ตอนนี้กระแสของละคร “อุ้มรักปาฏิหาริย์” ดีมาก โดนัทรู้สึกอย่างไรกับฟีดแบ็กที่เกิดขึ้น

“อย่างแรกเลยคือดีใจครับ ที่แฟนละครชอบ ผมอยากขอบคุณทุกคนมากๆที่ติดตาม เพราะละครเรื่องนี้คาแรกเตอร์ของผมฉีกไปจากทุกบทที่เคยเล่นเลย ต้องมารับบทคุณพ่อ ตั้งแต่เล่นละครมายังไม่เคยรับบทแบบนี้แรกๆก็กังวลนิดหนึ่งเพราะว่าเราจะต้องประกบกับน้องมาตา (มาตาลินน์ ป้องศรี) ตลอด ซึ่งน้องเด็กมากๆ ผมก็กังวลว่าจะเป็นอย่างไร น้องจะเกร็งไหม ก็เลยจะเข้าไปคุย ไปเล่นกับน้องเรื่อยๆ สร้างความคุ้นเคย แต่ในอีกความคิดหนึ่งของผม การที่ผมได้รับบทที่ยังไม่เคยเล่นมาก่อน ผมมองว่าง่ายมากกว่าที่เราได้รับบทที่คล้ายบทเดิมที่เราเคยเล่น เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นเราต้องหาจุดที่แตกต่าง แล้วถ่ายทอดให้คนดูรู้สึกว่าตัวละครเราไม่ได้เหมือนเดิมครับ”

แฟนๆชมลุคเป็นคุณพ่อที่ดูอบอุ่น แถมได้ฉายา แด๊ดดี้ภีม

“ขอบคุณมากๆครับ ผมได้เห็นคอมเมนต์ที่เข้ามาบอกว่า เหมือนกับผมเคยเลี้ยงเด็กมาก่อน คือส่วนตัวผมเป็นคนรักเด็กชอบเล่นกับเด็กอยู่แล้วครับ น้องมาตาเป็นเด็กน่ารักด้วย ไม่ซนไม่ดื้อ แถมยังทำการบ้านก่อนมาถ่ายละคร จำบทมาแม่นมาก เขามีวิธีการเล่นที่เป็นธรรมชาติมาก ต้องยอมรับเลยว่าน้องก็ช่วยเราด้วย ทำให้การทำงานทุกอย่างง่ายขึ้น” ได้ยินว่าตอนแรกที่เจอกัน น้องไม่กล้าคุย กับโดนัท เพราะว่าเขิน “ไม่หรอกครับ คือผู้ใหญ่มักจะชอบแซวเด็กๆ อย่างหลานผมที่บ้านก็เป็นเหมือนกัน ด้วยความที่นานๆผมจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัด นานๆเจอหลานสักที เด็กก็จะมีอาการเขินเกิดขึ้น แล้วถ้ายิ่งไปแซว ไปแหย่เขาก็เขินน้องมาตาก็เหมือนกันครับ ตัวผมเองก็ใช้วิธีเข้า หาคุยกับน้อง โชคดีด้วยที่น้องมาตาก็จะเป็นฝ่ายเข้าหาเราด้วย ชวนวาดรูป ระบายสี พอเราทำงาน ด้วยกันเรื่อยๆ ก็ยิ่งสนิทกันมากขึ้นครับ”

กับนางเอก เหม่เหม–ธัญญวีร์ ร่วมงานกันครั้งแรกเป็นอย่างไรบ้าง

“ดีครับ ผมเคยติดตามผลงานน้องเขามาก่อน พอได้มาร่วมงานกันก็สนุก คือเราปรับตัวเข้าหากันค่อน ข้างไว เรียกว่าสนิทกันเร็ว เพราะ เหม่เหมเป็นคนง่ายๆสบายๆ มีฟีลที่คล้ายกันเลยมาสนิทกัน ทำงานด้วยกันแล้วสนุกในเรื่องของการทำงาน ไม่มีเรื่องต้องกังวลเลย บทของเขาจริงๆยากกว่าผมนะ ทั้งเรื่องดราม่า แล้วคนที่ต้องอยู่กับมาตาตลอดเวลา คือเหม่เหม เขาก็ทำได้ดีมากๆ ผมรู้สึกว่ามันเป็นความลงตัวที่ทำให้ละครสนุกยิ่งขึ้น”

ถือว่าปีนี้เป็นปีทองของโดนัทได้ไหม จบเรื่องนี้ แล้วก็มีละครฤทัยบดี อีกเรื่อง

“อย่าเรียกว่าเป็นปีทองดีกว่าครับ ก่อนหน้านี้ที่เห็นผมรับปีละเรื่อง เพราะว่าผมติดเรียนด้วย ก็เลยสามารถรับได้เท่านั้น แต่ตอนนี้เรียนจบปริญญาตรีแล้วก็เลยสามารถรับงานเพิ่มเติมได้ ละครฤทัยบดี ก็เป็นละครอีก เรื่องที่ผมได้เปลี่ยนบทบาทตัวเอง ตัวละครจะออกแนวโรแมนติก คอมเมดี้ เป็นละครพีเรียดด้วย ตัวละครจะมีความน่ารัก กุ๊กกิ๊ก เป็นฟีลที่ผมก็ยังไม่เคยเล่น” เรื่อง ฤทัยบดี ได้ประกบกับ กานต์– ณัฐชา ซึ่งเคยเจอกันใน เสาร์ 5 น่าจะสบายๆรึเปล่า “ครับ กานต์เป็นนักแสดงที่ดีคนหนึ่งเลยที่สามารถสื่อสารความรู้สึกออกมาได้ทั้งทางร่างกาย และสายตา เขาเป็นคนที่ตีบทได้เก่งมากเหมือนกัน พอมาเข้าฉากด้วยกันก็เลยทำให้เราแสดงในบทของเราได้ง่ายขึ้น”

ยังมีบทไหนที่เราอยากเล่นอีกบ้าง

“ผมเชื่อว่าในโลกนี้ยังมีอีกหลายๆศาสตร์ อีกหลายๆแขนงที่เรายังไม่เคยเล่น เพราะในคนแต่ละคนก็จะมีมุม มีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกันไป การเป็นนักแสดง คือการสื่อสารให้คนดูได้เห็นว่าตัวละครเป็นอะไร อย่างไร ความท้าทายที่ผมคิดคือเมื่อเราเป็นนักแสดงเราต้องถ่ายทอดบทบาทของตัวละครที่ ถูกสร้างขึ้นมาจากจินตนาการของคนเขียนทำให้ผู้ชมเชื่อให้ได้ว่านี่คือชีวิตของคนอีกคนหนึ่ง ที่ไม่ใช่ตัวเรานะแต่เป็นคนอีกคนหนึ่งและเรากำลังถ่ายทอดเล่าเรื่องราวชีวิตของเขาอยู่ สำหรับตัวผมแล้วอาชีพนักแสดงเป็นการเปลี่ยนชีวิตผมนะครับ เพราะทำให้เราได้ทำอะไรหลายๆอย่างที่ชีวิตคนปกติคงไม่เคยได้ทำเป็นความท้าทาย บางเรื่องในชีวิตเราอาจจะไม่เคยได้ทำแต่ตัวละครที่เรารับบทต้องทำแล้วเราจะทำยังไงให้คนเชื่อว่าเราทำสิ่งนั้นเป็นประจำ มันคือศาสตร์ของการแสดงที่เราอยากไปถึงจุดๆนั้น”

เป้าหมายของโดนัทตอนนี้วางไว้อย่างไรบ้าง

“ตอนนี้ก็เรียนจบแล้วเนอะ ทำงานแบบเต็มตัว สิ่งที่ผมคาดหวังคือทุกๆผลงานของผม ผมได้ทำอย่างเต็มที่ อยากมีโอกาสได้รับบทบาทที่เปลี่ยนไป ได้คาแรกเตอร์ใหม่ๆ ไม่เหมือนเดิม อยากลองในสิ่งใหม่เพิ่มไปเรื่อยๆ ผมอยากพัฒนาตนเองไปเรื่อยๆ เพราะเรายังอยากทำอาชีพนี้ต่อไป ดังนั้น เป้าหมายของเราคืองาน ทำทุกโอกาส ที่ได้รับอย่างตั้งใจครับ” เราให้รางวัลความสำเร็จกับตัวเองบ้างไหม “มีบ้างครับ จะเป็นช่วงที่เราได้พักจากการถ่ายละครนะ ความสุขของผมคือการตามใจปากบ้าง (หัวเราะ) คือเวลาทำงานเราค่อนข้างคุมและดูแลตนเองเยอะมากๆ พอได้พักก็เลยจะฉลองนิดหนึ่ง แล้วค่อนข้างโชคดีครับที่ผมเป็นคนชอบออกกำลังกายหนัก คือถึงเราจะปล่อย จะตามใจปากบ้างแต่ก็ยังมีกรอบ มีเส้นที่ผมจะต้องระวังเหมือนกัน”

มาที่เรื่องของความรักกันบ้าง เห็นก่อนหน้านี้มีช่อดอกไม้ช่อใหญ่อยู่ในอินสตาแกรม

“ก็นานพอสมควรแล้วนะครับ สำหรับตอนนี้ก็เหมือนเดิมแล้วครับ ยังไม่มีใคร เราเองก็ใช้ชีวิตแบบนี้มาตั้งแต่แรกเนอะ แบบที่ไม่มีใคร ผมก็ไม่ ค่อยได้ โฟกัสเรื่อง นี้ด้วย พอเราทำงานสิ่งที่เราโฟกัสคือเรื่องงานเป็นหลัก ตัวผมเองก็ยอมรับนะครับ ถ้าเรามีความรัก เราก็เป็นคนทุ่มเทกับความรักเยอะมาก ดังนั้น ตอนนี้เลยรู้สึกว่าเรายังอยากสร้างตัวเอง อยากตั้งใจทำงานก่อน ก่อนที่จะไปมอบความรักให้กับคนอื่น” เหมือนโดนัทกังวล ไม่กล้าเริ่ม แบบกลัวที่จะผิดหวัง “ถ้าเป็นเมื่อก่อนยอมรับครับว่าใช่ เราคิดว่าตัวเรายังไม่พร้อมที่จะให้กับใครสักคน เพราะเป็นคนที่ถ้าจะให้ ผมก็ให้เต็มร้อย ดังนั้น ผมเลยรู้ตัวเองว่าเอาจริงๆ เราก็ยังไม่พร้อม แต่หลังๆผมก็เริ่มเปิดใจให้กับตัวเองเยอะขึ้น มองว่ายุคนี้ทุกคนเข้าใจแหละ ผมก็เลยลองเปิดใจมากขึ้น”

ความรักในมุมมองของโดนัท ณ เวลานี้คืออะไร

“ผมก็ยังคิดและพูดออกมาเสมอว่า ความรักสำหรับผมคือการให้ การให้อภัย และเข้าใจซึ่งกันและกัน ตัวผมเองเป็นคนไม่ชอบทะเลาะ แต่ผมก็รู้ว่าเรื่องพวกนี้บางทีเราก็ห้ามไม่ได้ บางทีการทะเลาะเพื่อปรับความเข้าใจแล้วเดินหน้าต่อ แต่ผมก็ไม่อยากให้การทะเลาะรุนแรง ความรักสำหรับผมยังเป็นสิ่งที่สวยงาม ในชีวิตของเราทุกคนต้องมี ต้องเจออยู่แล้ว ความรักจะมาในรูปแบบไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นคู่ครอง หรือต้องเป็นแฟน อาจจะมาในรูปแบบอื่นๆก็ได้ อยู่ที่ว่าเราโฟกัสมันแบบไหน” เวลามีคนเข้ามา โดนัท คาดหวังกับความสัมพันธ์นั้นมากไหม “ถ้ามีคนเข้ามาผมก็อยากจะเรียนรู้ให้เยอะที่สุด แน่นอนว่าจะต้องมีความคาดหวัง เพราะตัวผมก็ไม่ชอบที่จะเริ่มต้นกับอะไรใหม่ๆตลอด ผมคิดเสมอว่าเมื่อผมเลือกแล้ว ผมตัดสินใจแล้ว ผมก็จะรักษาความสัมพันธ์ และดูแลให้ดีที่สุด นานที่สุด และไม่คิดว่าจะมีวันสิ้นสุด” เป็นความคาดหวังที่น่ากลัวเหมือนกันนะ “ครับ แต่ผมก็คิดนะครับว่าถ้าวันนี้ทุกอย่างมันดี พรุ่งนี้มันก็จะดีเหมือนกัน ดังนั้นมันก็ไม่น่าจะผิดหวัง นะ ผมคิดแบบนี้”

คนแบบไหนที่เดินเข้ามาแล้วทำให้ โดนัท รู้สึกว่าเขาคือคนพิเศษ

“คนที่รักตัวเอง คนที่ให้เกียรติคนอื่น คนที่มีนิสัยคล้ายๆ กับเรา เพราะทำให้ผมรู้สึกว่าน่าจะคลิกกันได้ง่าย ไม่ต้องคุยกันเยอะ น่าจะเป็นฟีลที่แบบมองตาก็รู้ใจแล้ว ซึ่งเอาตามตรงในชีวิตจริง ผมเป็นคนพูดน้อยมาก เป็นคนที่ไม่ค่อยพูด” แตกต่างจากโหมดการทำงาน “ครับ คือในมุมของโลกส่วนตัวผมก็ค่อนข้างสูงเหมือนกัน” เล่นละครเรื่อง อุ้มรักปาฏิหาริย์ แล้วโดนัทเชื่อในปาฏิหาริย์ของความรักไหม “ผมเชื่อแหละ (ยิ้ม) อย่างในละครจะสื่อสารว่า ความรักถึงจะห่างกันไปไกลแค่ไหน แต่ถ้ายังมีเยื่อใย ไม่ได้ตัดขาดกัน ยังมีความคิดถึงกันแล้วล่ะก็ เมื่อจังหวะและเวลาพาให้กลับมาเจอกัน ก็สามารถที่จะกลับมารักกันได้ ในละครต้องการสื่อให้เห็นปาฏิหาริย์ของความรักในมุมนี้ โดยที่มีแตงหวาน ลูกสาวตัวน้อยๆ ที่เป็นสื่อกลางให้ทั้ง ภีมและพะแพงเชื่อมถึงกัน ส่วนในชีวิตจริง ผมเชื่อในเรื่องที่ว่า คนที่ใช่จะเดินเข้ามาในวันที่ใช่เสมอ เป็นปาฏิหาริย์รักในมุมที่ผมคิดว่าถ้าเป็นคู่แท้ของกันและกัน ยังไงก็จะหากันจนเจอ”

เป็นคนโรแมนติกมากๆเหมือนกันนะ

“ผมไม่รู้สึกอย่างนั้นนะ (หัวเราะ) ผมอาจจะยังไม่คิดอย่างนั้นนะ เพียงแต่แค่ในวัยที่เราโตขึ้น ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น ทุกวันที่เราได้เจอกับใคร กับเรื่องอะไร เราได้เรียนรู้ทำให้เราโตขึ้นในทุกวัน ผมรู้สึกว่าผมโตขึ้นในทุกวัน เข้าใจชีวิตเพิ่มมากขึ้น เข้าใจความรู้สึกของคนอื่นเพิ่มมากขึ้น เข้าใจโลกมากขึ้น แต่ผมก็ยังจะต้องโตต่อไปนะครับ”.

เรื่อง: วรรณี ห่อวโนทยาน