โหมดอินเลิฟชีวิต จริงกับลุคในเพลง I Don’t Know ของเกรซก็ดูต่างกัน?

“ใช่ค่ะ แต่เกรซก็ไม่ได้เป็นคนอินเลิฟขนาดนั้นอยู่แล้ว ส่วนใหญ่เค้าก็จะเอาเพลงคลั่งรักเหมือนความสัมพันธ์ชีวิตจริงกันใช่มั้ย แต่คือ I don’t know สำหรับเกรซมันใช้ได้ทุกสถานการณ์ไม่ได้ใช้แค่เรื่องความรัก จะเป็นเรื่องอื่น เรื่องเพื่อนหรือใครที่มายุ่ง เราก็ I don’t know ได้ ส่วนเรื่องความรักดีๆก็เก็บไว้เดี๋ยวในเพลงอื่นก็ค่อยออกมา (ยิ้ม) เพลงแรกขอบ้าๆบอๆมันส์ๆก่อน”

หวานอย่างนี้แต่ไม่เห็นลงรูปด้วยกันเลย?

“ก็ไม่ค่อยได้ลง วันเกิดปีละครั้งแล้วกัน”

เพราะอะไรถึงไม่ได้อัปรูปบ่อยๆ?

“เค้าไม่ยอมไง เค้าไม่ชอบถ่ายรูป เคยอยากจะลองแอบถ่ายแอบเอามาลงก็ไม่ได้นะ เค้าเห็นตลอด ก็งงเหมือนกันว่าเล่นตัวจัง (ยิ้ม) แต่ก็ไม่เคยเป็นปัญหาอะไรนะคะเพราะว่าเราก็เข้าใจเค้า ไม่เป็นไรเลย”

ตอนนี้รักแฮปปี้ดีมั้ย?

“ณ วันนี้ก็คบกันนานขึ้น ทุกอย่างก็ลงตัว ตอนนี้กำลังมุ่งมั่นมาทางนี้อย่างเต็มตัวค่ะ”

เรื่องสร้างอนาคตมีข่าวดีล่ะ?

“ก็คงยังอีกนานค่ะ ตอนนี้ก็ช่วยกันซัพพอร์ตไปด้วยกัน ตัวเค้าเองก็มีสิ่งที่ต้องลุยเหมือนกัน เค้าก็ไม่รีบ ธุรกิจของเค้าเราก็ช่วยเต็มที่ค่ะ”

กับการเป็นศิลปินของเราหนุ่มนิค เค้าเป็นกำลังใจที่ดีมั้ย?

“เป็นกำลังใจที่ดีมาก บอกว่าเห็นท่าเต้นแล้วก็อยากถีบเลย ยกนิ้วโป้งให้เลย แต่โป้งเท้านะ (หัวเราะ) จริตนี้คือเค้าทนไม่ได้”

เวลาเค้าเห็นลุคเราในบทบาทนี้ที่ดูเป็นสาวมั่นๆ เค้ารู้สึกยังไง?

“เค้ารู้ว่าเราเป็นคนอย่างนี้ อยู่แล้วค่ะ เค้าเลยเฉยๆ”

เค้าลุ้นกับการก้าวมาเป็นศิลปินของเรายังไงบ้าง?

“เค้าก็ลุ้นแล้วก็เป็นกำลังใจให้ แต่บอกว่าอย่ากดดันตัวเองนะถ้ามันไม่ได้เป็นไปตามที่หวัง เราก็ทำเต็มที่แล้ว คนก็รู้ว่าเราตั้งใจ มันก็ต้องใช้เวลา เราเป็นนักแสดงมายังต้องใช้เวลาเลย ไม่ใช่ว่ามาเป็นนักร้องแล้วมันจะประสบความสำเร็จเลย เราไม่ได้ทำเล่นๆ เราทำเรื่อยๆ”

อยากเห็นตัวเองเป็นแบบไหนในพาร์ตของศิลปิน?

“อยากให้คนร้องตามได้ มีซิงเกิลอัลบั้มของตัวเอง ทำให้เต็มที่ ให้คนจำเราให้ได้ การล้างภาพนักแสดงก็เป็นเรื่องที่ยากมากเพราะว่ามันอยู่กับเรามา 18 ปี มันนานมาก หนูก็พยายามเต็มที่แต่ไม่กดดันตัวเอง เพราะการเริ่มนับหนึ่งใหม่มันก็เจออุปสรรคอะไรเยอะแยะก็จะพยายามพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ฝึกตัวเองไปเรื่อยๆ จากเมื่อก่อนร้องเพลงในห้องน้ำก็ต้องพัฒนาขึ้นตอนนี้กลับมาซ้อมเปียโนให้ได้อีกครั้ง เอาชีวิตพาร์ตดนตรีของตัวเองที่เคยเกิดขึ้นก่อนที่จะมีละครเข้ามา เอาช่วงนั้นกลับมา เมื่อก่อนหนูเรียนเปียโนถึงอายุ 15 ปี ตอนนี้เหมือนเป็นการต่อรอยฝัน ความดังหรือไม่ดังมันเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถกำหนดได้ แต่สิ่งที่
เรากำหนดได้คือเราทำเต็มที่หรือยัง ในเมื่อทุกคนรอบข้างลุยเต็มที่ที่สุดแล้วเราคอนโทรลอะไรไปไม่ได้มากกว่านี้ ตอนนี้ก็รับงานเล่นดนตรี ไปดูศิลปินที่ค่ายร้อง มันไม่ใช่การทำงานในแบบเดิมที่เราเคยเป็น มันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เรื่องสุขภาพอะไรด้วยต้องดูแลตัวเองดีๆ ถ้านอนน้อยเสียงก็ไม่ดี เราเลยรู้สึกว่าเราลองเต็มที่กับตรงนี้สิ เต็มที่กับชีวิต เกรซอยากให้ทุกคนที่มีความฝันเหมือนกันอย่าหยุด เพราะเราอยากจะเป็นอะไรตอนไหนก็ได้ ดูอย่างเกรซ อะไรที่เราไม่คิดว่าจะทำ หรืออะไรที่คนอื่นไม่คิดว่าเราจะทำ เราก็ทำเราก็ได้ ถ้าเราลงมือทำซะอย่าง ใครจะทำไมเพราะชีวิตมันเป็นของเรา อย่าหยุดฝันค่ะ เกรซยังเป็นนักร้องได้ตอนอายุ 30 เลย ในยุคที่น้องๆบางคนเดบิวต์ตั้งแต่อายุ 15 กัน ไม่เป็นไร ไม่ต้องแคร์ค่ะเราสั่งสมประสบการณ์มาในวันที่ใช่ค่ะ”.