มีผัวดียิ่งกว่าถูกรางวัลที่ 1 อุ้ม ลักขณา เปิดใจทิ้งวงการไป 4 ปี ปลื้มสามีเปย์หนัก


ให้คะแนน


แชร์

ได้ผัวดียิ่งกว่าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 อุ้ม ลักขณา เปิดใจทิ้งวงการนาน 4 ปี ปลื้มได้สามีสุดประเสริฐ บอล กฤษณะ เปย์หนักทั้งแหวนเพชร เงินสด

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

นักแสดงสาว อุ้ม ลักขณา เปิดใจหลังทิ้งวงการนาน 4 ปี เพราะมีสามีสุดประเสริฐอย่าง บอล กฤษณะ ที่เปย์ทุกอย่าง ทั้งแหวนเพชรเงินสด ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มีหนิง ปณิตา และบูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ทำรายการกับนิวเคลียร์ หรรษา และมีดีเจเพชรจ้า มาเคลียร์กัน? อุ้ม : “เราสองคนพี่น้องตั้งใจทำรายการหนึ่งชื่อว่า ห้องเฉือด ประมาณว่าเราจัดปาร์ตี้ในห้องและเรียกเพื่อนๆ มาปาร์ตี้แล้วก็เฉือดโดยการที่เราจะมีคำถามอะไรที่ล้ำลึกหน่อย เทปแรกเราอยากให้พี่เพชรจ้ามาเป็นแขกรับเชิญให้มันปังๆ แต่ไม่รู้ว่าพี่เพชรจะยอมไหมก็เลยให้น้องนิวไปคุย พี่เพชรโอเคเลย แล้วไม่มีค่าตัวให้ด้วย”

บรรยากาศเป็นยังไงเวลาเขาเจอกัน? อุ้ม : “จริงๆ ต้องบอกว่าเขาอยู่ด้วยกัน”

บางคนไม่เชื่อว่าเลิกกันแล้วแต่ยังอยู่ด้วยกัน? อุ้ม : “มันเป็นเรื่องจริงค่ะ แต่ในหมู่บ้านนั้น อุ้มมีบ้านสองหลัง บ้านอากง อาม่า คุณพ่อ คุณแม่ แล้วก็พี่เพชรจ้า ซึ่งอยู่คนละซอย น้องนิวส่วนใหญ่จะอยู่บ้านพี่เพชร เพราะว่าเขาต้องมีความเป็นพ่อแม่ลูก เขาอยู่ในบ้านหลังนั้นจริงๆ นิวก็ยังนอนบ้านหลังนั้น เพียงแต่ไม่ได้นอนห้องเดียวกัน”

ถ้าเขา 2 คนต่างมีคนมาชอบ เขาจะทำยังไง? อุ้ม : “อนาคตน้องนิววางแผนไว้อยู่แล้วว่าเขาต้องออก เขาก็เลยสร้างบ้านอีกหลังที่บ้านอากงอาม่าใกล้ๆ กัน อย่างที่บอกตอนนี้ไทก้าสำคัญที่สุด แต่เขาก็มีคอนโด ไปๆ มาๆ แต่หลักๆ ก็ต้องอยู่กับลูก เขาจะมีเวรกัน วันนี้เวรพี่เพชรนะ วันนี้เวรน้องนิวนะใครจะพาลูกเข้านอน”

ตอนนี้ไทก้าเพิ่งเข้าโรงเรียนด้วย เขาก็อยากให้คุณพ่อคุณแม่ไปส่ง? อุ้ม : “ถูกต้อง เขาก็ไปส่งพร้อมกัน กลับด้วยกัน”

มีประเด็นหนึ่งที่มีการพาดหัวว่าเลิกกันเพราะเรื่องเซ็กซ์ หรือแคปคำพูดของนิวเคลียร์ที่จะเห็นแต่ประโยคนี้? อุ้ม : “จริงๆ ต้องดูรายการห้องเฉือด พูดหมดทุกประเด็นว่าเลิกกันเพราะเรื่องอะไร ถามว่าเซ็กซ์มีส่วนไหม มีส่วน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ด้วยความที่อายุเขาห่างกันเยอะ สิบกว่าปี มันก็จะต้องมีบ้างความต้องการของแต่ละคนไม่เท่ากัน ซึ่งตรงนี้ก็มีการพูดคุยกันแต่ประเด็นหลักที่เขาเลิกกันมันเป็นเรื่องความสะสม อย่างที่น้องนิวพูดในรายการว่า อย่ารอ คือน้องนิวเคยพูดกับพี่เพชรแล้วว่าเขามีปัญหาอะไร แล้วพี่เพชรเพิกเฉยไม่สนใจเขา อย่ารอให้ถึงวันที่เขารู้สึกว่าเขาทนไม่ไหวแล้ว วันนั้นก็คือวันที่เขาหมด คือเขาเคยพูดกันแล้ว ซึ่งอุ้มในฐานะพี่สาว เราก็จะรับรู้ น้องจะมาเล่าให้ฟังบอกในส่วนของตัวเขาเอง ซึ่งพี่เพชรเขาก็มีความคิดของเขา บางทีคนสองคนอาจจะคุยกันไม่ตรง มันก็เลยทำให้รูปแบบความสัมพันธ์สามีภรรยามันจบลง และมันกลายเป็นว่าสุขภาพจิตมันดีทั้งบ้าน ลูกก็ไม่เครียด นิวกับพี่เพชรก็อยู่กันอย่างมีความสุขด้วยซ้ำ”

เวลาน้องมาบอกว่าพี่เพชรเป็นอย่างนี้ เราแอบมีไปกระซิบบอกไหม? อุ้ม : “บอกค่ะ เราก็คุย จริงๆ บ้านอุ้มเปิดเผยคุยกันทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องบนเตียง คือน้องนิวจะมาเล่าให้ฟัง แล้วปรึกษาเรามาเป็นปีกว่าจะถึงวันที่เขาตัดสินใจว่าจะแยก ส่วนพี่เพชรบางทีจะปรึกษาในมุมผู้ชาย อย่างปาป๊าอุ้มก็จะคุยแบบผู้ชายๆ ตรงๆ แมนๆ แล้วพ่อจะเป็นคนกลาง สองคนมาคุยกันให้รู้เรื่องมันเป็นยังไง แต่สุดท้ายแล้วการตัดสินใจมันขึ้นอยู่กับเขา 2 คน มันไม่ใช่ว่าเราจะไปบังคับเขาได้ เราต้องเคารพในการตัดสินใจ แค่ซัพพอร์ต คอยอยู่ข้างๆ เขาในวันที่เขาเซ

หรือมันจะเป็นประเด็นอื่นๆ นอกจากความสะสมแล้ว อาจจะเป็นข้อห้ามหรือกฎต่างๆ ของพี่เพชร ค่อนข้างสติ๊กในหลายๆ เรื่อง อย่างเช่นการแต่งตัว? อุ้ม : “จริงๆ มันมีอยู่ตั้งนานแล้ว ตั้งแต่เป็นแฟนกันแรกๆ พี่เพชรเขาจะแบบคนแก่อ่ะ เขาหวงของเขา ถ้าไปดูในห้องเชือดเขาจะพูด เขารักของเขา เขาหวงของเขา แต่บางทีพี่เพชรเป็นคนพูดหวานไม่เป็น บางทีการพูดของเขา เขาไม่ได้ตั้งใจพูดให้มันแรงแบบนั้น แต่ว่าข่าวมันไปพาดให้มันดูน่ากลัวเกินไป”

เรื่องของคนในครอบครัว พอข่าวไปพาดกันแรงๆ มีผลกระทบกับความรู้สึกไหม เครียดไหม? อุ้ม :เครียดนะคะ เพราะบางทีถ้าเราไม่ได้รู้จักตัวตนเขาจริงๆ อย่างพี่เพชร เราจะมองว่าพูดอย่างนี้ไม่ให้เกียรติน้องเราพูดแบบนี้ไม่ได้รักจริงๆ หรือเปล่า เมื่อก่อนทำไมถึงไม่พูดแบบนี้ มันก็มองได้ อย่างที่บอกเรารู้จักกันมานานเป็น 10 ปีแล้ว เพราะฉะนั้นที่บ้านเราจะรู้ว่าโอเค ชรมันเป็นคนปากหมา เป็นคนปากแบบนี้ แล้วตอนที่ข่าวออกเขาคุยกับนิวเขารู้ว่านิวเครียดและเสียใจ นิวรู้ใช่ไหมว่าพี่ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นนะ คือเขามีการคุยกัน 2 คน แต่แบบบางทีบางเรื่องเราไม่ได้นั่งออกสื่อ หรือประกาศตลอดเวลาว่าอันนี้เป็นจริงไม่จริง ก็อยากให้มันจบไปแบบเงียบๆ”

ทั้งคู่จะมีโอกาสรีเทิร์นไหม? อุ้ม : “อนาคตไม่รู้จริงๆ ตอบไม่ได้ อุ้มไม่รู้เลยว่าอนาคตเขาสองคนเป็นยังไง แต่ ณ วันนี้ที่เราเห็นคือเขายังมีความรักความหวังดีให้แก่กัน เวลาเขาพูดถึงกัน เขายังมีแววตาที่เป็นห่วงเป็นใยซึ่งกันและกัน อย่างในรายการ มีอยู่ช็อตหนึ่งที่อุ้มร้องไห้เลย ตอนที่น้องนิวเข้าไปกราบพี่เพชร แล้วขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา ขอบคุณพี่เพชรที่ทำให้นิวมีทุกวันนี้ได้ แล้วขอโทษที่ผิดสัญญาในวันแต่งงานว่าจะอยู่แบบนี้ต่อไป อันนี้เรารู้สึกเลยถึงแม้มันไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่เป็นผัวเมีย กัน แต่มันรักกันเหมือนเป็นคนในครอบครัวไปแล้ว

อุ้มอยากได้อะไรก็ได้ คุณสามีประเสริฐมาก จนทุกคนบอกว่าอยากมีอาชีพเป็นอุ้ม ลักขณา? อุ้ม : “ก็มีความสุข อุ้มถือว่าโชคดีที่ได้เจอสามีที่ดี คุณพ่อคุณแม่เคยบอกตลอดว่ามีผัวดีดียิ่งกว่าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่1 อีก ซึ่งเขาดูแลอุ้มได้ดีอย่างที่เคยรับปากไว้ตั้งแต่แรก แต่ถามว่าเปย์ทุกสิ่งทุกอย่างไหม มันก็ไม่ใช่ เขาก็มีห้าม

คนเขาเม้าธ์กันว่าอุ้มลาวงการแล้ว เพราะสามีรวย แต่จริงๆ ตัวเองทำอะไรตั้งเยอะตั้งแยะ? อุ้ม : “นี่ยังมานั่งทำงานอยู่เลย งานก็ยังรับอยู่ รายการก็ยังทำอยู่ ยังต้องหาเงิน ไม่ใช่ว่าผัวเลี้ยงตลอดทุกอย่าง เขาดูแลในส่วนของเขา ในส่วนที่เขาให้ ก็มีบ้าง หน้าที่เขาดูแลลูก อุ้มเองก็ต้องมีหน้าที่ทำงานหาเงินเหมือนกัน เพราะว่าเราไม่ได้ไปขอเงินเขาใช้ สิ่งที่เขาให้ คือเขาให้ด้วยความรัก ไม่ใช่เอะอะขอๆ เกาะผัวกินอย่างเดียว มันไม่ใช่ เราก็ต้องทำงาน เราก็มีเงินเก็บของเรา เราต้องดูแลลูก ถ้าเกิดอยากช้อปปิ้งมานั่งขอเงินสามีมันก็ดูไม่มีคุณค่า เพราะฉะนั้นเราต้องทำงาน อุ้มยังทำงานอยู่ เพียงแต่ว่างานละครอาจจะไม่ได้รับเยอะ เพราะตัวเราเองเลี้ยงลูกเองตั้งแต่ลูกเกิดไม่ได้มีพี่เลี้ยง 24 ชม.อยู่กับลูกตลอดเวลา เรารู้สึกว่าตอนนี้เขาเพิ่ง 3 ขวบครึ่ง อุ้มยังไม่พร้อมที่จะไปทำงานได้ นี่ขนาดทำงาน3 วันติดกันนางร้องไห้แบบ หม่าม้าจะเอาที่ทำงานไปทิ้งแล้วนะ ทำไมหม่าม้าชอบทำงานไม่อยู่กับดิสนีย์ หนักเลย”

ถ้าอุ้มอยากได้อะไรมากๆ จริงๆ จะมีการวางแผน? อุ้ม : “ไม่ได้เรียกว่าเป็นการเตี๊ยมสักเท่าไหร่นะ อย่างอุ้มอยากได้แหวนเพชร คืออุ้มรู้จักกับน้องร้านเพชร เขาจะส่งมาพี่อุ้มชอบไหมวงนี้ เราก็คุยกับน้องเขา อยากได้วงนี้เดี๋ยวจะซื้อ แล้วน้องเป็นเด็กที่ฉลาดเขารู้ว่าถ้าพี่อุ้มอยากได้เดี๋ยวไปบอกสามีให้ แล้วมันเป็นช่วงจังหวะจะวาเลนไทน์พอดี น้องเขาเลยส่งไปหาพี่บอลว่ามีแหวนเพชรมาใหม่ พี่อุ้มบ่นอยากได้ จะสั่งวงนี้ พี่บอลซื้อให้พี่อุ้มเลยแล้วกัน อย่างร้านแบรนด์เนม บางทีอุ้มไปสั่งของไว้ แล้วยังไม่ได้จ่ายเงิน รอเขาส่งมาก่อน แล้วพี่บอลก็สั่งของกับร้านเขาเหมือนกัน เขาก็ไปคิดเงินรวมกับพี่บอล เขาก็ถามสั่งตอนไหนเหรอ แต่เสียหน้าไม่ได้ เมียสั่งจ่ายให้”

มันก็เลยเป็นที่มาของพี่บอลสายเปย์ แต่เวลาเขาจะให้อะไร บอลอยากเซอร์ไพรส์อุ้มตลอดเวลา แต่เก็บความลับไม่เคยอยู่เลย? อุ้ม : “ไม่เคยอยู่ ไม่เคยตรงเทศกาล คือถ้าเขาได้มาปุ๊บเขาต้องให้เลย เขาเก็บความลับไม่อยู่ เขาบอกเขาอยากเห็นโมเมนต์ที่เราตื่นเต้นดีใจ เราก็บอกว่ารอก่อนได้เปล่า รอให้ถึงวันนั้นค่อยให้ พอถึงวันนั้นไม่มีอะไรให้เราแล้วไง แต่นางก็ไม่เคยเก็บได้ แม้กระทั่งวันเกิดแม่อุ้ม นางซื้อของขวัญให้หม่าม้า นางก็ให้ก่อนวันเกิดเหมือนกัน”

เทคนิคอะไรที่ทำให้เขารัก เขาหลงขนาดนี้? อุ้ม : “จริงๆ อุ้มไม่ใช่คนหวานเลยนะ ก่อนแต่งงาน ก่อนมีลูก เป็นคนค่อนข้างมุ้งมิ้งๆ แต่ตั้งแต่มีลูก ก็เปลี่ยนไปอีกโหมดนึงเลย กลายเป็นโหมดของคนที่โฟกัสแต่กับลูก แต่เขาเห็นว่าเราเลี้ยงลูกเขาได้ดี ตั้งใจทิ้งทุกอย่าง คืออุ้มทิ้งทุกอย่างมาอยู่กับเขา เหมือนเราเสียสละ เราทิ้งงานในวงการ เราทิ้งครอบครัว เรายกตัวของเราย้ายไปอยู่เชียงใหม่แค่คนเดียว เพื่อนก็ไม่มี สังคมก็ไม่มี ทุกอย่างเราอยู่กรุงเทพฯ หมด เราเหมือนเสียสละเพื่อเขา แล้วเวลาที่เขาเดือดร้อนหรือเขามีปัญหาอะไร อุ้มก็เป็นคนที่แบบไฝว์ข้างเขา แล้วไฝว์แบบเป็นผู้หญิงแมนๆ ตรงๆ เขาจะเห็นว่าเราทุ่มเทนะในการดูแลเขา ดูแลลูก มันก็เลยทำให้เขาเห็นคุณค่าของเรา อุ้มว่านะ”

เสียงสอง เสียงสาม เดี๋ยวนี้มีไหม? อุ้ม : “น้อยมาก”

ความแซ่บของเราเกี่ยวไหมในการมัดใจ? อุ้ม : “เอาจริงๆ ตอนนี้พี่บอลแซ่บกว่าอุ้มอีก เดี๋ยวนี้พี่บอลเป็นคนสะกิดอุ้มนะ พี่บอลเป็นคนนัดยิ้ม”

คู่นี้รักการออกกำลังกาย ดูแลตัวเองดีเหมือนวันแรกที่คบกัน? อุ้ม : “หากิจกรรมทำร่วมกัน อุ้มเป็นคนชอบออกกำลังกาย แล้วอุ้มก็ไปพูดให้เขาลุกขึ้นมาออกกำลังกาย แล้วตอนนี้ลงต่อยมวยไง นางจะแข่งก็เลยฟิตหนักมาก เรามีกิจกรรมทำร่วมกันถึงขั้นนางสร้างยิมให้เราที่บ้านเลย แล้วเขาก็ชอบออกกำลังกาย และบ้าอุปกรณ์ นางก็สร้างห้องขึ้นมา แล้วจ้างเทรนด์เนอร์มาสอนที่บ้านแล้วเราก็ออกกำลังกายด้วยกัน”

ระดับความห่วงถ้า 10 พี่บอลห่วงอุ้มเท่าไหร่? อุ้ม : “พี่บอลห่วงแบบไม่แสดงออกมาก เรื่องเซ็กซี่ไม่เคยหวงเลย ไม่หึงเรื่องเซ็กซี่เลย พี่บอลเป็นคนที่ถ้าอุ้มใส่ชุดเซ็กซี่ไม่เคยว่า ถ่ายรูปให้ด้วยซ้ำ ไม่เคยหวงไม่เคยห้าม เขาไม่เปลี่ยนแปลงตัวเรา เอาที่เรามีความสุข แต่ถ้ามีคนมาหมายตา หรือพูดจาแทะโลมเรา อันนี้จะหวงและหึงมาก แต่ถ้าปกติทั่วไปเขาไม่ได้ขี้หึงขนาดนั้น แต่เราหวงเขา ถ้ามี10 อุ้มว่าน่าจะไป 8 แล้วนะ แต่พอมีลูก ความงอแงงี่เง่าของอุ้มลดน้อยลง เมื่อก่อนไม่ได้เลย ถ้าโทรศัพท์ไม่รับก็ต้องจิกๆ แต่พอเรามีลูกมันถึงจุดที่เราไปโฟกัสลูกมากกว่าแล้ว แล้วเราก็ไว้ใจ ตลอดเวลาที่คบกันมา 6-7 ปีเขาไม่เคยนอกใจเรา ไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงให้เราไม่สบายใจ”

เกิดอะไรขึ้นที่ทำให้ช็อคแบบแย่ไปเลย? อุ้ม : “ตอนนั้นอุ้มออกไปข้างนอก พอกำลังกลับเข้าบ้านพี่เลี้ยงก็โทรมา พี่อุ้มคะกำลังพาน้องไปส่งโรงพยาบาล เราก็ตกใจ แล้วเขาเหมือนพูดไม่รู้เรื่องเขาตกใจ พอเราไปเจอลูก รีบเอาลูกขึ้นรถมา คือขาเขา เรามีจักรยานของผู้ใหญ่ใช่ไหม แล้วเราก็เสริมเก้าอี้เด็กข้างหน้า จังหวะกำลังปั่นอยู่ขาเขาตกลงไปในล้อแล้วปั่น เราเห็นสภาพคือขากินเนื้อเข้าไปเลย เขียวไปหมด ลูกก็ร้องๆ เราก็ตกใจ โกรธพี่เลี้ยงก็โกรธ รีบพาลูกส่งโรงพยาบาล โชคดีกระดูกไม่หัก และโชคดีที่ไม่โดนเส้นประสาท ต้องค่อยๆ รักษาอาการ ล้างแผลให้เขาทุกวัน แต่มันบวมมาก และเขาก็ร้องหนัก หัวอกคนเป็นแม่ใจสลาย พี่เลี้ยงเขาก็สั่นไปหมด ไม่ได้ตั้งใจ”

น้องดิสนีย์ยังแพ้อาหารอยู่ไหม? อุ้ม : “ยังแพ้อยู่ ตอนนี้เขาเข้าโรงเรียนแล้ว อุ้มก็เครียด เขาไม่สามารถกินอาหารที่โรงเรียนได้ เราก็ต้องแพ็กข้าวกล่องไปให้เขา อุ้มจะปลูกฝังเขาตั้งแต่เขายังไม่เข้าโรงเรียนว่าอย่ากินอาหารเพื่อนนะ ดิสนีย์แพ้อะไรบ้าง ก็จะสอนเขา”

คุณหมอบอกไหม ในอนาคตพอน้องโตขึ้น น้องจะทานได้ปกติ? อุ้ม : “แล้วแต่คนเลยค่ะ โตขึ้น 7-8 ขวบเขาอาจจะหาย หรือบางคนไม่หายเลยก็มี แต่ดิสนีย์เป็นหนักถึงขั้นอุ้มต้องพกเข็มฉีดยาไปด้วยทุกที่ เอาไว้ฉีดเขาเวลาเขาแพ้อาหาร คนเป็นแม่ต้องมีสติ อุ้มต้องไปเรียนวิธีการฉีดยาให้ลูก เราต้องฉีดไปที่กล้ามเนื้อ ตรงต้นขา คือเราดูอาการ ถ้าเขาแพ้ กินยา ถ้าไม่ดี เขาจะเริ่มหายใจไม่ออก แสดงว่าจมูกเขาตัน แต่เขาจะไม่พูดว่าหายใจไม่ออก เขาจะบอกว่าไม่เป็นไร หายแล้ว เพราะเขากลัวโดนฉีดยา เขาโดนจนน่วมแล้ว พอเราฉีดยาให้ลูกเสร็จต้องรีบไปส่งเขาที่โรงพยาบาล แล้วมีครั้งที่หนักมากๆ ฉีดยาเสร็จรถติด ฝนตก กว่าจะไปถึงโรงพยาบาล คุณหมอมาตรวจจมูกเขาตันไป 2 ข้างแล้ว ถ้ามาช้ากว่านี้อีกนิด ดิสนีย์อันตรายถึงขั้นเสียชีวิต”

สมมติเขาเอาเพชรมาให้เราขอมีอีกหนึ่งคน? อุ้ม : “ไม่เอา”

แต่ยังไม่ได้ปิดเต็มที่ขนาดนั้น? อุ้ม : “ยังไม่ถึงขั้นทำหมันแต่ก็วางแผนในการคุมกำเนิดเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้ามีดวงเขาจะมาเกิดเราก็เข้าใจได้ เราป้องกันแล้วแต่เขาก็ยังมา แต่ถ้าตั้งใจที่จะมีเลย คุยกันว่าเขาก็ไม่ได้อยากมีแล้ว”

เหตุผลเพราะอะไร? อุ้ม : “เพราะพี่บอลเขามีน้องการ์ตูน ลูกสาวคนโต ดิสนีย์มีเพื่อนแล้ว ดิสนีย์มีทั้งไทก้า ที่รุ่นเดียวกัน และพี่สาวอีกหนึ่งคน เพราะฉะนั้นเขาไม่รู้สึกว่าเขาขาด เขาไม่เคยพูดเลยนะว่าเขาอยากมีเบบี๋ อยากมีน้อง เพราะเขากลัวแย่งเขา แย่งนม เขาติดนมอุ้มมาก ทุกวันนี้ไม่ได้กินนะแต่ต้องล้วงจับ”

แล้วพ่อว่ายังไง? อุ้ม : “ของลูก ถ้าจะกินต้องขอลูก”

ถ้าวันหนึ่งน้องดิสนีย์โตขึ้นแล้วได้ดูเทปนี้ อยากบอกอะไร? อุ้ม : “อุ้มเห็นตัวอุ้มในตัวเขา อุ้มภูมิใจในสิ่งที่เป็น เขาเป็นเด็กที่แคร์คนรอบข้างโดยที่เราไม่ได้สอน เด็กตัวแค่นี้แต่เขามีความละมุนละไมใส่ใจคนรอบข้าง เขาเป็นเด็กที่น่ารักมาก เขาคือของขวัญที่ดีที่สุด ถ้าจะบอกว่าพี่บอลให้ทุกสิ่งทุกอย่างอุ้ม อุ้มยังไม่ขอบคุณเท่าพี่บอลให้น้องดิสนีย์ ไม่ว่าจะเป็นเงินทองหรือของอะไรก็แล้วแต่ อุ้มไม่เคยอยากได้อะไรถ้าย้อนเวลากลับไปได้ว่าอุ้มอยากจะแต่งงานมีครอบครัวกับเขาไหม อุ้มก็ต้องเลือกเขา เพราะอุ้มรักเขา แล้วเขาให้สิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับอุ้ม บอกเขาเสมอว่าดิสนีย์เป็นดวงใจของหมาม้านะ เขาก็จะรู้”

คลิปสัมภาษณ์ อุ้ม ลักขณา

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7321204
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7321204