้วว่าที่คุณแม่หมายถึงคืออย่างนี้เอง

แพรรี่ ไพรวัลย์ เขื่อน ภัทรดนัย

คุณแม่รู้ไหมว่าเราเป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็ก?
เขื่อน : คุณแม่รู้ตอนเขื่อนประมาณ 15 เขื่อนจำได้เลยว่าวันนั้นเครียดมาก เหมือนโลกจะถล่ม แล้วรู้สึกว่าถ้าจะบอกใครก็ต้องบอกคุณแม่ จำได้เลยว่าวันนั้นไปปลุกคุณแม่ บอกว่าหนูเลือกแล้ว หนูว่าหนูชอบผู้ชายทคุณแม่ก็บอกดีแล้วลูก มีความสุขนะแล้วก็หลับต่อ

แพรรี่ : จริงๆ ความสัมพันของหนูกับแม่ห่างมากๆ เลยตั้งแต่วันที่บวช แล้วไม่ได้คุยกันทุกวัน นานๆ คุยที เพราะเราเป็นเณร แค่เงินจะหยอดตู้โทรศัพท์ก็ไม่มี ฉะความสัมพันธ์ของหนูกับแม่มันหายไปจนงันหนึ่งที่เริ่มรู้สึกว่าหันกลับเข้ามาหาครอบครัวให้เยอะขึ้น เพราะเราเป็นลูกคนเดียวพยายามที่จะชดเชยตรงนี้ที่เราไม่ได้ทำตลอดเวลา 18 ปีที่เราไปบวช วันแรกที่สึกมากอดคุณแม่ไม่ได้เพราะคุณแม่กำลังจะเข้าผ่าตัดใหญ่ คุณแม่เป็นมะเร็ง ที่สึกมาเพราะเหตุผลนี้ด้วยแต่ทุกวันนี้เวลามาทำงานกรุงเทพก็ต้องขอหอมแก้มก่อน แบบนี้ถ้าเป็นฟิวก่อนบวชไม่มีเลย เพราะเราอยู่ในครอบครัวที่มันไม่ไก้มีความสัมพันหวานซี้ง แม่เขาก็มีการแสดงออกในแบบของเขา

พอเขาแสดงออกถึงตัวตนที่ชัดเจนของเข ให้กำลังใจเขายังไงบ้าน?
คุณแม่แพรรี่ : เขาเป็นของเขา เราไม่มีการว่าก็จะคอยให้กำลังใจ เหมือนลูกเดินมนเส้นทางนี้ เราก็พยายามให้เขาแต่งตัวให้ดูดีอย่างที่ใจเขาชอบ ได้ทำและแสดงออกไม่ต้องปิดบัง เราเป็นของเราแบบนี่ก็แสดงออกไปเลย

แพรรี่ ไพรวัลย์ เขื่อน ภัทรดนัย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.daradaily.com/news/118220/read
ขอขอบคุณ : https://www.daradaily.com/news/118220/read