“ดีเจต้นหอม” โต้คบนักธุรกิจหนุ่มรวย รู้สึกผิดไม่มีเวลาให้ลูก เล่าเบื้องหลังใช้บริการเด็กนวด


ให้คะแนน


แชร์

“ดีเจต้นหอม” โต้คบนักธุรกิจหนุ่มรวย รู้สึกผิดต่อลูกไม่มีเวลาให้ เล่าเบื้องหลัง “หอมรับแขก” ใช้บริการเด็กนวด

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

ดีเจสาวคนเก่ง “ต้นหอม ศกุนตลา เทียนไพโรจน์” เอาใส้กรอกอีสานรสเด็ด และธุรกิจขนมนำเข้า มาออกบูธในงาน “แฉแฟร์” ณ MCC Hall ชั้น 4 เดอะมอลล์ บางกะปิ และได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตอนนี้เธอกำลังจะกลับมาเข้าวงการทำธุรกิจ หลังวางมือไปนาน โดยเร็วๆนี้จะทำครีม และชี้แจงว่าที่ปีนี้ที่หายจากหน้าจอทีวีไปนั้น เพราะรับงานละครไว้หลายเรื่อง ซึ่งปีหน้าจะได้เห็นหน้าเธอทางหน้าจอตลอดทั้งปี และยอมรับว่า ทำงานหนักจนบางทีไม่มีเวลาเจอลูก และรู้สึกผิดกับลูกมากๆ

นอกจากนี้ ดีเจสาว ยังได้เผยถึงงานวันเกิดครบรอบอายุ45ปี ที่ฉลองกับแก๊งค์เพื่อนสนิท แต่ก็ยังไร้คนพิเศษ อย่างที่เพื่อนๆแอบแฉว่ากำลังคุยนักธุรกิจหนุ่ม


ล่าสุดจัดงานวันเกิดอายุเท่าไหร่เอ่ย?
“พูดตรงนี้เลย อายุ 25 เป็นคนไม่ตอแหxอยู่แล้ว อายุไม่โตตั้งนานแล้ว เลิกนับไปนานแล้วค่ะ วันเกิดธีมของปีนี้ จริงๆไม่ได้ตั้งใจจะจัดวันเกิด แค่ไปเห็นคลิปในติ๊กต็อกคือ งานไม่ใหญ่แน่นะวิ เราก็บอกว่าเพื่อนๆมาถ่ายติ๊กต็อกกัน แล้วหอมไม่ว่างเลยดันว่างแค่วันเกิดวันเดียว มะตูมก็เลยสรรหาพรมแดงเข้ามา ให้มันเป็นธีมเพชรตะโกนยังไงก็ได้ ให้เห็นไกลๆว่านั่นคือเพชร อันนี้ต้องบอกก่อนเนื่องจากเพื่อนๆหลายคนบอกว่าทำไมไม่ชวน คือไม่ได้ต้องการจะจัดวันเกิดจริงๆเป็นคนไม่ได้จัดวันเกิดก็แค่อยากจะจัดธีมนี้ เราก็เลยเอาเพื่อนที่ว่างวันนั้นแล้วบอกเลยนะว่าเกรงใจไม่ได้ชวนทุกคน เพราะว่ามีบางคนบอกว่าทำไมไม่ชวนก็รู้สึกนิดนึง แต่อยากจะบอกว่ามันเกรงใจจริงๆ เพราะอยากจะบอกว่ามันไม่ได้มีอะไรจริงๆมันไม่ได้มีเค้กมีอะไรแบบนี้เลยค่ะ อาหารเราก็จะเป็นอาหารบ้านๆ คุณมะตูมก็จะมาจัดไฟน์ไดนิ่ง ไปเอาร้านลาบไปเข้าครัวเขานี่แหละมาจัดไฟน์ไดนิ่ง ก็เอาเทียนอะไรมาตั้ง”

แต่ว่าทุกคนก็เต็มที่มากเลย?
“ใช่ค่ะเพราะว่าเขาโดนหลอกมา เขาไม่รู้ว่าหอมพามาร้านนี้ คือเจ้าของร้านเขาก็บอกว่า พี่หอมจะมาจัดวันเกิดที่นี่เหรอ คือร้านผมร้านบ้านๆเลยนะ ใช่ เราก็บอกว่าเราต้องการร้านอย่างนี้แหละ เพราะเราอยากจะหลอกเพื่อนมา เราก็บอกว่า ธีมพรมแดง เพชรตะโกน ทุกคนก็เลยมาเต็ม

แม่อ้วนกับแอร์คือโดนหลอกสุด คือแม่อ้วนน่ะเขาไปเบิกเพชรไม่รู้ว่าไปเบิกจากธนาคารหรืออะไรไม่รู้ นางเอาเพชรแท้มา อันนั้นน่ะมีเป็น 10 ล้านเลย คือคิดว่ามันคงแพงมาก คือเป็นสร้อยคอใหญ่มาก ตอนที่เขาบอกว่า กูจะไปเบิกเพชรแท้มานะ หอมก็พยายามบอกว่าแม่อย่าแม่สำเพ็งได้ ก็พยามจะบอกแต่ก็ไม่กล้าบอกเยอะ

แล้วแอร์ก็มาชุดราตรีมาเต็ม คือตอนที่แม่อ้วนลงมา แล้วเห็นร้านแล้วก็พรมแดง ก็คือด่า แล้วก็ด่าว่า เอากูมาอยู่กับพวกมึงจนเพชรกูดูกลายป็นของปลอม ก็เป็นการแกล้งเพื่อนคือวันนั้นสนุก มันตลก คือแม้กระทั่งตัวหอมเองก็ไม่รู้ว่าจะเจออะไรบ้าง มันก็เลยสนุกเพราะว่าเขาจะเสิร์ฟมาเป็นคอร์สๆ ก็จะตื่นเต้นว่ามันคืออะไร คือแฮปปี้นะ เป็นน้ำตกเป็นลาบ เป็นส้มตำ อย่างละคำ”

วันนั้นเห็นได้พวงมาลัยเงินเยอะมาก ขนของขวัญกลับบ้านเยอะขนาดไหน?
” มีได้ตุ้มหู ได้เทียนหอม แล้วก็ตังค์ ก็มีอะไรเล็กๆน้อยๆ แต่คุณมะตูมเขาก็จะต้องเวอร์ เป็นเงิน เพระเขารู้ว่าเราชอบอยากจะเป็นอิงฟ้า ก็อยากจะได้ช่อเงิน นางก็เลยทำให้”

ในคืนพิเศษที่อยู่กับเพื่อน มีคนพิเศษอยู่ได้ไหม?
“ฝากตรงนี้เลยก็ได้นะคะว่ายังรับอยู่ ก็เริ่มรู้สึกเหงาๆ คือไม่มีเวลาไม่กล้ามีแฟนจริงๆ ไม่รู้ว่าจะเอาเวลาที่ไหนไปดูเขา แล้วอย่างที่บอกตอนนี้เรารู้สึกผิดกับลูก ช่วงนี้ถ้าเกิดมีแฟนก็จะเดี๋ยวจะทิ้งตัวไปทางแฟน แต่ถ้ามันจะมีเป็นค่อยไป แต่จะไม่กล้าเหมือนแต่ก่อนแล้วที่จะเหยียบคันเร่ง ก็คือจะไม่ง่ายเหมือนแต่ก่อนแล้ว ก็คือต้องบอกตรงนี้นิดนึงค่ะ จะมาคุยกันวันนึงแล้วดิวเป็นแฟนเลยไม่ได้ค่ะ แต่ถ้าสองสามวันหรือขอเป็นอาทิตย์นึงได้ไหมคะ(หัวเราะ)”

แต่เห็นโดนแซวว่ามีหนุ่มคุยอยู่เป็นรุ่นหนุ่มรุ่นน้อง?
“ก็จะมีมะตูมที่ชอบไปบอกคนนั้นคนนี้ว่าต้นหอมมีแฟนเป็นนักธุรกิจหนุ่มรวย แล้วทุกคนก็จะถามว่าเหรอ คือเวลาหอมบอกไม่มี ทุกคนจะไม่เชื่อแต่มะตูมพูดโกหก แต่ตอนนี้ทุกคนทุกคนเชื่อ แล้วฉันต้องยังไงแล้ว เวลามันพูดเรื่องนี้ เชื่อปะว่าหอมจะต้องทำหน้าอึดอัด คือกูต้องพูดว่าอะไรอ่ะแต่ยังไม่มีค่ะ”

รู้สึกยังไงที่เพื่อนโกหกแต่คนอื่นเชื่อ แต่เราพูดความจริงกับไม่มีใครเชื่อเลย?
“ใช่ ก็รู้เลยว่าระดับความดังและความน่าเชื่อถือของเรามันตกลงไปแล้ว แล้วเด็กรุ่นใหม่มันพูดอะไรที่ออกจากปากมะตูมหรือมดดำทุกคนเชื่อไปหมดเลยอ่ะ กลายเป็นน้ำหนักเราเบามาก หอมยังไม่มีนะคะ”

เพราะเราสวยแซ่บคนก็อาจจะไม่เชื่อว่าเราจะโสดได้นาน?
“ก็คือเป็นการโสดมากที่สุดในชีวิต โสดที่สุดตั้งแต่เกิดมาในชีวิตเลยก็เข้าปีที่3แล้วอาจจะเป็นเพราะโควิดด้วยแล้วทำงานหนักด้วย แต่คนสวยกว่าเราเขายังโสดก็มีนะ”

มันเปลี่ยนชีวิตไหม ที่เราโสดจริงๆ แล้วยืนระยะได้นานขนาดนี้?
“ก็ดูเป็นผู้เป็นคนมากขึ้นค่ะ ก็ดูรู้สึกว่าเราดูเป็นคนที่สุดในชีวิตแล้ว พอมีแฟนมันก็จะมีเรื่องให้นอยด์ๆ ตอนนี้ชีวิตมันมีความสุขมันก็เลยเบิกบาน แต่ว่ามันก็เบิกบานคนละแบบเนอะ เพราะว่าถ้ามีแฟน สมมุติว่าถ้าเขาไปไหนเขาไม่ LINE มา มันก็จะนอยด์แล้ว นอกใจกูป่ะเนี่ย เพราะว่าที่ผ่านมาเราเจออะไรหลายๆหมัด ก็เลยคิดว่าฟโสดก็ดีกว่ามั้ง”

ถ้าหลังจากนี้หนุ่มๆจะเข้ามาเรามีวางสเปคยังไงบ้าง?
“ก็มีตังค์แหละค่ะ ก็อย่างที่บอกว่าชอบคนบ้านๆ บ้านรวย ตอนเนี่ยมันไม่ได้อยู่ในจุดที่ต้องสร้างความมั่นคงแล้ว แต่มันอยู่ในจุดที่ต้องมีความมั่นคง ผู้ชายต้องมีความมั่นคงเป็นคนเก่ง ที่ทำงาน ไม่ใช่ว่ารวยจากที่บ้าน และปัจจุบันไม่ทำงาน อันนี้เราก็ไม่เอา เรารู้สึกว่าในอนาคตมันจะเป็นภาระเรา เราต้องไม่เป็นมาเป็นภาระซึ่งกันและกัน ช่วยกันทำมาหากิน เพราะว่าหอมชอบเงิน”

ไม่ต้องถึงขั้นมาเลี้ยงดูเราแต่อย่ามาเป็นภาระเรา?
“ไม่ต้อง แต่ว่าอย่าถ่วงเรา แต่ว่าก็ต้องทำธุรกิจร่วมกันได้สมมุติว่าฉันจะเที่ยวต่างประเทศสแกนดิเนเวีย เธอจะต้องไม่พูดว่า วันนี้เธอไม่มีตังค์ เธอต้องบอกว่าไปได้ทำกิจกรรมหรือไลฟ์สไตล์อะไรต่างๆด้วยกันได้ หรือรวยกว่าหอม หอมก็ไม่ติดนะคะตรงนี้(หัวเราะ) ไม่ต้องมาเลี้ยงดูแต่อย่ามาเป็นภาระ ต้องเป็นคนเก่งเรื่องการมองอนาคตและการวางแผนชีวิต”


รายการหอมรับแขก ฟีดแบกดีมาก
“รายการหอมรับแขก ตอนที่เราเริ่มทำรายการนี้ก็จริงๆ หอมขอโปรดิวเซอร์ทำรายการนี้อยู่นาน คนจะเชื่อหอมไหมคนจะดูไหม เราทำอย่างอื่นมาเยอะแล้วแต่นี่เป็นรายการในฝันเลยที่เราอยากทำเรื่องที่เราอยากทำ คนได้เห็นต้นหอมในอีกมุมนึง เพราะหอมไม่ใช่คนที่ตลกตลอดเวลา ผอมมีมุมที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิต เริ่มทำออกมาอีพีแรกก็มาประมาณ 6-7 แสนวิว ก็ดี อีพีที่มันเปลี่ยนเลยจะเป็นอีพีของแม่อ้วนอีพี 2 ที่เล่าเรื่องชีวิตตัวเองและ มีเรื่องช่างแต่งหน้าขายบริการในต่างแดน ปรากฏว่ามันก็เลยดึงคลิปเก่าๆ เราขึ้นมา

ทีนี้พอเริ่มทำอะไรออกมาปุ๊บมันก็เลยได้รับการตอบรับ แล้วเราลงพื้นที่จริง ไปซื้อบริการจริงแต่ว่าไม่ได้ใช้บริการนะคะ (ยิ้ม) โดยที่น้องก็ไม่รู้ว่าเป็นเราก็ต้องแนะนำตัวกันในรถว่าพี่หอมนะไม่ได้ไปใช้บริการนะแค่อยากคุยด้วย โอเคไหม ก็คือดีลกันตรงนั้นเลย แล้วก็มาถึงอีพีล่าสุด คนเราอาจจะรู้เรื่องไซด์ไลน์อยู่แล้ว มันก็ค่อนข้างเปิดโลกคนที่ว่ายังไม่รู้ว่ามีอาชีพนี้จริงๆ แล้วเขาก็รู้สึกว่าตัวเขาไม่ได้เสียหาย ผู้ใช้บริการก็ไม่ได้เสียหาย ก็ได้รู้อีกโลกหนึ่งว่ามีคู่สามีภรรยาที่ใช้บริการแบบนี้เยอะมาก

ทุกๆ ครั้งที่หอมไปสัมภาษณ์น้องที่ทำงานด้านบริการแบบนี้เขาจะบอกเลยว่าเรื่องแบบนี้ในวงการเขาเป็นเรื่องปกติ เราก็แค่นำเสนอในอีกมุมหนึ่งของโลกเท่านั้นเองแล้วด้วยความงานถ่ายต้องบอกว่าทีมงานหอมเก่งยกเครดิตให้ทีมงานเพราะทำรีเสิร์ช วางภาพลักษณ์ทั้งหมดว่าจะออกมาเป็นยังไง แล้วก็ทำยังไงให้คนไม่รู้สึกเบื่อ อย่างอีพีล่าสุดเค้าก็วางไว้ว่าต้องเป็นอย่างนี้เลยดีลที่โรงแรมเลยมาหาจริงๆ เลยนัดกันจริงๆ ทีมงานเก่งค่ะอันนี้หอมบอกเลย”

รู้สึกเขินบ้างไหม?
“เวลาเราทำงานเราก็เต็มที่นะตอนแรกเราจะให้บอดี้ทูบอดี้ด้วยซ้ำ ทีมงานบอกแรงไปเราอยากรู้ว่าเป็นยังไง ทีมงานเค้าก็ห่วงภาพลักษณ์เรากลัวเนื้อหามันจะส่อไปทางเรื่องเพศเกิน”

เห็นบอกว่ามีคนติดต่อโทรมาเบอร์ทีมงานเยอะมากอยากได้เบอร์หมอนวด?
“คือเค้าก็อยากได้จริงๆ นะ สำหรับหอมมันทำให้รู้ว่านอกจากโลกของคนที่ทำงานบริการแล้ว โลกของผู้ใช้บริการก็เยอะมาก แล้ววันนี้ผู้หญิงก็ใช้บริการเยอะมากกว้างมากๆ เค้าโทรมาจริงจังดูคลิปเสร็จก็จะใช้บริการตอนนั้นเลยอะไรแบบนี้ ก็ต้องแจ้งว่าเบอร์ที่ให้ไปเป็นเบอร์ของทีมงานแล้วเค้าจะไม่ให้คอนแทคต่อคือถ้าอยากได้อะไรต้องไปค้นในทวิตเตอร์เอาเอง ทีมงานเราไม่มีคอนแทคทำงานเสร็จแล้วดีลีทหายไปหมดแล้วนะคะไม่ต้องติดต่อแต่อีกอย่างหนึ่งที่ควรโฟกัสก็คือพอลงเบื้องหลังและโปรดิวเซอร์มันหล่อมันยืนหันหลังคนไม่ได้โฟกัสที่จะอ๊อฟเด็กนวดแล้วตอนนี้เพราะตอนนี้คอมเมนต์คือผู้ชายเสื้อขาวคือใครเอาเป็นว่าเดี๋ยวว่างๆ มีเวลาจะถ่ายแปดแพ็คโปรดิวเซอร์เราให้ดู เค้างานดีจริงๆ แต่ว่าไม่ได้รับนะงานบริการน่ะ (หัวเราะ) ทีมงานเราทีมงานชายหมดเลยนะแล้วมันทำให้ความรู้สึกตัวเหมือนกันจังหวะที่เรานวดผู้ชายทุกคนก็ยืนมองเราว่าจะเอามุมไหนดีอันนี้ได้ไหม มันก็รู้สึกว่า เออ..ก็ผู้ชายหมดเลยเนอะ (หัวเราะ) แต่ว่าทีมงานเก่งทุกคนเลย รู้สึกว่าโชคดีมากที่เราได้ทีมงานที่ทำงานลงพื้นที่จริงทำงานจริงค่ะ”

ย้อนไปวันแรกที่คิดจะทำคอนเทนท์นี้มันมีความสุ่มเสี่ยงที่จะเจออะไรในด้านลบมีความกังวลบ้างไหม?
“หอมกลัวสุ่มเสี่ยงจากทางการมากกว่า (หัวเราะ) สิ่งที่เรานำเสนอแบบนี้มันอาจจะไปเหยียบเท้าใครซักคนนึงได้ในวันนึง ก็ระวังเรื่องตรงนี้มากๆ เพียงแต่ว่าเรื่องทำงานบริการแบบนี้ หอมว่าสังคมไทยปากว่าตาขยิบมานานเรารู้ทุกคนอ่ะ ว่ามันมีจะบอกว่ามันไม่มีมันดูตาขยับไปนิดนึง ก็เลยนำเสนอเรื่องที่ทุกคนรู้อยู่แล้วดีกว่าเพียงแค่มันจะมีต่อยอดทำอาชีพอื่นขึ้นมา ด้วยความที่สังคมมันเปลี่ยนไปเนอะ เค้าก็ต้องหาอาชีพมันไม่มีใครดูแลเขาอ่ะวันที่เขาไม่มีงานมันไม่มีใครช่วยเขาเขาก็ต้องดิ้นรนช่วยตัวเอง มันเลบเกิดอาชีพใหม่ๆ ขึ้นอาชีพเด็กเอ็น หรืออะไรต่างๆ คือถ้าสิ่งที่เขาทำมันไม่ได้เดือดร้อนใครหอมว่ามันก็ควรได้รับการยอมรับด้วยได้แล้วก็ เป็นคนหนึ่งที่รู้สึกอยากให้ยอมรับในทุกๆ อาชีพ ถ้ามันไม่ได้ผิดหรือกระทบต่อใครจริงๆ”

คำชมนึงที่เห็นในคอมเมนต์เยอะๆ คือการตั้งคำถามหรือการพูดคุยกับแขกที่มาในแต่ละอีพี?
“ทีมงานเลย บางวันหอมก็จะเอ๋อๆ ไปทีมงานก็จะเป็นคนซัดเข้าปากเลย เพราะเค้าจะมีข้อมูลของคนที่เค้าดีลมาอยู่แล้ว อันนี้หอมให้เครดิตทีมงานรายการเลยค่ะ เราเป็นแค่คนที่นำเสนอและเข้าใจสิ่งที่ทีมงานสื่อสาร เป็นคนกลางที่สื่อสารระหว่างทีมงานกับน้องเขา”

คนก็จะคาดหวังในอีพีต่อๆ ไปมันจะพีคขึ้นกว่านี้ไหม?
“ใช่ค่ะ จริงๆ ถ่ายอีพีหนึ่งมาแล้วแต่รู้สึกว่า อุ๊ยตาย..เพราะอีพีนี้มันแรงอ่ะ มันจะเบาไปไหม แล้วเหมือนยอดวิวมันยังไม่หยุดไหลเลย เราตั้งเป้าว่าเราทำทุกอีพีอ่ะสักล้านวิว ก็โอเคแล้วจริงๆ มันมีอีพีหนึ่งนะที่ดีมากเลยแต่ว่ายังไม่แตะล้านวิวคือเรื่องของคนคุก มันดีมากอันสะท้อนภาพในคุกแล้วก็สะท้อนการดูแล วีไอพีมีไหม ในยุคก่อนมันมีไหม เขาพูด หอมเลยอยากให้ทุกคนดู แต่ที่นี้คนไทยอาจจะชอบเสพเรื่องเพศอ่ะเนาะยอดวิวมันเลยไหล แต่จริงๆ หอมว่าอันนี้มันดีนะเพราะเราไม่รู้เลยว่าวันนึงเราจะทำอะไรพลาด ต้องก้าวเข้าไปในนั้นหรือเปล่า หอมว่ารู้จักมันหน่อยก็ดีค่ะ”

ถามเรื่องการรับงานอีเวนต์ต่างๆ ที่ก่อนหน้านี้ตำรวจออกมาเตือนเรื่องเกี่ยวกับบริษัทฟอเร็ก สำหรับเราเองมีวิธีการตรวจเช็คในการรับงานแต่ละครั้งยังไงบ้าง?
“หอมรู้สึกว่างานอีเวนท์น่ะเรารับหน้าที่พิธีกร อย่าโยนบาปให้พิธีกร เราไม่รู้หรอกถ้าเค้าไม่ใช่งานอีเวนท์ที่แบบ เธอวันนี้เราจะมารวมตัวกันไปตัดริบบิ้นเปิดยาบ้าอะไรอย่างนี้ที่มันชัดเจนขนาดนั้น แล้วฟอเร็กอ่ะเท่าที่เรารู้มันก็มีฟอเร็กจริงๆ แต่ฟอเร็กที่เป็นข่าวมันไม่จริงไง ฉะนั้นการที่ดีลพิธีกรไปเราสืบค้นไม่ได้หรอก แล้วอีกอย่างหนึ่งพอมันเป็นงานเลี้ยงภายในเค้าจะบอกแค่ชื่อบริษัท เค้าจะไม่ได้บอกเราว่าบริษัทนี้ทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไรเพราะเรามีหน้าที่เป็นพิธีกรคืองานเลี้ยงภายในหอมบอกเลยว่ามันยากมากมันก็ไม่ได้อยากให้โยนบาปไปทางพิธีกรว่าคุณต้องนั่งเช็คสิว่างานนี้มันเป็นอะไรยังไงมันอยากไป”

ปกติเวลาเรารับงานแต่ละงานเราต้องรู้ข้อมูลงานขนาดไหน?
“บอกแค่ชื่อบริษัทมาค่ะ แต่ส่วนใหญ่ชื่อบริษัทจะคุ้นเคยอยู่แล้วเป็นบริษัทใหญ่ๆ ที่เรารู้จัก หอมยังไม่ค่อยเจองานอะไรพวกนั้น แล้วถ้าทำเค้าก็คงไม่บอกว่าเป็นบริษัทฟอเร็กอ่ะเค้าก็คงแค่บอกชื่อบริษัทนี้มาทำขายตรงเทรดหุ้นหรืออะไรอย่างนี้พิธีกรจะรู้แค่นั้น”

มีความกังวลกับการรับงานในอนาคตไหม?
“ไม่กังวล เราไม่ใช่คนทำผิด เราก็ทำงานหาเงิน ตัวนั้นเค้าก็ทำงานหาเงินแต่ถ้าเค้าผิดก็ไปว่ากันตามผิด ใครผิดก็ไปเอาผิดกับคนนั้น การที่เราไปทำพิธีกรงานเลี้ยงภายในเราไม่มีผลที่จะชักชวนคนอะไรอยู่แล้ว คนที่จะศึกษาข้อมูลคนที่นั่งอยู่แล้วกำลังจะมาเป็นดาวน์ไลน์หรืออะไรก็ตามคุณมีหน้าที่ศึกษาข้อมูลด้วยตัวคุณเอง ไม่ใช่ฝากความหวังที่งานนี้เห็นมีพิธีกรดังก็ไม่ใช่ เพราะเรามาทำหน้าที่พิธีกร การที่คุณจะเอาเงินของคุณไปลงทุนกับอะไรซักอย่างคุณต้องดูแลหรือศึกษาด้วยตัวเองอยู่แล้วค่ะ”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7336930
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7336930