ความลับ 20 ปี ‘รุ่ง สุริยา’ เปิดตัวลูกชายครั้งแรก เผยมีครอบครัวตั้งแต่ก่อนดัง


ให้คะแนน


แชร์

ความลับ 20 ปี ‘รุ่ง สุริยา’ เปิดตัวลูกชายครั้งแรก เผยมีครอบครัวตั้งแต่ก่อนดัง เล่าถึงชีวิตที่ต้องปิดบังมาตลอด ได้กลับบ้านปีละครั้ง

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

เก็บไว้มานานตลอด 20 ปี สำหรับนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง รุ่ง สุริยา ที่ล่าสุดควงลูกชายคนโต น้องคิว มาเปิดตัวครั้งแรกในรายการโต๊ะหนูแหม่ม พร้อมทั้งเผยเหตุผลและความรู้สึกครั้งนี้ที่ได้ปลดปล่อยความในใจออกมา ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกกันทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข

“คือเรามีครอบครัวมาก่อนมีลูกมีภรรยามาแล้ว ก่อนที่จะดัง“

“ไม่ได้โทษใครเลยนะ เพราะเราอยากเปิดแต่เราไม่สามารถเปิดได้ ซึ่งตอนนั้นเหมือนเป็นกฎของทางค่ายที่ถ้าบอกไปแล้วชื่อเสียงหรือกระแสมันจะลดลง“

“ผมก็เลยงงและมันค้างอยู่ในใจ แต่เราก็ต้องยอมรับ ซึ่งตอนหลังก็ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ปีแรกไม่ได้เจอเลย โทรคุยนานๆ ครั้งตอนนั้นลูกคนโต 3 ขวบแล้ว ซึ่งตอนนี้มีลูก 3 คนแล้ว“

การต้องเก็บเรื่องครอบครัวไว้เป็นความลับ รุ่ง สุริยา เล่าว่า ณ ตอนนั้นก็ต้องแยกกันอยู่ ได้เพียงโทรหากันเท่านั้น

“ตอนนั้นผมก็อยู่บริษัทอยู่ลาดพร้าวและครอบครัวอยู่เกษตร มันไม่ได้ไกลกันแต่มันดูเหมือนไกลมาก แต่เป้าหมายเรามันคือความฝันที่ต้องดูแลครอบครัวหลายชีวิตเราก็ต้องเดินหน้าต่อไป“

“ปีแรกก็โทรหากันนานครั้งแต่ไม่ได้เจอกันเลย หนึ่งปีผ่านไปก็ให้ทางบ้านไปหาได้ปีละครั้ง“

จนตอนนี้ที่ได้มาเปิดตัวลูกชายเป็นครั้งแรก โดย น้องคิว ที่ปัจจุบันได้ทำเพลงเดินตามรอยพ่อ ได้เล่าถึงความรู้สึกในวัยเด็กว่า

“ตอนแรกเราก็ไม่ค่อยเข้าใจ ซึ่งพอดูในทีวีแล้วเห็นพ่อว่าดังแต่เขาไม่มีเวลามาหาตอนแรกเราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเราถึงไม่ว่างมาเจอกันเลย ตอนนั้นแม่ก็อธิบายให้เราฟังเราก็เริ่มเข้าใจตอนประมาณอายุ 10 ขวบ เราก็ไม่เคยเรียกร้องอะไรเลยตอนนั้นก็อยู่กับแม่ พอพ่อกลับมาแล้วก็ได้นอนด้วยกันได้กอดกัน“

ในวันที่ตัดสินใจอยู่ด้วยกัน รุ่ง สุริยา บอกว่า “ชีวิตเราไม่แน่นอน เราอยากมีครอบครัวที่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเพราะฉะนั้นคิดอยู่ในใจว่าอะไรจะเกิดก็เกิด เราก็วัดกันไปเลย ก็เอาจังหวะนี้เปิดตัวลูกเปิดตัวครอบครัวไปเลย ก็เลยได้มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน ทุกข์บ้างสุขบ้างก็อยู่กันไป“

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7339630
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7339630