ติ๊ก ภูมิใจ วง PROXIE ประสบความสำเร็จ ลุยโปรเจ็กต์ใหม่ ร่วมงานกับเด็กรุ่นใหม่


ให้คะแนน


แชร์

ติ๊ก ภูมิใจ วง PROXIE ประสบความสำเร็จ พร้อมลุยโปรเจ็กต์ใหม่ เผยปรับตัวร่วมงานกับเด็ก Genใหม่

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

เรียกว่าประสบความสำเร็จทุกด้าน สำหรับ ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี ที่หลังจากผันตัวเป็นผู้บริหารค่ายเพลงที่ผลิตศิลปิน อย่าง 6 หนุ่ม PROXIE (พร็อกซี) เจ้าของเพลงฮิตติดหู ‘คนไม่คุย’ ที่มียอดวิวทะลุ 12 ล้านวิวไปอย่างรวดเร็ว

ล่าสุด (14 ต.ค. 65) ติ๊ก เจษฎาภรณ์ จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวผลงานใหม่ล่าสุด กับภาพยนตร์แนว Coming of age เรื่อง “My tempo น้องพี่ดนตรีเพื่อน” พร้อมพาศิลปินและนักแสดงร่วมชมรอบกาล่า ที่ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ก่อนเข้าฉายจริงในวันที่ 20 ต.ค.นี้

ก่อนเข้าชมภาพยนตร์ ติ๊ก ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนถึงความสำเร็จหลังผันตัวมาเป็นผู้บริหารค่ายเพลง ผลิตภาพยนตร์ และเป็นผู้จัดละคร พร้อมเผยความรู้สึกถึงการปรับตัวร่วมงานกับนักแสดงและศิลปินเจเนอเรชั่นใหม่ๆ

ความสำเร็จของน้องๆ PROXIE (พร็อกซี) เป็นความภาคภูมิใจของเรา? “ก็จากวันถ้าจนถึงวันนี้ ผมเจอน้องๆ PROXIE (พร็อกซี) ที่เราแยกมา 6 คน จากโปรเจ็กต์ The Brothers ตอนนั้นก็มองไม่เห็นหรอกว่าจะมีภาพวันนี้

แต่เราก็หวังว่าเราจะผลักดันให้น้องๆ สำเร็จนะครับ ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง ในวันนั้นจนถึงวันนี้ที่เดบิวต์แรก Crazy Love (รักบ้าบอ) มาถึง คนไม่คุย (Silent Mode) ผมรู้สึกว่าดีใจและภูมิใจในตัวพวกเขา ที่พวกเขาค่อยๆ เก็บเกี่ยวความฝันแล้วมาถึงจุดหนึ่งคือนี่แหละเขาได้เติมเต็มให้กับตัวเอง”

“ผมก็ยังบอกเขาว่ามันไม่ใช่แค่นี้ จะต้องพยายามและพัฒนาตนเองกันต่อไปในด้านอื่นๆ โดยเฉพาะในสิ่งที่เขาชอบเขารักกัน ต้องพัฒนากันต่อไป ในวันนี้อาจจะได้เท่านี้ แต่ต้องให้มันได้มากกว่าเดิม และสิ่งที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้คือเป็นตัวแทนมอบความสุข เป็นเอ็นเตอร์เทนเนอร์ที่ดี รวมถึงเรื่องการที่เขาจะต้องอยู่ในสังคมและทุกๆ คนจะต้องรักเขา อันนี้ผมรู้สึกอย่างนี้เลย”

พี่ติ๊กอยู่เบื้องหลังตรงนี้ เป็นยังไงบ้าง หนักขนาดไหน? “ทุกอย่าง ผมอยู่ในทุกอย่างของพวกเขา ทุกส่วนเลย ต้องบอกว่าไม่น่าจะมีส่วนไหนที่ผมไม่ได้ดูแลพวกเขาเลย ตั้งแต่เรื่องเบสิกที่สุด จนถึงสิ่งที่ยากที่สุดครับ”

เป็นพระเอกมา แล้วมาทำเบื้องหลัง แล้วเป็นงานเพลงด้วย?เอาจริงๆ งานเพลงผมไม่ถนัดหรอก แต่ว่าเราน่าจะสามารถบริหารจัดการได้ การบริหารจัดการไม่ได้แปลว่าเราต้องเก่งทุกด้าน แต่เราจะดึงคนเก่งๆ คนที่สามารถมาทำงานกับเราได้ ตรงนี้มากกว่าคือการนำส่วนผสมต่างๆ มาปรุงเป็นอาหารจานหนึ่งที่รสชาติดี ถูกใจทุกคน

ทุกคนชอบอยากกินแล้วกินอีก ผมคิดว่าแบบนี้มากกว่า รวมถึงเราโชคดีว่าเราทำงานในวงการ เรามีประสบการณ์บางอย่างที่เราสามารถมอบให้กับพวกเขาได้ ในเรื่องของแง่คิดทั้งข้อดีและข้อเสียต่างๆ และทำให้สิ่งที่เป็นอยู่ได้เรียนรู้ถึงเส้นทางหลักมากขึ้น”

โปรเจ็กต์ต่อๆ ไปจะเป็นอะไร เพราะทำมาหมดแล้ว เพลง หน้ง ซีรีส์? “ตอนนี้มีละครครับ ละครที่ทำเองกับทางช่อง 7 เรื่อง ‘ลมพัดผ่านดาว’ ถามว่าเกิดอุปสรรคอะไรบ้างไหม ทุกอย่างมีอุปสรรคหมดเลย (หัวเราะ) ไม่มีอะไรราบรื่นนะครับ งานละครมันเป็นงานชิ้นใหม่ของผม การทำงานก็เจอคนใหม่ๆ มันหลายอย่าง ผมเองก็มีเพื่อนๆ ที่เป็นนักแสดงและผันตัวเองมาเป็นผู้จัดละคร เราก็ได้มีโอกาสพูดคุยกัน เราก็พอจะทราบอยู่แล้วว่าจะเจออะไรบ้าง เราก็พยายามที่จะแก้ไข ทำให้มันผ่านไปได้ครับ”

อั้ม พัชราภา ในเวอร์ชั่นนี้ เป็นยังไงบ้าง?น่ารัก เซ็กซี่ เหมือนเดิมสำหรับพัชราภา และจริงๆ แล้วจาก นางสาวจริงใจกับนายแสนดี ก็มีกระแสของแฟนๆ หลายคนอยากจะให้เรากลับมาเจอกันอีก แล้วบังเอิญเรากลับมาเจอกันช้าไป (ยิ้ม) เราใช้เวลาเกือบ 20 ปีนะครับ แต่ว่าก็ยังกลับมาเจอกันนะครับ มาแล้วยังดีกว่ามาช้า มาช้ายังดีกว่าไม่มานะครับ

คู่เราเหมือนถูกสตัฟฟ์ไว้เลย ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงไปเลย?เราต้องใช้ช่างแต่งหน้าที่มืออาชีพมากๆ ครับ (หัวเราะ) ที่พอจะสตัฟฟ์และพยุงเราไว้ได้นะครับ แต่พอผมเข้าฉากกับเข้ม (หัสวีร์) ก็จะต้องจัดแสงคนละแบบ เพราะว่าเข้มเขาใสปิ๊งมาเลย ของผมต้องจัดแสงมาอีกหน่อย”

ตอนจีบอั้มมาเป็นนางเอกของเรา เป็นยังไงบ้าง?ผมเข้าใจเลยครับ เราทราบอยู่แล้วว่าคนหนึ่งจะรับงานแต่ละชิ้น ไม่ใช่แค่อั้มอย่างเดียวผมเองก็เหมือนกันเราต้องดูแล้วดูอีก ต้องดูความชอบ ผู้กำกับฯ ผู้จัดว่าเล่าเรื่องให้เราอยากจะทำงานด้วยหรือเปล่า และเราก็พยายามเล่าเรื่องให้สนุกๆ และพยายามที่จะพูดกับเขาเยอะๆ ส่งบทให้อ่าน แล้วคิดว่าอั้มน่าจะชอบในบทบาทนี้ครับ”

จัดด่วนเลยไหม ว่าต้องรีบออกอากาศเลย? “เออๆ อย่าเพิ่งเร่งนะครับ เพิ่งถ่ายได้ไม่เยอะครับ น่าจะปีหน้า”

พี่ติ๊กปรับตัวยังไงให้เข้ากับการทำงานกับคนรุ่นใหม่? “อ๋อ พี่ติ๊กคิดว่าไม่ยากนะ เราต้องเปิดใจ ง่ายๆ เลยเราต้องมีมายด์เซ็ตบางอย่างที่เราเคยถูกปลูกฝังมา แต่ว่าสิ่งนั้นอาจจะไม่ถูกต้องเสมอไป กฎต่างๆ ของวิทยาศาสตร์อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้

ถ้ามีนักวิทยาศาสตร์ที่เกิดขึ้นมาใหม่ แล้วเขาสามารถลบล้างทฤษฎีเดิมได้ แล้วทฤษฎีใหม่ที่เกิดขึ้นมันน่าเชื่อถือมากกว่า และพิสูจน์ได้ดีกว่า ก็คิดว่าดังนั้นต้องเปิดใจ รับฟัง และมองเขาว่าเราเป็นเขา เอาใจเขามาใส่ใจเราแบบนี้เอง”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7317137
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7317137