แนท ร่ำไห้ ห่วงตากับยาย หลังบ้านถูกประกาศยึด เจรจาไกล่เกลี่ยชดใช้หนี้แทนแม่


ให้คะแนน


แชร์

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

แนท ร่ำไห้ ห่วงตากับยาย / จากมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2015 ‘แนท’ อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ สู่นักแสดงมากฝีมือ มีผลงานให้แฟนๆ ชื่นชมมากมาย หลักจากที่ แนท ได้ไปออกรายการแฉ พร้อมกับเล่าว่าตนได้อาศัยอยู่กับตายายตั้งแต่ 2-3ขวบ ซึ่งพ่อกับแม่แยกทางกันและแม่ขาดการติดต่อ นานๆครั้งที่แม่จะกลับมา แต่คุณตามีอาชีพเป็นข้าราชการเกษียณจึงมีเงินส่งหลานทั้งสองคน คือแนทและนิต้า (พี่สาว) เรียนหนังสือ
แนท ร่ำไห้ ห่วงตากับยาย

แนทซื้อบ้านให้ตากับยายอยู่อาศัยเพื่อตอบแทนบุญคุณ แต่แล้ววันหนึ่งมีหมายศาลมาแปะอยู่หน้าบ้านว่า บ้านกำลังจะถูกยึดเพื่อนำขายทอดตลอด จากกรณีที่คุณแม่ (นางสาวภิญญลักษณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์) ถูกผู้เสียหายแจ้งความในข้อหาฉ้อโกง

ล่าสุด แนท เดินทางมาร่วมชมละครเวที ‘ลิขิตรักชิงบัลลังก์’ รอบปฐมทัศน์ ที่ เมืองไทย รัชดาลัยเธียเตอร์ ก่อนเข้าไปรับชมได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เปิดใจอีกครั้งถึงเรื่องบ้านที่กำลังจะถูกยึด

ขอถามถึงเรื่องบ้าน? “แนทอาจจะตอบได้บางเรื่อง ส่วนคดียังอยู่ในกระบวนการค่ะ ถ้าพูดอะไรมากกกลัวว่าจะกระทบรูปคดี ถ้าถามว่ามีแนวโน้มว่าจะโดนยึดไหม คือแนทว่าไม่น่าจะโดนยึด ถามว่ามีหมายศาลมาติดที่บ้านจริงไหม คือจริงค่ะ ก็ค่อนข้างที่จะตกใจ แต่ทีนี้ก็ตั้งสติก่อนอันดับแรก ก็โชคดีว่าวันนั้นไปกินข้าวกับพี่เกลือ พี่เขาก็แนะนำทนายให้กับแนท และแนะนำว่าเราสามารถไปในทิศทางไหนบ้าง เพราะว่าจริงๆ เราไม่ได้มีเจตนาที่จะหลบหนี เราไม่ได้รับทราบหนี้ก้อนนี้ ก็มีการคุยไกลเกลี่ยกัน ซึ่งน่าจะอีก1-2 เดือน ก็น่าจะไกล่เกลี่ยเสร็จค่ะ ถ้ายังไงจะมาอัพเดตอีกทีหนึ่ง แต่ว่าที่แนทไม่ได้ไปออกรายการ ไม่ได้ไปให้สัมภาษณ์เพราะกลัวว่าจะกระทบกับคดี และกลัวว่าเจ้าหนี้แม่เขาจะเกิดการเข้าใจผิด เพราะบางทีออกข่าวไป บางคนไม่เข้าใจตามข่าวทั้งหมด หรืออาจจะเกิดการเข้าใจผิดบางข้อความ แนทก็เลยเกรงว่ากลัวจะมีปัญหาค่ะ”
แนท ร่ำไห้ ห่วงตากับยาย

จำนวนเงินเยอะไหม ถ้าเทียบกับมูลค่าบ้าน? “จำนวนเงินน้อยกว่าราคาบ้าน บ้านนี้แนทผ่อนอยู่ และมันมีสถานการณ์ก่อนหน้านี้ ที่ทุกคนน่าจะรู้ที่เป็นข่าวค่ะ ซึ่งเราก็มีการเสียทรัพย์สิน มีการจ่ายทรัพย์สินจำนวนมากแล้ว และเราไม่ได้มีมากพอที่จะซัพพอร์ตตรงนี้ต่อค่ะ คือคุยเจรจาไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ให้ดีที่สุดว่าหนี้เกิดจากอะไร เกิดจากใคร ก็คุยให้เขาเคลียร์ว่าแนทเป็นตัวกลางมาช่วยนะ ก็อยากให้เขาทำความเข้าใจและตัดสินใจว่าอะไรยังไงค่ะ”

ได้คุยกับคุณแม่ไหม? “เราก็คุยกันในประเด็นที่กระทบกับแนทและคุณตาคุณยาย ซึ่งประเด็นนี้แนทเข้มแข็ง แนทอยู่ในวงการเราพร้อมรับกับทุกอย่าง กับคุณตาคุณยายก็เป็นห่วง เวลาข่าวที่ออกไป อย่างที่แนทไปออกรายการแฉ ก็มีหลายข่าวมาในทางที่ลบ เช่นบอกว่าแนทส่งตายายกลับบ้านนอก ซึ่งคนแถวบ้านเขาอ่านเขาไม่เข้าใจเจตนาทั้งหมด แล้วตากับยายแนทนับถือมาก แนทถามตากับยายว่ารู้สึกแย่ไหมที่เรามีข่าว เขาก็บอกว่าไม่เป็นไรเลยลูก ยายกับตารู้ว่าแนททำอะไร และรู้ว่าเราสู้มากแค่ไหน เขาจะไม่ทำให้เราลำบากใจค่ะ แนทก็กลัวว่าถ้ามีข่าวลบกลัวแกจะไม่เข้าใจ”
แนท ร่ำไห้ ห่วงตากับยาย

“แนทเชื่อว่ายังไงบ้านก็จะไม่โดนยึด อย่างที่บอกว่าต้องรอการไกล่เกลี่ยค่ะ ซึ่งคนที่เป็นเจ้าหนี้แนทเชื่อว่าเขาอยากได้เป็นเงินอยู่แล้ว ซึ่งเงินจำนวนไหนที่เราจะช่วยให้ไกล่เกลี่ยค่ะ ก็ต้องรอกันต่อไป คือแนทมีการเปรียบเทียบให้เขาฟังว่าหนี้สินกับหนี้บ้าน ถ้าบวกลบแล้วมันไม่คุ้มค่ะ ก็จะมีการพูดคุยกันต่อไปค่ะ”

มีภูมิคุ้มกันกับข่าวนี้ยังไงบ้าง? “คือมีครั้งหนึ่งหลังมีข่าวออกไป มีใครไม่รู้เดินมาถามว่าบ้านหลังนี้ขายไหม หนูไม่รู้นะ แต่ตากับยายเสียงสั่นเลยว่าบ้านหลังนี้ขายไหม บ้านเราจะโดนขายหรือลูก ก็บอกไปไม่โดนขายค่ะ เขาอาจจะมาดูบ้านหลังอื่น ด้วยความที่แนทกับตายายสนิทกันมาก คุยกันตลอดเขาเลยเข้าใจ และก็ถ้ามีปัญหาเขาจะถามเลยว่าไหวไหม ต้องหาเงินเท่าไหร่ ได้นอนพักบ้างไหม กินข้าวหรือยัง ซึ่งเราคุยกันตลอด สภาพจิตใจเราก็ดีขึ้น”

กลัวสภาพจิตใจตากับยายไม่ดีใช่ไหม? “นั่นคือสิ่งที่หนูกลัวที่สุด แนทสู้ทุกปัญหาอยู่แล้ว แต่กลัวอะไรที่ควบคุมไม่ได้เช่นความคิดของตายาย ความคิดของคนนอกบ้านที่เขาพยายามถาม แต่คำถามเป็นเชิงกระทบจิตใจค่ะ โอเคคนถามอาจจะไม่คิดอะไร แต่คนฟังคิดแน่นอน คือหนูรับไหวมากกับการที่มีคนมาถามว่าเป็นยังไงบ้านจะโดนยึดแล้วหรืออะไรแบบนี้ แนทมีวิธีในการตอบคำถาม แต่ตากับยายเขาเป็นคนซื่อๆ แล้วบางทีเขาเป็นคนแก่ เราก็ต้องคุยตลอดค่ะว่าไม่มีปัญหาอะไร”
แนท ร่ำไห้ ห่วงตากับยาย

กับพี่สาวแบ่งเบากันยังไง? “พี่สาวก็ไปทำโปรเจ็กต์ของเขา แนทยังไม่ได้เข้าไปยุ่งกับโปรเจ็กต์เขามากกว่า ถามว่ามีปัญหาอะไรเราก็เข้าไปซัพพอร์ตเท่าที่ซัพพอร์ตได้ค่ะ (หลายคนมองว่าโปรเจ็กต์กับพี่มีปัญหา?) อันนี้ต้องสัมภาษณ์พี่นิต้า (อนิพรรณ) เอง คือแนทต้องอธิบายอย่างนี้คือแนทไม่ได้โยนให้พี่นะ คือแนททำงาน 7 วันเลย แนทเป็นผู้ประกาศข่าวก็มีการเตรียมข่าว และมีละครเรื่องใหม่ด้วย ต้องมีการฝึกภาษาอีสาน และหลังจากนี้อย่างเดือนนี้แนทก็ค่อนข้างเครียดมากว่า เดี๋ยวจะมีงานแฟชั่นวีคก็ต้องเตรียมหุ่น เดียวมี versace เดือนหน้ามีDior ก็ต้องฟิตหุ่นอีก ทำงานของเราเยอะมาก เรื่องงานจึงไม่ค่อยได้คุยกับพี่สาวมาก รายละเอียดต้องสัมภาษณ์พี่นิต้าเองค่ะ”

ทราบถึงปัญหาเรื่องเขาไหม? “ถามว่ารับทราบปัญหาไหม ได้ยินมาบ้าง แต่ไม่รู้รายละเอียดลึกขนาดนั้น แนทจึงไม่กล้าที่จะพูดว่าเขามีปัญหา 1 2 3 4 5 ยังไง กลัวว่าพูดไปแล้วไม่มีปัญหาจะทะเลาะกันค่ะ”

ปัญหาถาโถมเข้ามาเยอะมาก? “ก็ต้องขอบคุณทางผู้ใหญ่ช่องวันที่ให้โอกาสตลอดเลย ทั้งงานผู้ประกาศข่าว งานละคร ทุกครั้งที่แนทมีปัญหา พี่ๆนักข่าวก็ส่งกำลังใจมาให้หนู ผู้ใหญ่ก็ให้งานตลอด ทุกครั้งที่มีปัญหาก็ผ่านมาด้วยดี เราก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในการทำงานของเราทุกๆ วัน ถ้าแนทเก็บมาคิดทุกวันว่าบ้านจะโดนยึดไหม เจ้าหนี้แม่จะด่าเราไหม พี่จะมีปัญหาไหม แนทอาจจะไม่แข็งแรงพอที่จะปกป้องตากับยายได้ค่ะ”

ให้กำลังใจตัวเองยังไง? “คือแนท (น้ำตาคลอ) แค่เห็นรอยยิ้มของตากับยายอันนั่นคือคอมพรีตที่สุดเลย ถ้ามีโอกาสไปกินข้าวกัน คือแนทจะพาไปกินข้าวกันทุกอาทิตย์ และแค่เห็นรอยยิ้มและเข้าใจกันนั่นคือสิ่งที่มีความสุขของแนทแล้ว นั่นคือกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ค่ะ เพียวเลิฟค่ะ”

ยังรับงานได้อีก? “คือเดือนหน้ามีละคร อาจจะมีสัก 4 วันที่เป็นคิวละคร แต่จันทร์ อังคาร พุธ ยังรับได้อยู่ แต่ก็ยังติดรายการข่าวอยู่ แนทโชคดีอย่างที่บอกว่าผู้ใหญ่ทางช่องซัพพอร์ตค่ะ อย่างพี่ๆ นักข่าวที่ทำงานด้วยกันก็คอยสอน ซัพพอร์ตตลอดเลยค่ะ รู้สึกดีใจและเป็นกำลังใจ ใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุขจริงๆ ค่ะ”

ขอบคุณรูปจากไอจี

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7268503
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7268503