จากนั้นเมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่ฝนกำลังตก หลังจากที่กลับจากงานศพของลูกชายและกำลังจะเข้าบ้าน เอ๋ ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไลฟ์ เพราะว่ารู้สึกอะไรแปลกๆ อย่างเช่น ล็อกรถยนต์ไม่ได้ ตอนแรกคิดว่าอาจจะเป็นเพราะว่ากุญแจอยู่ในรถรึเปล่า จะปิดประตูรั้วบ้านก็ถอยกลับเองปิดไม่ได้ ซึ่งประตูบ้านเป็นเซนเซอร์ ตอนที่กดปิดประตูบ้าน ก็เลื่อนมาครึ่งหนึ่งแล้วก็ถอยกลับ แสดงว่าการถอยกลับต้องมีอะไรผ่าน

ซึ่ง เอ๋ บอกว่า ใครที่มองว่างมงายต้องขออภัยด้วย แค่ตนเองรู้สึกแปลกๆ ก็เลยมาไลฟ์ให้ดู และหน้าบ้านอยู่ดีๆ ก็ไฟดับเอง เอ๋บอกว่าก็ดีนะถ้าเป็นลูกมาหา

นอกจากนี้ เอ๋ ยังได้เล่าเหตุการณ์ตอนที่ไปเรียกวิญญาณลูกกลับ พร้อมกับบอกว่า สาบานว่าจะเล่าด้วยความสัตย์จริง เป็นเรื่องจริง โดยบอกว่า เมื่อเช้าตอนที่ไปเรียกวิญญาณลูกกลับ ณ ที่เกิดเหตุ ได้ไปกับพระอาจารย์อึ่ง เมื่อไปถึงสะพานที่เกิดเหตุ ขณะลงรถ สิ่งที่เกิดขึ้นคือรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว โดยตอนแรกตนเองไม่เชื่อเรื่องที่ว่าถ้าตายที่ไหนก็ต้องไปเรียกกลับ ณ ที่นั้น ตนเองคิดว่าเรื่องพวกนี้เป็นความคิดไปเอง เป็นเรื่องสบายใจมากกว่า ดวงวิญญาณใครจะไปอยู่ตรงสะพาน ไม่มีแน่นอน แต่เพื่อความสบายใจ ก็นิมนต์พระไปทำพิธี

เมื่อไปถึงสะพานที่เกิดเหตุประมาณ 9 โมงเช้า พอลงจากรถไปรู้สึกถึงได้ความขนลุก และพระอาจารย์ท่านที่ไปด้วย บอกว่าที่ตรงนี้แรง เพราะว่าท่านลงมาก็ขนลุกเหมือนกัน ซึ่งปกติเวลาท่านไปเชิญดวงวิญญาณที่ไหนก็แล้วแต่ ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน จะรู้สึกเฉยๆ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ไปเชิญวิญญาณ อาร์ม ที่สะพาน รู้สึกวิญญาณอาร์มแรงมาก และความขนลุกมีอยู่จริง ถ้าเรียกภาษาบ้านๆ คือ อาร์มตายโหง ตายแบบไม่รู้ตัว

และ เอ๋ ยังได้ทิ้งท้ายต่อว่า ขอบคุณทุกกำลังใจ ตนเองได้อ่านทุกคอมเมนต์แล้ว สำหรับใครที่รู้ข่าว และอยู่ใกล้ๆ วัดเชิงหวาย วันที่ 5 ต.ค. จะเป็นพิธีฌาปนกิจในเวลา 17.00 น. มาร่วมส่งอาร์มได้.