ในหนึ่งพื้นที่มีบ้านถึง 3 หลัง ลานจัดแสดงคอนเสิร์ตกลางพื้นที่บ้าน ทุ่งนาไกลสุดลูกหูลูกตาอยู่ล้อมรอบบริเวณบ้าน บอกเลยว่าไม่ธรรมดาจริงๆ บุกบ้านศิริพรทั้งทีก็ไม่พลาดที่จะพาไปดู วัดสว่างธรรม หรือ วัดศิริพร แลนด์มาร์กใหม่ของคนอุดรธานี งานนี้ ศิริพร อำไพพงษ์ ทุ่มทุนบูรณะ ยอมสละที่ดินส่วนตัวให้กับวัด และเป็นคนบูรณะวัดเองทั้งหมดด้วยน้ำพักน้ำแรงมานานถึง 8 ปี จะอลังการขนาดไหน เราไปฟังจากปากเจ้าตัวกันเลยจ้า

อี๊ด โปงลาง : “นี่บ้านหรือพระราชวังครับพี่ มันใหญ่มากเลยพี่ พื้นที่บ้านทั้งหมดประมาณกี่ไร่ครับพี่”

ศิริพร อำไพพงษ์ : “จากประตูทางนี้ไปถึงนาหลังบ้าน รวมไร่มันสําปะหลัง ก็ประมาณ 45 ไร่ และยังมีข้างหลังอีก”

อี๊ด โปงลาง : “พี่ค่อยๆ ซื้อหรือเปล่าครับ ที่ดินขนาดนี้”

ศิริพร อำไพพงษ์ : “เอาตรงๆ นะ เขาเอามาจำนอง แต่จำนองแบบว่าไม่ได้ทั้งต้น ไม่ได้ทั้งดอกนะ เพราะเขาติดเราหลายปี แล้วไม่ได้เอาเงินมาคืน เขาเลยเอาที่ดินของเขามาให้พี่ แล้วตีเป็นราคาแลกกับหนี้ที่ติดไว้ แต่จะบอกว่าเงินที่เขาติดเราทั้งต้นทั้งดอก เกินราคาที่ดินที่เขาเอามาจำนองเราอีกนะ แต่ก็ไม่เป็นไร เราก็เอาไว้ทำกิน ปลูกข้าว ปลูกอะไรไป”

อี๊ด โปงลาง : “ดูจากวิวแล้ว นี่แหละความสนุกของชีวิต ผมรู้มาว่าพี่นางชอบจ้างศิลปินมาร้องเพลงที่บ้านเป็นการส่วนตัว ผมอยากรู้ว่าพี่จ้างมาในเทศกาลอะไรหรือครับ หรือว่าอยากดูเฉย”

ศิริพร อำไพพงษ์ : “ไม่มีเทศกาลอะไร พี่อยากดูเฉยๆ ดูกันเองในบ้านนี่แหละ แต่ก็มีที่คนนอกเขามาดูบ้าง แถมพี่ยังสั่งหมูกระทะมาให้คนที่เข้ามาดูได้กินด้วย ของกินพร้อมสนุกกันเลยล่ะ มันเป็นความสุขที่เราหาเองได้ ไม่ต้องให้ใครมาหาให้เรา”

อี๊ด โปงลาง : “อีกอย่างหนึ่ง พี่นางเป็นคนใบบุญ ตอนนั้นที่พี่นางรู้ข่าวว่าผมจะทำคอนเสิร์ตให้คนที่เป็นโรคมะเร็ง พี่นางก็ช่วยทำบุญมาด้วย และตอนนี้พี่เองก็สร้างวัดใช่ไหมครับ”

ศิริพร อำไพพงษ์ : “ใช่ค่ะ อยู่ตรงที่นาอีกที่หนึ่ง ชื่อวัดสว่างธรรม หรือเรียกง่ายๆ ว่า วัดศิริพร พี่สร้างด้วยจิตด้วยใจ แต่ก่อนวัดนี้เป็นเพลิงกระต๊อบเล็กๆ ไม่ใหญ่ พี่ก็บูรณะขึ้น พี่เอาดินจากที่นามาถมทับ และก็ทำมาเรื่อยๆ ทำมา 8 ปี เข้าปีที่ 9 แล้ว อย่างองค์พระพุทธรูปในวัดนี้ พี่ไม่เคยซื้อเลย ส่วนใหญ่จะมีคนเอามาให้ทั้งนั้น เห็นพระแก้วมรกตองค์นั้นไหม องค์นั้นก็มีคนเอามาให้ และตั้งแต่พระแก้วมรกตองค์นั้นมาอยู่ที่วัดนี้ พี่ก็ถูกหวยเกือบทุกงวด มันก็แปลกเหมือนกันนะ”.