เล่าหมดเปลือก หมอสอง ไล่ไทม์ไลน์ถูกเรียกค่าไถ่ เกือบเอาชีวิตไม่รอด


ให้คะแนน


แชร์
เล่าหมดเปลือก หมอสอง ไล่ไทม์ไลน์ถูกเรียกค่าไถ่ เกือบเอาชีวิตไม่รอด

หมอสอง : ต้องการออกมาเล่าเพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจ ซึ่งก็สามารถเราได้เป็นบางข้อมูล สำหรับทริปนี้ผม ไปกับบริษัททัวร์ที่ถูกต้อง ซึ่งไปเป็นประจำและไว้ใจมาก เราไปมาหลายทริปแล้วซึ่งทุกครั้งผมจะย้ำเรื่องความปลอดภัย เริ่มจากประเทศอัฟกานิสถาน 12 กันยายน 65 ตั้งใจไปทั้งหมด 9 ประเทศ ภายใน 3 สัปดาห์

ถามว่าทำไมต้องไป เป้าหมายของเราคืออยากไปท่องเที่ยวให้ครบทุกประเทศในโลก ซึ่งไปมาแล้ว 190 ประเทศ ซึ่งเหลืออีกประมาณ 10 ประเทศที่ยังไม่ได้ไป และในคลิปที่เราทำก็จะมีประเทศแปลกๆ ที่หลายคนไม่รู้อย่างน้อยก็เป็นการให้ข้อมูลในการท่องเที่ยวกับใครหลายคน

ซึ่งทริปนี้ค่อนข้างมีอุปสรรคในเรื่องเดินทาง ช่วงที่กำลังเดินทางเข้าสู่ประเทศมาลี ซึ่งผมเองเราไม่สามารถระบุได้วัดตรงไหนกันแน่ เพราะตอนนั้นเราหลับ คนทั้งหมดในรถเป็นคนประเทศบูร์กินาฟาโซ จากการสัมภาษณ์วันนี้จะเห็นว่าผมยิ้มแต่ก่อนหน้านี้ผมน้ำตาไหลทุกวันเลยเพราะความรู้สึกที่ได้เห็นหน้าญาติได้เห็นคน ก็ได้กลับมาใช้ชีวิตปกติ ซึ่งคิดว่าหลังจากนี้จะเดินทางไปพบจิตแพทย์เพื่อเช็กร่างกาย

กลับมาที่เหตุการณ์ที่เจอ วันที่ 28 กันยายน 65 ตอนที่หลับอยู่แล้วได้ยินเสียงปืนดังมาก และมีคนมาจ่อปืนที่เรา 5-6 คน ตอนนั้นคือตกใจมาก ตื่นเต้นและเหมือนในหนังเลย พอมีปืนเขาก็วิ่งเข้ามาแต่ผมฟังไม่รู้เรื่องเพราะเป็นภาษาพื้นเมืองของเค้าและไกด์ก็บอกให้เรานั่งลงคุกเข่าและเอามือประสานท้ายทอยเขาก็เข้ามาจับกุมและผูกตาไม่ให้เรามองเห็นและเอามือผูกเชือก หลังจากนั้นก็พยายามดันเราขึ้นรถ ซึ่งผมก็ไม่ทราบแล้วไปไหนมารู้อีกทีตอนเปิดตาสภาพแวดล้อมเป็นป่า เค้าก็ขอเก็บโทรศัพท์และทรัพย์สินของเราไปทั้งหมดให้เราไปนั่งใต้ต้นไม้และพูดคุย

ข้อมูลที่เค้าแจ้งเข้ามาบอกว่าแค่ตรวจเฉยๆ ถ้าคุณไม่ใช่คนที่เราค้นหาก็จะปล่อยตัวไป เราก็มีความหวังที่จะได้ออกเพราะเป็นห่วงทางบ้านมาก ซึ่งก็ไม่รู้ชะตากรรมตัวเองว่าจะเอารอไปฆ่าหรือไปทำอะไร จนกระทั่งมืดเค้า ก็พาเราเดินทางไกลด้วยรถมอเตอร์ไซค์ประมาณ 3-4 คัน ตลอดเวลาผมคิดว่าถ้ามีจังหวะในนี้ได้ผมก็จะหนีเข้าป่าให้มันเล็ดลอดจากตรงนั้น ซึ่งตอนที่ขับรถไปผมจำทางไม่ได้แต่รู้ว่ามันลึกมากใช้เวลา 8 ชั่วโมง

พอเข้าไปถึงข้างในเราก็รู้แล้วว่ามันไม่ได้แล้วเราก็ต้องตามน้ำไป และเค้าพาเราไปจุดจุดหนึ่ง บริเวณรอบเป็นต้นไม้เป็นป่าและมีบ้านดิน เค้าก็เอาเราไปพักตรงนั้น ซึ่งเราก็รู้แล้วว่าถูกลักพาตัวแต่ไม่รู้ว่าจะเอาเราไปทำอะไรและเป็นคนกลุ่มไหน

เล่าหมดเปลือก หมอสอง ไล่ไทม์ไลน์ถูกเรียกค่าไถ่ เกือบเอาชีวิตไม่รอด

ถามว่าดูแลเราดีไหม เค้าไม่ได้กระโชกโฮกฮาก ไม่ได้ทำร้ายร่างกายเราเค้าคุยดีทุกอย่าง สำหรับคนไหนที่พูดภาษาฝรั่งเศสได้เขาก็จะสื่อสาร ซึ่งเราก็จะใช้ภาษาอังกฤษคุยกับไกด์ ตอนนั้นอึดอัดมากที่คุยกับใครไม่ได้เลย ถามว่ามันลำบากไหมลำบากสุดๆ

เริ่มต้นเขาก็เอาเราไปไว้เฉยๆ แต่ผมก็กลัวมากเพราะไม่รู้ว่าเป็นใครและจะฆ่าเราไหม สรุปเช้าวันรุ่งขึ้นผมก็ตัดสินใจหลบหนีออกมาคนเดียว และพยายามจะหนีไปให้ไกลมากที่สุด แต่พ่อหนีไปได้ 8 กิโลเมตรเค้าก็มาจับตัวผมได้อีกทีนึง แต่ก็หนีไปไม่รอดเพราะคนละแวกนั้นคือพวกเดียวกันหมด พอกลับไปอีกครั้งเขาก็เอาตรวนมาใส่เท้าเราและใส่กุญแจมือในคืนแรก

ตอนที่อยู่ในนั้นผมเครียดมาก ซึ่งก็จะมีถุงยังชีพเป็นถุงพลาสติกธรรมดา และผมก็จะมียาดม ปลอกแขนก็คือเราต้องใส่เพราะยุงกัดเต็มแขน และส้อมที่เอาไว้กินข้าว บางทีเค้าไม่มีน้ำให้กินเราก็กินน้ำบ่อซึ่งมีกลิ่นน้ำมันด้วย ค่อนข้างทรมาน

เล่าหมดเปลือก หมอสอง ไล่ไทม์ไลน์ถูกเรียกค่าไถ่ เกือบเอาชีวิตไม่รอด

เฟรนส์ฟราย : วันนั้นที่พี่เขาไปยังประเทศมาลีเขาก็บอกเราว่าเดี๋ยวมันจะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์นะ ซึ่งเราก็คิดว่าเดี๋ยวประมาณอีก 8 ชั่วโมงเดี๋ยวพี่เค้าคงติดต่อกลับมา ปรากฏว่าพี่เค้าหายเราก็เลยแปลกใจ เลยตัดสินใจไปเช็กว่ามีชื่อพี่หมอเตรียมบินกลับหรือเปล่า ก็คือว่าไม่มีรายชื่อมีเช็กอิน ก็พยายามคิดว่าหนักสุดตอนนั้นคืออุบัติเหตุ เลยพยายามติดต่อและเช็กทุกอย่าง พยายามทำอะไรก็ได้ที่ช่วยพี่เขา หรือให้เรารู้ว่าพี่เค้าปลอดภัยดีแต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นยังไง

สุดท้าย 28 วันที่ผ่านมารู้สึกทรมานมากไม่รู้ว่าพี่เค้าจะอยู่จะกินยังไง พ่อไปดูว่าอุบัติเหตุไม่มีก็อาจจะเป็นเรื่องของการหายตัวไปหรือเปล่า ทำไมถึงหายตัวไป แต่ครั้งแรกเราไม่ได้คิดถึงประเด็นว่าถูกลักพาตัว ตอนนั้นก็แจ้งตำรวจพยายามทำทุกขั้นตอน

เล่าหมดเปลือก หมอสอง ไล่ไทม์ไลน์ถูกเรียกค่าไถ่ เกือบเอาชีวิตไม่รอด

สุดท้ายมารู้ว่าเป็นหลักฐานแวดล้อมที่ลงไปพื้นที่ไม่มีอุบัติเหตุ ซึ่งตอนนั้นเราอยู่เมืองไทยก็มีทางเดียวที่เราต้องเชื่อไกด์ ณ ตอนนั้นทำอะไรไม่ได้ซึ่งคนรอมันทรมานมากเราก็มีความหวังทุกวันที่เขาต้องกลับมา พยายามไปปรึกษาผู้รู้ว่าถ้าเกิดกรณีแบบนี้เราควรทำอะไรได้บ้าง มาถึงสัปดาห์ที่ 3 ที่พี่เค้าหายตัวไปเราก็พยายามติดโทรศัพท์ไปกับมือตลอดเผื่อเค้าติดต่อกลับมา แล้วเค้าติดต่อมาช่วงหัวค่ำประมาณตี 3 และเราก็ได้คุยกับพี่หมอ พยายามจดข้อมูลให้ได้เยอะที่สุด

ตอนนั้นเราก็ได้คุยกับคนร้ายแล้วเค้าก็บอกว่าเดี๋ยวจะมีคนติดต่อเรามา ซึ่งเราก็พยายามเช็กว่าเค้าพูดภาษาอังกฤษได้คล่องไหม และเค้าบอกว่าเค้าพูดไม่ได้ ซึ่งก็เลยเตรียมล่ามภาษาฝรั่งเศสเลยได้น้องชายช่วยคุยว่าจะส่งตัวยังไงและให้ทำอะไรในตอนนั้นเลยมีการเจรจากับคนร้ายเลย บรรยากาศตอนนั้นเค้าคุยกับเราเหมือนเพื่อน เราก็พยายามทำตามที่เค้าบอกหมดเลย โดยมีการเจรจาต่อรองซึ่งมีการเรียกเงิน แต่ขอไม่ระบุว่าเป็นจำนวนเงินเท่าไร

เล่าหมดเปลือก หมอสอง ไล่ไทม์ไลน์ถูกเรียกค่าไถ่ เกือบเอาชีวิตไม่รอด

หมอสอง : ระหว่างที่เราอยู่ที่นั่นเราก็พยายามคุยกับเขาดีๆ จนกระทั่งเค้ายอมให้เราใช้โทรศัพท์เพื่อที่จะได้ติดต่อญาติ วันนั้นเป็นวันที่ปลดล็อกเรามากที่สุดครับ ผมกังวลเรื่องคุณแม่มาก ก็เลยโทรหาคุณแม่เพื่อให้คุณแม่หาเบอร์เฟรนส์ฟราย และให้เขาประสานต่อ ซึ่งก็ต้องขอบคุณเขาและขอบคุณพี่ชายน้องชายขอบคุณคุณแม่ที่พยายามช่วยกันในการเอาตัวผมกลับขึ้นมา

ตอนนั้นเราก็พยายามทำตามทุกขั้นตอนให้ได้มากที่สุด พยายามเซฟตัวเองให้ได้มากที่สุด และคืนนั้นก็จะเป็นวันที่เราจะได้ปล่อยตัวในใจก็แอบคิดว่าเค้าจะปล่อยตัวเราจริงไหมหรือจะพาขี่มอเตอร์ไซค์ไปยิงที่ไหนไหม แต่ด้วยการสนทนาเราก็ยังสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและแอบสังเกตใบหน้าเขาเวลาที่เค้ายิ้มกับเราเค้าก็ล้อเลียนเสียงคุณแม่ มันทำให้ดูรู้ว่าไม่น่ามีอะไรและไม่ฆ่าเรา

เฟรนส์ฟราย : เรื่องนี้เราต้องทำให้คนรู้น้อยที่สุด เพราะว่าตั้งแต่วันที่หายไปกะระยะเวลาคร่าวๆ ได้อยากให้ติดข่าวให้ได้นานมากที่สุด ทุกอย่างมันเป็นสิ่งใหม่เรื่องแบบนี้มันใกล้ตัวมากสิ่งที่สำคัญคือสติและเราก็ต้องทำให้พี่ขอเสี่ยงน้อยที่สุดปลอดภัยที่สุด

หมอสอง : ซึ่งตำรวจเองก็มีส่วนเข้าไปช่วยเราก็ต้องขอบคุณเขา หลังจากที่ผมออกมาเขาก็ดูแลให้ผมในบินกลับมาเมืองไทยอย่างปลอดภัย รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ด้วยที่เราอาจจะไม่ได้ทราบ ซึ่งตอนนี้ผมก็กลับมาทำงานแล้ว เริ่มลุยเข้าห้องผ่าตัดแล้ว

เรื่องราวของผมวันนี้คืออยากให้มาเคลียร์เพื่อป้องกันของข้อมูลที่คลาดเคลื่อนและแหล่งข่าวที่ไม่ชัดเจนทำให้เกิดความเสียหายในเรื่องของความปลอดภัยของผมด้วยและหลายๆ อย่าง ซึ่งผมหวังว่าเรื่องราวของผมอาจจะเป็นอุทาหรณ์สอนใจบางทีการไว้ใจบริษัททัวร์มากๆ มันก็อาจทำให้เราพลาดได้

ส่วนเรื่องการลักพาตัวในต่างแดนมันสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นการท่องเที่ยวถ้าไม่อยากท่องเที่ยวทุกประเทศจริงๆ ให้เลือกประเทศดีๆ เพราะบางประเทศมันก็ไม่ปลอดภัยเลย เพราะช่วงนั้นมันเป็นช่วงที่ทุกข์ทรมานมากๆ พยายามนั่งสมาธิสวดมนต์แต่ทุกอย่าง และอีกอย่างหนึ่งคืออยากให้รู้จักคุณค่ากับชีวิต ไม่ต้องรอให้เกิดเหตุการณ์แบบผมอยากให้ทำดีกับครอบครัวตั้งแต่วันนี้ทุกลมหายใจมีค่าเสมอ หลังจากนี้จะกลับไปอีกไหมก็ต้องขอพักเรื่องนี้ไปก่อน

และวันนี้ในรายการ “เปิดปากกับภาคภูมิ” โดย ภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ จะมีการพูดคุยกับ “หมอสอง” หลังจากได้รับการช่วยเหลือ และเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย เวลา 15.30 น. เป็นต้นไป ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32.

เล่าหมดเปลือก หมอสอง ไล่ไทม์ไลน์ถูกเรียกค่าไถ่ เกือบเอาชีวิตไม่รอด
เล่าหมดเปลือก หมอสอง ไล่ไทม์ไลน์ถูกเรียกค่าไถ่ เกือบเอาชีวิตไม่รอด

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2537336
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2537336