เอม สาธิดา เผย รักใครก็มีเจ้าของ เลือกอยู่คนเดียว โสดดีกว่า เชื่อดวงไม่สมพงษ์


ให้คะแนน


แชร์

เอม สาธิดา เผย รักใครก็มีเจ้าของ เลือกอยู่คนเดียว เป็นโสดดีกว่า พ่อห่วงหนัก ลูกอายุขึ้นเลข 3 อยากให้มีแฟนสักที

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

วันเกิดปีนี้อายุเข้าวัยเลข 3 ถือโอกาสจัดแฟนมีตติ้งหมูกระทะโซจูกับแฟนคลับ พร้อมจัดโปรแกรมทำบุญ ทานอาหารกับพ่อแม่ สำหรับพิธีกรนักแสดงสาว เอม สาธิดา ปิ่นสินชัย ที่คุณพ่อห่วงเหลือเกินว่าทำไมลูกสาวยังอยู่เป็นโสด ไม่มีครอบครัวสักที ทำเอาสาวเอมหนักใจเล่าปัญหาความรัก เชื่อดวงรักคนมีเจ้าของ

ล่าสุด เอม สาธิดา เดินทางมาร่วมงานบวงสรวงซีรีส์ เรื่อง “สืบสวนสำนวนรัก” ณ ศาลพระพรหม ไทยพีบีเอส ซึ่งภายหลังจบงานได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าว ก่อนชี้แจงประเด็นถูกทัวร์ลง ปมเปลี่ยนคิวสัมภาษณ์ ต่อ ธนภพ และ ซี พฤกษ์ กะทันหัน

วันเกิดปีนี้ได้ยินว่าจะมีโปรเจกต์? “โอ้โห บางทีมันหมดยุคนะ จัดมาปีที่ 8 แล้ว ไม่น่าเชื่อว่าเราจะออกมาจากบ้าน AF มา 8 ปี แฟนคลับหนูกระซิบเลยว่าเป็นสายปาร์ตี้ คุยกับทางร้านโซจูหมูกระทะ และร้านยากินิกุว่าขอ 2 ร้านจอยกันก็ให้แฟนคลับไปสนุกกัน ตอนนี้โต๊ะเต็มแล้วนะ ซื้อไม่ได้ ขายหมดเรียบร้อย รู้สึกว่าแฟนคลับเขาก็ยังติดตามเรา เราก็แซวกันขำๆ วันเกิดเขาก็อยากมาเจอเรา เราก็จัดแล้วกัน ปีที่แล้วโควิด-19 ไม่ได้จัด ปีนี้เลยกลับมาจัด เป็นฟีลง่ายๆ กินหมูกระทะกัน ง่ายๆ แล้วก็มีปาร์ตี้โซจูกัน”

แฟนคลับไปกันเยอะ? “ตอนนี้ที่จองเกือบ 200 คนค่ะ ตอนแรกจองร้านเดียว แล้วก็ไม่คิดว่าจะมีแฟนคลับมา หลายคนที่มาจากต่างจังหวัดเขาก็อยากมาแล้วก็ทั้ง 2 ร้าน รองรับได้ประมาณไม่เกิน 200 ที่นั่ง แต่ล่าสุดพอลงไอจีไปก็มีเพื่อนเอเอฟทักมาว่าขอมาได้ไหม เลยมาเอ็นจอยเอ็นเตอร์เทนกัน เขายังไม่ได้บอกนะ แต่เอมก็ไม่รู้ว่าเขาจะมากันหรือเปล่า

ก็มีโพลารอยด์ให้กับทุกคนเลย แล้วก็อะคูสติกคอนเสิร์ตด้วย ได้ฟังกันยาวๆ แล้วก็ได้เต้นแน่นอน มีอยู่เพลงหนึ่งที่เอมแต่งเองแล้วก็อยู่ในอัลบ้มที่แล้วยังไม่เคยได้ร้องก็จะเป็นที่แรกที่ได้ฟังกันแบบสดๆ ชื่อเพลงว่าคำตอบที่ตามหาค่ะ”

ปีนี้พาไปเลี้ยงข้าว? “เราก็บอกพ่อว่าเคลียร์คิวให้หน่อยน๊า เราไปกินข้าวกัน 3 คนง่ายๆ จริงๆ บ้านเอมสนิทกันมากนะทั้งคุณพ่อ คุณแม่ แต่ไม่ค่อยพูด พ่อก็จะรู้ว่าเราดูแลตัวเองได้ ก็จะวางใจ ไม่ค่อยห่วงอะไรค่ะ ห่วงอย่างเดียวลูกโสดมานานมาก พ่อก็บอกว่าแล้วแต่เลย”

เขาแซวเรื่องความโสดบ่อย?มีเพื่อนพ่อแซว เพื่อนพ่อมาบ้านก็จะบอกว่าเนี่ยลูกของเพื่อนพ่อแต่งงานมีลูกหมดแล้ว ลูกเราเมื่อไหร่เขาก็จะหันมา เราก็บอกว่าไม่คิด ไม่รู้

ดูชิลนะ? “ชิล เป็นคนชิลค่ะ ไม่ได้กดดันเรื่องนี้ คุณแม่ไม่กดดันเลย แต่พ่อเอมคิดว่าลึกๆ อาจจะมีคิด แบบเอ๊ะ! คือสมัยวัยรุ่นเราจะเคยพาหนุ่มๆ มาต่อยมวยที่บ้านบ้าง แต่พอยิ่งโตไม่มี พ่อก็อาจจะงง แต่พ่อรู้ว่าเราดูแลตัวเองได้

แต่มันเลข 3 แล้วนะ? “อีกละจะกดดันก็ตอนนี้แหละ มีคนเข้ามาบ้างค่ะ แต่เรารู้สึกว่าถ้าเข้ามาแล้ว และเราไม่ได้ดีขึ้น เราก็ยังไม่เปิดให้ใครมาก เพราะว่าชีวิตเรารู้สึกว่าเราทำงาน เรามีเพื่อน เราโอเค ถ้ามีคนมาเติมเต็มเราไม่ได้ปิดกั้นอยู่แล้ว แต่ตอนนี้มันยังไม่เจอ”

ยังตามหาคนในสเปก? “ไม่มีสเปกนะ อย่างที่รู้กันเราก็ค่อนข้างจะเปิดว่าเราชอบใครก็ได้ ฉะนั้นคนที่เข้ามาก็หลากหลายเหมือนกัน แต่มันอาจจะยังไม่เจอที่คลิกเลย”

คนที่เข้าหาจะต้องมีกฎเหล็กอะไร? “ใจดี ใจเย็น เพราะว่าเราเป็นคนร้อน วัยสมัยเด็กๆ ขี้หึง เราก็จะบ่น แต่ถ้าเจอคนแบบนั้นก็จะยากละ อายุไม่ต้องโตกว่าเอม แต่ต้องใจเย็นๆ กับเอมหน่อย (ไม่อยากเจอไฟกับไฟ?) ไม่เอาเลย ถ้าดุมาก ไม่สู้เลย ไม่เจอเลย”

ประกาศเลยไหม?อาจจะเป็นคนที่ชอบคนมีเจ้าของ สมมติเราถูกใจละ คนนี้เหมือนจะดีเนาะ เราก็หยุด (เราสืบด้วยตัวเอง?) สืบ ไม่เราก็เพื่อน เป็นนักสืบ แล้วเราก็หยุด ถ้ามีเจ้าของเราก็จะไม่เข้าไปยุ่ง

เจอแบบนี้มาตลอดเลย?จริง ประมาณ 3-4 คนละ ที่เรารู้สึกว่าเป็นไปได้นะ แต่ก็เป็นไปไม่ได้

ดวงเราสมพงษ์กับคนมีเจ้าของหรือเปล่า?จริง เคยคิด แต่รู้สึกว่าคนที่ใช่ในเวลาที่ไม่ใช่ ยังไงก็ไม่ใช่ อืม…

เช็กหมอดูไหมเนื้อคู่จะมาเมื่อไหร่?ไม่ดู เป็นคนไม่ดูดวง เพราะว่ากลัวว่าถ้าหมอดูบอกว่าดวงอยู่คนเดียวจะทำไงล่ะ ไม่เอา

อยู่คนเดียวดีกว่าชอบคนมีเจ้าของ? “ใช่ ถ้าต้องเลือกคืออยู่คนเดียวอยู่แล้ว เรารู้สึกว่าไม่คุ้ม

เลข 3 แล้วมีเป้าหมายในชีวิตอะไรที่ชัดเจน? “ด้วยความที่เราเป็นคนชิลสบายๆ ด้วย แต่พอเลข 3 เราก็มองว่ามันเป็นสเต็ปใหญ่ในชีวิตของเราก็อยากให้พ่อแม่สบายแค่นั้นเลย เพราะพ่อแม่ดูแลเอมมาดีมากตั้งแต่เด็กๆ โตมาอยากเรียนอะไร

ถ้าที่บ้านซัพพอร์ตได้ก็พยายามจะซัพพอร์ต วันนี้เรารู้สึกว่ามีกำลังประมาณหนึ่ง เราก็จะซัพพอร์ตที่บ้าน พ่อก็จะถามเสมอว่าถ้าไม่ไหวบอกนะ พ่อแม่ก็ช่วยกันไป บาลานซ์ คือดูแลที่บ้านได้ร้อยเปอร์เซ็นต์”

ดราม่าต่อ ธนภพ-ซี พฤกษ์? “คือตั้งแต่เอมทำงานมา 8 ปี ยอมรับว่าเรื่องนี้หนักมาก หนักที่สุดในชีวิตก็ได้เพราะว่าเราเข้าใจแฟนคลับพี่ซีกับพี่ต่อมาก เพราะถ้าเราเจอแบบนั้นกับศิลปินที่ชอบ เราคงไม่โอเค ตอนแรกโมเมนต์นั้นเราคิดว่าเอาไงดีวะ ในหัวเรา ด้วยความที่เราอาจจะอ่อนประสบการณ์ การทำงานหน้าเวที เราเลยเลือกที่จะทำแบบนั้นลงไป เรากลับมาหลังจากจบงานปุ๊บ เราไม่ได้จับโทรศัพท์เลย แล้วก็อยู่กับแฟนคลับจนขึ้นรถ

มันแปลกๆ เลยเข้าไปดูไอจี อินบ็อกซ์แบบเป็นพันข้อความเราเลยกดเข้าไปดู เริ่มเข้าใจเรื่องราว พอไปดูในทวิตเตอร์ก็ตกใจซ้ำอีก วินาทีแรกคือไดเร็กต์ไปเพราะเราไม่ได้มีคอนแท็กต์ต่อและซี ไดเร็กต์ไปขอโทษ แล้วก็พยายามอธิบายให้แฟนคลับเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น ส่วนตัวก็ยังรู้สึกผิดนะ แต่ล่าสุดได้ฟังสัมภาษณ์ของต่อและซี เขาก็บอกว่าเข้าใจ ก็ขอบคุณที่เข้าใจกันค่ะ แต่ถ้าย้อนกลับไปได้คงไม่ทำแบบนั้น”

ความรู้สึกแรกที่โดนทัวร์ลงเป็นยังไง? “นอยด์นะ ยอมรับไม่เคยเป็น อย่างตอนเราประกวด AF เราจบมาก็จะมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหมาะ ไม่เหมาะต่างๆ เรารู้สึกว่าเราจัดการมันได้ แต่พอเรื่องนี้ วินาทีแรกคือคิดทำไงดี มึนมาก นอยด์

คืนนั้นก็แทบจะนอนไม่หลับเหมือนกัน เพราะว่าโห มันเยอะมากจริงๆ ในอินบ็อกซ์ทุกวันนี้ก็ยังลบไม่ได้ ยังลบไปไม่หมด แต่เราเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่พอทุกคนได้ฟังในมุมมองของเรา พอเราได้ออกมาพูดแฟนคลับเขาก็เข้าใจเรามากขึ้น ก็โอเค

ทุกวันนี้ต้องระวังมากขึ้น? “ระวังมาก แล้วก็เรื่องชื่อศิลปิน ซึ่งเอมทำข่าวบันเทิงอยู่แล้ว เอมรู้ว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง แต่ ณ โมเมนต์นั้นมันเป็นเรื่องคิวจริงๆ ที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แล้วทางทีมงานเขาก็มาบอกเราตรงนั้น เราไม่สามารถที่จะจัดการได้ดีมากพอ มันก็เลยเกิดเป็นประเด็น ซึ่งเรารู้สึกว่ามันเซ้นซิทีฟเหมือนกัน ถ้ามันเกิดขึ้นกับเราแบบนั้น แฟนคลับเราก็คงไม่แฮปปี้เหมือนกัน”

เราไล่อ่านเกือบทุกคอมเมนต์? “คือมันเด้งมาเยอะมาก ในทวิตเตอร์เขาก็ขอให้เราออกมาพูด ให้ออกมาชี้แจง ก็มีทั้งแฟนคลับที่เป็นชาวไทย และแฟนคลับชาวต่างชาติเยอะมาก ทุกชาติรวมที่นี่หมด อย่างตอนที่เอมอธิบายก็อธิบาย 2 ภาษา

เพราะต่างชาติเยอะ สิ่งที่ได้รับคือน้องคนที่เขาเอาคลิปไปโพสต์ ต้นทวิตเขาก็ไดเร็กต์มาเหมือนกันบอกว่าขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น เราก็บอกไม่เป็นไรหรอก แต่ว่าวันหลังถามกันก่อนก็ได้ แต่ด้วยภาพออกไปหลายคนหน้าเหวอ เราเข้าใจทุกอย่างเลย”

ครั้งนี้เป็นบทเรียนครั้งยิ่งใหญ่? “โห อาทิตย์ที่แล้วไปอีเวนต์ยังมีความตื่นเต้นอยู่ ปกติเราจะค่อนข้างชิน เราทำทีวีทุกวันเนาะ เรื่องตื่นเต้นมันหายไปมาก แต่พอเกิดเรื่องนี้เอมอ่านทุกชื่ออ่ะให้ถูก และซีเควนซ์ เอมถามออแกไนซ์เลยว่าบรีฟซีเควนซ์ให้เป๊ะนะ ใครเข้า ใครออก หรือใครอะไรกับใครบอกหนูนะ เพราะเขารู้ว่าเราเจออะไรมา”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7267272
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7267272