เรื่องที่ออกมาเล่าประสบการณ์เรื่องที่มีไฮโซย่านทองหล่อมาจีบ แล้วชวนขึ้นคอนโดตอนตี 3?

“เรื่องนี้เกิดขึ้นหลายปีแล้วค่ะ เล่าให้ฟังแต่ชาวเน็ตไม่ต้องด่าเนอะ เรื่องราวก็ตามที่เล่าในรายการคือเค้าชวนแต่เราไม่ไป”

หลังจากรายการออกไปมีฟีดแบ็กจากทางเค้ามาบ้างมั้ย?

“ไม่ได้คุยกันแล้วค่ะ”

ตอนนั้นคิดว่าเค้าอยากเจอเราจริงๆมั้ยตอนตี 3?

“ไม่ๆ เรียนมานะคะ ไม่มีทาง เราก็ไม่ได้ไปเพราะถ้าไปน่ะก็เกินไปหน่อย หมายถึงเราเนี่ยเกินไปหน่อย พ่อแม่ต้องเสียใจแค่ไหน แล้วเดี๋ยวตอนเนี้ยข่าวอันนี้ออกไปชาวเน็ตบอกนะว่าถ้าไปก็คือเป็น…เอ่อ พูดไม่ได้”

แสดงว่าเราก็กลัวโดนวิพากษ์วิจารณ์ว่าออกมาพูดทำไม?

“จริงๆก็ไม่นะคะ แค่รู้สึกว่าเราพูดเรื่องจริงถ้าเกิดอยากฟังก็โอเคก็ฟัง แต่ถ้าจะคอมเมนต์อะไรช่วยแบบให้เกียรติเราด้วย ถ้าคอมเมนต์สิ่งนี้แล้วคิดว่ามาพูดต่อหน้าเราได้ก็โอเค แต่ถ้าคิดว่าไม่กล้าพูดต่อหน้าเราก็อย่าคอมเมนต์ เพราะว่าเราอ่าน เห็นตลอด ทุกวันนี้แข็งแกร่งได้เพราะวงการบันเทิง”

คอมเมนต์ที่หนักสุดคืออะไร?

“ถ้าหนักสุดสำหรับหนูคือการด่าพ่อแม่ว่าไม่สั่งสอนเรา คือถ้าด่าตัวเราเองเรายังรู้สึกว่าเรารับมือได้ แต่ถ้าด่าพ่อแม่เรา เรารู้สึกว่าเวลาพ่อแม่เสียใจเราทำอะไรไม่ได้ เราเลยอยากให้คิดเยอะๆหน่อยเวลาคอมเมนต์ เพราะถ้าสมมติเราไปด่าพ่อแม่คุณล่ะ ส่วนหนึ่งคือเราก็รู้สึกว่าเราไม่ควรไปด่าพ่อแม่ใครอ่ะ ไม่ว่าเขาจะโตมายังไง มันเป็นเรื่องมารยาทนิดนึงค่ะ”

ได้ข่าวว่าตั้งแต่โสดมามีแร็ปเปอร์หนุ่มตามจีบด้วย?

“คุยประมาณหนึ่งอาทิตย์แล้วก็เลิกคุยเพราะว่าไม่ใช่ หนูเป็นคนคุยเร็ว ถ้าคุยโอเคคุยเลย ศึกษาๆ แล้วถ้าไม่ใช่เราก็แยกย้ายกัน เราจะไม่มีการมายื้อ หมายถึงว่าเราคุยกับเค้ามาประมาณแบบ 3-4 วัน แล้วไม่รู้สึกว่าเราอยากเจอเขา หรือว่าเราไปเดตมาแล้วครั้งหนึ่งเราไม่รู้สึกว่าเราอยากไปเดตรอบสองไม่ได้กระตือรือร้นในการที่จะแบบอยากจะเจอเค้าอะไรอย่างนี้”

แร็ปเปอร์คนนี้เป็นคนที่เราคุ้นหน้าคุ้นตามั้ย?

“จริงๆก็ไม่ได้วงใกล้เรามาก แต่เราก็รู้ระดับหนึ่งแหละว่าเค้าเป็นใคร”

เค้าอยากจริงจังแต่เราเบรกเค้า?

“หนูคิดว่าทุกคนที่เข้ามาก็จริงจัง เราก็เป็นคนจริงจัง”

ตอนถอยออกมาบอกเค้ายังไง?

“ก็พูดกับเค้าตรงๆเลยค่ะ เราบอกเค้าตั้งแต่แรกแล้วว่าเราคิดว่าความสัมพันธ์ของเรากับเค้าน่าจะไม่เวิร์ก แต่ว่าถ้าเค้าอยากลองก็ลองดูก็ได้”

กลัวเสียเวลาเค้าและเรา?

“คือเราไม่ได้กลัวเสียเวลาเรา แต่เรากลัวเสียเวลาเค้า เพราะเรามั่นใจในความรู้สึกเราแล้วว่าคุยแล้วมันยังไม่ใช่ เราก็ปล่อยเค้าไปเจอความรักที่ดีดีกว่า เราจะมากั๊กเค้าไว้แล้วเราไม่ได้รู้สึกอะไรกับเค้า มันไม่แฟร์กับเค้า”

แล้วตอนนี้เจอคนที่คลิกหรือยัง?

“ก็มีอยู่ ก็คุยอยู่ (หัวเราะ) สวยตลอด แต่ก่อนหน้านี้คือไม่มี แบบไม่มีเลย คือตั้งแต่ไปออกรายการคนนี้เค้าก็ทักมา”

รู้จักกันอยู่แล้ว?

“ไม่ได้เป็นคนที่รู้จักอยู่แล้วค่ะ คนนอกวงการแต่ขออนุญาตไม่เปิดค่ะ เพราะถ้าเปิดเผยขึ้นมาเดี๋ยวจะมีชื่อนำหน้าเป็นไฮโซทันที”

ทำไมเค้าถึงทักมา?

อันนี้ไม่รู้เหมือนกัน แต่เขาดูรายการและเห็นคงว่าเราโสด”

ความสัมพันธ์ถือว่าเป็นไปด้วยดีมั้ย?

“ดีค่ะ เป็นคนที่คิดว่าไปด้วยกันได้ดี ดูพอดีกับใจประมาณหนึ่งเลย”

คาดหวังกับความรักครั้งนี้ยังไงบ้าง?

“จริงๆต้องบอกก่อนว่าแพรเป็นคนจริงจังกับความรักมาก ทุกครั้งที่เราคบใครเราจะมองไกล มองไปถึงการแต่งงานเลย เพราะว่าเอาจริงๆไม่มีใครอยากเปลี่ยนแฟนบ่อยหรอก แต่ถ้ามันไม่เวิร์กเราก็ต้องเปลี่ยน ครั้งนี้ก็จริงจังระดับหนึ่งมากๆเลย”

ประทับใจคนนี้ตรงจุดไหนถึงกล้าเปิดใจ?

“ไม่รู้เหมือนกัน แต่อย่างหนึ่งคือเค้าตรงกับที่เราขอพรไว้ด้วยแหละ ที่ไปขอพระแม่ลักษมีว่าขอคนที่ซัพพอร์ตจิตใจ แต่งตัวดี ซัพพอร์ตด้านเงินได้ สูงกว่าเราถ้าเราใส่ส้นสูง 5 นิ้ว ซึ่งเค้าสูงกว่า แล้วก็เข้ากับเพื่อนเราได้ แล้วเราก็เข้ากับเพื่อนเค้าได้ ใช่คนนี้ตรงหมดทุกข้อ”

แล้วเขาก็ได้เจอเพื่อนของเราแล้วเป็นไง?

“คิดว่าน่าจะโอเคแหละ เพราะว่าก็เห็นเพื่อนๆไปเต๊าะเค้าอยู่”

ระยะเวลาที่ไปขอนานมั้ยกว่าจะได้เจอคนนี้?

“นานมั้ย ก็ไม่นาน ขอก่อนนวราตรี ขอพระแม่ลักษมีค่ะ แต่หนูไม่แน่ใจ เพราะก่อนขอพระแม่ลักษมีหนูก็ไปขอพระพิฆเนศเหมือนกันในเมื่อเราหาเองไม่ได้ เราก็ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยค่ะ”

คนนี้จะเปิดตัวมั้ย?

“ไม่เปิดค่ะ เพราะว่าเราค่อนข้างเป็นห่วงเรื่องความเป็นส่วนตัวของเค้า เรียกว่าไม่ได้ปิดไม่ได้เปิด แต่สมมติใครเจอแล้วแอบถ่ายรูป ถ้าเกิดจะลงรูปหนูกับผู้ชายคนนั้นรบกวนช่วยแปะสติกเกอร์หน้าผู้ชายหน่อยนะคะ แต่ว่าเห็นหน้าหนูได้ หนูจะไม่ฟ้องทุกคน เพราะว่าอยากให้เค้ามีความเป็นส่วนตัวค่ะ”

จะได้เห็นเค้าในไอจีเรา สตอรีเรามั้ย หรือเค้ามาคอมเมนต์ มากดหัวใจ?

“ไม่รู้อ่ะฝั่งเค้าเราไม่รู้ แต่ถ้าถามว่าคิดว่าเราจะลงมั้ย เราคิดว่าเราไม่ลง อย่าสืบเลยนะคะ ให้เค้าได้ใช้ชีวิตส่วนตัวของเค้าเถอะค่ะ”.