ท็อป จรณ สุดช้ำ สาวหักอก ดื่มเหล้าช่วยให้ลืม หมอดูทักอาภัพรัก ปลงกว่าจะคิดได้


ให้คะแนน


แชร์

ท็อป จรณ สุดช้ำ ถูกสาวหักอก ดื่มเหล้าช่วยให้ลืม หมอดูทักอาภัพรัก ปลงกว่าจะคิดได้

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

ถอดเขี้ยวเล็บมาเป็นหนุ่มสายธรรมะ สำหรับนักแสดงหนุ่ม ท็อป จรณ โสรัตน์ เล่าอดีตช้ำรัก ติดเหล้า ปาร์ตี้ จนคิดได้แอลกอฮอล์ไม่ได้ช่วยให้ลืม เปลี่ยนทัศนคติเป็นคนใหม่ อยู่คนเดียวได้ รับหมอดูทักอาภัพรัก

โดย ท็อป จรณ ได้เดินทางมาบวงสรวงซีรีส์ เรื่อง “สืบสวนสำนวนรัก” ณ ศาลพระพรหม ไทยพีบีเอส ซึ่งภายหลังจบงานได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวดังกล่าว

ได้ยินว่าเป็นคนเลือกงาน? “เลือกครับ จริงๆ เมื่อก่อนเลือกเยอะมากครับ เมื่อก่อนทุกงานถ้าเรารู้สึกว่ามันไม่ใช่ มันไม่ตรงใจเรา เราก็จะไม่เอา สมมติเรื่องนี้คาแร็กเตอร์เราเคยเล่นแล้ว เราก็ไม่อยากเล่น ไม่ท้าทายเราก็ไม่เอา หรืองานรีวิวลงไอจี มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวเรา ก็ไม่เอาครับ ไอจีรูปก็ไม่ค่อยลง ปฏิเสธรีวิวก็ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเหมือนกันครับ”

รับงานด้วยเหตุผลอะไร? “ความรู้สึกเลย เป็นเรื่องของคุณค่าของงานเรา มันท้าทายเรามั้ย มันจะมีความสุขมั้ย เราเลือกสิ่งนั้นมากกว่าเงิน มากกว่าจำนวน มากกว่าทุกอย่าง”

เรากลัวที่จะปฏิเสธงาน? “อ๋อ เราไม่ได้เป็นคนปฏิเสธครับ ผู้จัดการเป็นคนปฏิเสธ เรื่องหนักใจไม่ใช่ผมครับ”

เรื่องหัวใจตอนนี้ยังไง? “หัวใจธรรมดา เต้นดี เป็นปกติครับ ปวดบ้าง เล็กน้อย”

ได้ยินว่าอกหักมา? “มันนานมากแล้ว (ตอนนี้ยังไม่มีใคร?) ไม่มีครับ”

ไม่มีความรักนานแค่ไหนแล้ว? “น่าจะ 2 ปีแล้วครับ ชีวิตโสด มันก็สบายดีนะ ใช้ชีวิตได้แบบที่เราต้องการ เรามีเวลาให้งานมากขึ้น เรามีเวลาให้ครอบครัวมากขึ้น แล้วก็ให้ตัวเองมากขึ้นที่สำคัญครับ ความแตกต่างมันก็ค่อนข้างเยอะเหมือนกันนะ ถ้ามีแฟนเราก็คงต้องให้เวลากับคนที่เรารักก่อน แต่นี่เราสบายๆ เต็มที่ได้เลย มันคนละอย่างกัน เรามีเวลาทำ”

ช่วงที่อกหักเมาหัวราน้ำ?ผมยังไม่ค่อยเข้าใจ ตอนนั้นมันวัยรุ่นครับ ยังเด็กอยู่ อายุไม่ได้เยอะมาก ยังสนุกกับการเที่ยวกับปาร์ตี้อยู่ ผลพลอยได้ก็คือช่วยให้เราผ่านช่วงเวลาแบบนั้นไปได้เร็วขึ้น มีเพื่อนคุยก็ไปคุยกับเพื่อน แต่สิ่งหนึ่งที่เรามองย้อนไปเราเห็นว่าเอาจริงๆ แล้ว แอลกอฮอล์ หรือว่าการปาร์ตี้สำหรับเรามันไม่ได้ช่วยอะไรเราขนาดนั้น ในเรื่องของการผ่านปัญหาในชีวิต มันแค่สนุกเฉยๆ”

ตอนนั้นคิดว่าการดื่มช่วยให้ลืม? “ใช่ หลายๆ คนก็เป็น เป็นเรื่องธรรมดา แบบไปปาร์ตี้เว้ย เราก็เชื่อว่าเป็นอย่างนั้น เราจะได้ไม่ต้องมานั่งคิดอยู่คนเดียว เดี๋ยวเป็นโรคซึมเศร้า เดี๋ยวเครียด เดี๋ยวร้องไห้ ตอนนั้นเราคิดแบบนั้น เราก็ชวนเพื่อนไปดีกว่า เพื่อนๆ ยังไม่ได้มีครอบครัวกันครับ ก็ไปเต็มที่เลย

แต่ไม่ได้เมาเละเทะนะ เดี๋ยวคนเข้าใจผิดว่าผมเป็นขี้เมา ไม่ใช่ครับ แค่วันหยุดนะ แล้วเราก็ไม่ได้หยุดเยอะ เพียงแต่ว่าหยุดปุ๊บ มันร้อน มันอยู่ห้องไม่ได้ แต่ก็ดูแลตัวเองปกตินะครับ ไม่ได้ลำบากคนอื่น เพื่อนหิ้ว ไม่มีนะครับ ผมกลับบ้านได้นะครับ เรียกแท็กซี่กลับได้คนเดียวสบายมากครับ

นานไหมกว่าจะเอาตัวเองออกมาจากจุดนั้น?6 เดือนนะ แล้วก็ดีขึ้น

หลังจากผ่านจุดนั้นมาได้ข้อคิดอะไรบ้าง?เราก็ได้ข้อคิดเลยว่าเหล้าไม่ช่วยอะไร แอลกอฮอล์ไม่ได้ช่วย การที่เราเองยังไม่สามารถอยู่กับตัวเองได้ คือมูฟออนกับอดีตไม่ได้ มันก็ทำให้ชีวิตเราวนอยู่อย่างนี้แหละ มูฟออนเป็นวงกลมไปเรื่อยๆ มันก็ไม่ได้ ไม่ใช่

แต่ละคนก็คงมีวิธีการไม่เหมือนกัน ผมเชื่อว่าหลายๆ คนก็อาจจะเป็นอย่างผมนะแต่ว่าผมเองก็ไปใช้ธรรมะ สวดมนต์ นั่งสมาธิมาช่วยตัวเราเองมากขึ้น เรารู้สึกว่าดีกว่า เวิร์กกว่า ไม่ต้องเปลืองตังด้วย นอนก็เฟรช ตื่นเช้าไปวิ่งดีกว่า”

เปลี่ยนมุมมองตัวเองใหม่หมดเลย แฮปปี้แค่ไหนที่อยู่กับตัวเอง? “ใช่ครับ คือมันไม่ได้มีความสุขเว่อร์นะ แต่มันเป็นความเบา ไม่ต้องหนักใจ เหมือนแบบเราไม่ต้องไปกังวล ไปคิดมาก หรือเป็นห่วงอะไรใครมากมาย มันก็เป็นความตระหนักรู้บางอย่างในประสบการณ์ของตัวเอง เหมือนรู้ใจตัวเองมากขึ้น อยู่กับตัวเองได้ อยู่คนเดียวได้ หาความสุขเล็กๆ น้อยๆ ทำให้ชีวิตของเรามีความสุขมากขึ้นครับ”

ตอนนี้เข้าใจโลก ชีวิต ที่ไม่ยึดติด รู้จักปล่อยวาง? “จะว่างั้นก็ได้ เข้าใจความรักมากขึ้น พระพุทธเจ้าใช้คำว่ามีบ่วง จริงๆ แล้วมันเหมือนเป็นความสัมพันธ์แล้วกันของแต่ละสถานะไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ คนรัก เพื่อน เข้าใจในความสัมพันธ์มากขึ้น แล้วก็มาพิจารณาดู ถ้าพูดก็จะกลายเป็นธรรมะเกินไป ก็เข้าใจกันมากขึ้นดีกว่าครับ

เราไม่ได้เอาใจไปไว้กับเขา เราควรจะเอาใจเราไว้กับตัวเราเองให้มากที่สุด เรื่องความรักความเป็นห่วงมันก็มีให้กันอยู่แล้ว แต่สิ่งหนึ่งคือเราต้องไม่ยึดถือเขาว่าต้องเป็นของๆ เรา หรือไม่ได้ยึดว่าพ่อแม่จะต้องอยู่กับเราตลอดไป ก็เข้าใจส่วนตรงนี้มากขึ้น”

เรามักจะเป็นฝ่ายที่ถูกบอกเลิกตลอดมา? “ครับ ใช่ครับ มันเป็นอย่างนั้น ผมว่าจริงๆ แล้ว มันไม่ได้เกี่ยวว่าใครบอกเลิกใครหรอก จริงๆ ทุกๆ คน ทุกคู่อยากประสบความสำเร็จไปด้วยกันแหละ มันไม่มีใครอยากเลิกกันหรอก แต่ว่าใครกล้าที่จะพูดก่อนมากกว่า แค่นั้นเองสำหรับผม มันไม่ได้สำคัญว่าใครพูดก่อนหรือพูดหลัง โอเค เรายอมรับว่าวันหนึ่งเราไปต่อกันไม่ได้แค่นั้นเองครับ”

มีหมอดูทักว่าเราหาคู่ยาก? “ใช่ๆ คือเขาบอกว่าปมอาภัพรัก เหมือนแบบว่างานดีนะ แต่ความรักไม่ดี ตอนแรกก็ไม่เชื่อ ตอนนี้เชื่อ (หัวเราะ) เรื่องธรรมดา เราก็เข้าใจมันมากขึ้น”

กลัวที่จะขึ้นคาน?ไม่เห็นต้องกลัวเลย สบายดีนะ หาเงินก็ใช้ ให้พ่อให้แม่ เราก็มีความสุขอยู่กับสิ่งที่เราทำ มีเพื่อนก็เล็งไว้ว่าเราจะแวะไปหามันตลอด ผมก็คุยเล่นกับเพื่อนอีกคนหนึ่งของผมที่เขาก็โสดเหมือนกัน ว่าเดี๋ยวเราเก็บเงินไปซื้อแพ็กเกจบ้านพักคนชรากันดีกว่า น่าจะดูแลเราดีนะ

คือดูขำๆ เล่นๆ คิดว่าบางครอบครัวพ่อแม่แก่มาโรงพยาบาล เขาก็มาเองนะ บางทีคนขับรถแม่บ้านพามา ลูกต้องทำงาน แต่มันไม่ใช่ว่าลูกเขาไม่ดีนะ เขามีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ ไปทำงาน สุดท้ายก็ต้องเป็นญาติ บางทีมาก็ลำบากเขา เราก็คุยกับเพื่อนว่าบ้านพักคนชราดีกว่า เดี๋ยวนี้เขาดีนะ แพ็กเกจไปเลย ปีละ 2-3 ล้าน โอเคนะ ตอนแก่ มีพยาบาลมาดูแล มีเพื่อน มีสนามหญ้าคุย สบาย”

ไม่คิดว่ามองใครแล้ว? “ผมว่าต้องเตรียมไว้ก่อน เดี๋ยวอนาคตผมเชื่อว่าบ้านพักคนชราจะดียิ่งขึ้นกว่านี้ คือเวลาคุณแก่ โรคมันเยอะมากนะ จะเข้าห้องน้ำก็ลำบากคนไปหมด แต่ถ้าเราอยู่ที่นั่นเขามีคนที่เป็นมืออาชีพทางด้านการดูแล มีคุณหมอ เกิดอะไรขึ้นมา รักษาได้เลย เราไม่ต้องไปลำบากใครเลยพ่อแม่ลูกหลานญาติ ไม่ต้องลำบากใคร เราจ่ายเงิน เขาทำงานให้เราเต็มที่สบาย”

ตอนนี้มีคนเข้ามาจีบ? “ไม่มีเลยครับ โล่งมากเลยครับ ไม่ต้องมาจีบนะ มีความสุขดีอยู่แล้ว ไม่เป็นไร ถามว่ามีใครในใจมั้ย มีนอกใจไปหมด คนนู้นคนนี้ก็สวย ลิซ่าน่ารักมาก”

เราต้องลดสเป็กลง? “ไม่ต้องลด ไม่ต้องอะไรเลย ผมแก่แล้ว”

ตอนนี้สลัดคราบความเจ้าชู้? “ผมว่ามันตามวัยนะ เข้าใจโลกมากขึ้น มันก็มีคนที่เขาชอบเด็กๆ กัน เราก็แก่แล้ว เราก็เจียมตัวเรา อยู่ของเราอย่างนี้ เราไม่ได้ใช้ชีวิตหวือหวามาก ก็ทำงานไป แล้วผมก็สวดมนต์ ทำบุญ นั่งสมาธิ ใครเขาจะชอบ สมมติคุยกันอยู่ วางก่อนนะ เราขอไปสวดมนต์นั่งสมาธิสักชั่วโมงหนึ่ง เข้าใจมั้ย”

ต้องหาคนศีลเสมอกัน? “มันก็ยากอ่ะยุคนี้ แต่ก็ไม่เป็นไร ผมว่าผมแฮปปี้แบบนี้ สบายดี ขอคนที่มีความเชื่อเดียวกันดีกว่า มีความเข้าใจที่ตรงกัน รักครอบครัวเหมือนกัน”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7267211
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7267211