ร่วมงานกับดีเจบีได้อย่างไร

จูน : จูนติดต่อดีเจบีผ่านพี่ดริ้ง ผู้จัดการของพี่ป๊อก Mindset ค่ะ เพราะดีเจบีเป็นโปรดิวเซอร์ให้พี่ป๊อกอยู่แล้ว ผลงานเด่นๆ ของเขาก็จะมีเพลงวิบวับ เสือสิ้นลาย ที่หลายคนรู้จักดี ซึ่งเราก็ชื่นชมผลงานเขาอยู่แล้ว รวมกับการไปมูดูอาจารย์หมอดูว่าร่วมงานกับดีเจบีแล้วเพลงจะปังมากไหม อาจารย์บอกว่าปังลุยเลย (หัวเราะ)

เราเลยเซ็นสัญญาทำเพลงกันเลย สายมูต้องรอด (หัวเราะ) ตอนทำงานกับพี่บีและพี่ดริ้ง เกร็งมากค่ะ เพราะเป็นครั้งแรกของเรากับวงการเพลง จากตอนแรกเรามองว่าโปรดิวเซอร์คนนี้เป็นคนสบายๆ ชิลๆ เอาเข้าจริงเปล่าเลย ขนาดเราฝึกซ้อมเสียงกับทางแกรมมี่มาเป็นปี

ก็ยังต้องฝึกเพิ่มให้ดีเจบีอีกให้ตรงมาตรฐานของเขา พี่บีเป็นคนสไตล์นิ่งๆ พูดน้อย แต่เรื่องงานทำเพลงพี่บีเป็นคนโหดในมาตรฐานของพี่เขามาก ข้ามผ่านไปไม่ได้แม้แต่จุดเดียว ซึ่งเราก็ชอบมาก เพราะนั่นหมายถึงคุณภาพ

ใครเป็นคนวาง Concept เพลง

จูน : จูนเป็นคนวาง Concept เพลงเองเลยค่ะ ว่าเราอยากได้ประมาณไหน จริงๆ กว่าจะมาถึงเพลง Boys Don’t Cry ก็ทำกันมา 3 เพลงแล้ว แต่ยังสรุปกันไม่ลงตัว จนดีเจบีส่งท่อนฮุกท่อนนึงมาให้ฟัง โอ้โห จูนตอบกลับดีเจบีว่าจูนชอบมาก 200% เลย ดีเจบีเลยดำเนินแต่งเพลงที่เหลือให้เข้ากับความต้องการของจูนมากที่สุดจนเสร็จ แต่ไม่ทิ้งความเป็นสไตล์ และมาตรฐานของพี่เขา

พอเพลงออกมาแล้วความรู้สึกแรกเป็นอย่างไร

จูน : ดีใจมากแบบตื้นตันเลยค่ะ เพราะเรารอคอยเพลงของเรามา 1 ปีเต็ม รวมฝึกเสียงก็มี 2 ปีเลย สิ่งแรกที่บอกกับตัวเองคือ เรามีเพลงเป็นของตัวเองแล้วนะ เรากำลังจะเป็นศิลปินเต็มตัวแล้ว เราก้าวมาเกือบครึ่งทางแล้ว

คาดหวังมากน้อยแค่ไหนกับเพลงนี้

จูน : เรื่องคาดหวังมีแน่นอนค่ะ แต่สิ่งที่คาดหวังมากกว่าชื่อเสียงเงินทองคือ เราได้ทำตามความฝันของเราให้เสร็จสิ้น ให้สุดทางแบบไม่มีอะไรติดค้างว่าเรายังไม่ได้ทำตามฝันในชาตินี้ นั่นคือความหวังสูงสุดค่ะ ถ้าทำเสร็จแล้วนั่นคือสมหวังของเราค่ะ จูนต้องขอบคุณดีเจบีแบบเท่ๆ ก่อนเลย เพราะนอกจากดีเจบีจะทำเพลงให้จูนเป็นเพลงแรกในชีวิตแล้ว ยังทำให้จูนได้เรียนรู้วิถีของศิลปิน

การก้าวข้ามผ่านอีโก้เรื่องรสนิยมเพลง แล้วหันมาฟังประสบการณ์ของโปรดิวเซอร์คนทำเพลงที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ล้มลุกคลุกคลานกับกระแสเพลงไทยมามากมาย ว่าบางทีเราต้องคนละครึ่งทางลงไปในเพลง นั่นคือการเข้าถึงคนฟังเพลง แต่ก็ไม่ทิ้งความเป็นตัวตนของเรา และทุกส่วนมันต้องผสมผสานไปด้วยกัน สั้นๆ แต่ลึกซึ้งมาก

ส่วนครูโบว์ จากข้าวสารมิวสิค ที่ดีเจบีแนะนำมาฝึกเสียงให้จูนตอนเข้าห้องอัด เชื่อไหม จากที่จูนกดดันเรื่องอัดเสียง และไปต่อไม่ได้สักทีอยู่เป็นเดือนๆ ได้ครูโบว์ นี่แหละมาเคลียร์ปมเรื่องเสียงตรงนั้นให้หมดเลยภายในระยะเวลาอันสั้น ครูโบว์อัดซ้อมเสียงจูนอย่างหนัก อย่างมืออาชีพ

ครูโบว์ทำให้จูนได้เรียนรู้การใช้เสียงในห้องอัดมากขึ้น ว่าควรใช้เสียงยังไง จนจูนได้เข้าห้องอัดอีกครั้ง ครูโบว์ประกบจูนเทรนคำต่อคำตอนเข้าห้องอัดอย่างประชิดตัว จนอัดเพลงเสร็จในที่สุด น้ำตาจะไหล ร่วมชม MV และฟังเพลงสนุกๆ แนว Urban ของสาว จูน นาตาชา พร้อมกัน 18 พฤศจิกายนนี้.