‘แพท’ ณปภา ทุ่มทุนซื้อม้า หวัง ‘เรสซิ่ง’ เรียนขี่จริงจัง พร้อมลงแข่งสนามแรก
‘แพท’ ณปภา ทุ่มทุนซื้อม้า หวัง ‘เรสซิ่ง’ เรียนขี่จริงจัง พร้อมลงแข่งสนามแรก
‘แพท’ ณปภา ทุ่มทุนซื้อม้า / นักแสดงสาว ‘แพท’ ณปภา ตันตระกูล ควงลูกชาย ‘น้องเรสซิ่ง’ มาเดินชมรถภายในงาน B AUTOHAUS ULTRA COLLECTION โชว์รถหรูระดับท็อป ที่ Emquartier ชั้น G จัดขึ้นโดย ‘บิ๊ก’ อัครวัชร คงสิริกาญจน์ แฟนหนุ่มของสาว ‘เมย์’ พิชญ์นาฏ สาขากร จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงเรื่องน้องเรสซิ่งที่นับวันยิ่งโตขึ้น และสนับสนุนเรียนขี่ม้าอย่างจริงจัง เตรียมตัวเข้าแข่งขันชิงถ้วยรางวัลสนามแรกเร็วๆ นี้ พร้อมเผยว่าถ้าได้ดีด้านนี้ จะทุ่มลงทุนซื้อม้าเป็นของตัวเอง
ข่าวแนะนำ
ตอนนี้เลี้ยงเฮียเรสเป็นอย่างไรบ้างโตไวมาก? “โตไวมาก แล้วก็ตอนนี้ก็อยู่ในขั้นตอนของการฝึกขี่ม้าจริงจังค่ะ (คือน้องชอบหรือว่าแพทสนับสนุน?) หนูชอบมั้ยครับหรือยังไง พี่เรสชอบขี่ม้ามั้ยครับ ขี่ม้าป่าวจะแข่งป่าวสรุป แข่งมั้ยๆ แข่งม้ามั้ยลูก ขี่ม้ามั้ย ขี่ม้า (คุยกับลูกชาย)”
ไม่จอยเลยวันนี้? “ไม่จอยวันนี้ เพิ่งตื่น แต่ว่าตอนนี้ที่บอกขี่ม้าจริงจัง เพราะว่าเดี๋ยวประมาณอาทิตย์หน้าจะลองให้ลงแข่งสนามเล็กๆ ก่อน”
เป็นแมตช์เกี่ยวกับอะไร? “เป็นแมตช์เด็ก 6 ขวบ ถึง 10 ขวบค่ะ ลงสนามแข่งเอาถ้วยค่ะ แบบนั้นแหละค่ะ (แล้วเป็นยังไงบ้างมีกติกาหรือว่ามีรูปแบบยังไงบ้าง?) ก็คือน้องจะหัดในเรื่องของการเดิน หมายถึงคอร์สเดินบนหลังม้า เรื่องการทรงตัวแล้วก็กระโดดแบบสั้นๆ อะไรอย่างนี้ ล่าสุดที่ไปฝึกมาก็ตกม้าใช่มั้ยครับ ตกม้าแล้วหนึ่ง”
แล้วใจแม่เป็นยังไงตอนลูกตกม้า? “ไม่เหลือ กรี๊ดลั่นเลยค่ะ เหมือนจะถอดใจแต่ทุกคนก็บอกว่ามันเป็นอย่างงี้ เป็นปกติ แต่น้องเขาใส่เซฟตี้ คือครูบอกว่ามันต้องตกกันสักครั้งแหละอะไรอย่างงี้”
วิ่งเข้าชาร์จเลยไหมวันนั้น? “ทุกคนต้องมาล็อก เพราะว่าเขาบอกว่าพอเราไม่รู้ตัวเราจะเข้าไป แล้วเดี๋ยวม้ามันตกใจ มันถีบเราเข้าไปอีก ก็มาล็อกเราไว้ ก็เกือบถอดใจแต่เราถามลูก ลูกบอกว่าโอเคลูกโอเคเลย”
ต้องย้อนถามก่อนว่าทำไมถึงเลือกกีฬานี้ให้น้อง? “มันเกิดจากว่าเราไปคาเฟ่ แล้วเขาสนใจกับม้ามาก แล้วเราก็เลยคุยกับเขาว่า โอเคถ้าสมมติว่าจะเรียนไหม เขาบอกเรียนเราก็ลุยยาวตั้งแต่ตอนเขา 2 ขวบครึ่ง จนปีนี้จะ 6 ขวบแล้ว เราก็เลยเห็นแวว แล้วเรารู้สึกว่าอยากให้ลองแบบจริงจังสักครั้ง ไม่ได้ขี่เล่นๆ แล้วว่าเขายังชอบอยู่ไหม เพราะตอนที่เขาไปเรียนครั้งแรก เขาแบบจะให้แม่ซื้อม้า”
ให้ซื้อม้าเลยเหรอ? “เราบอกว่ายังก่อน ซื้อม้าเนี่ยมันไม่เหมือนกับรถนะลูก รถเราซื้อมันยังโอเค เราสามารถขาย 5 ปี – 6 ปีขายได้ ค่าบำรุงรักษารายปีเราก็ว่าเหนื่อยแล้วนะ แต่ม้าเนี่ยค่าม้าตัวหนึ่งค่าบำรุงรักษาต้องรายเดือนค่ะ ซื้อแล้วไม่จบไหนจะฉีดยา ขน ตอกเกือก (มีชีวิตด้วยนะ?) คือหนึ่งชีวิตด้วย เราเลยบอกว่าโอเคงั้นหนูลองจริงจังสักครั้ง ถ้าหนูไม่ชอบจริงๆ เราจะได้ไม่ต้องไปต่อ”
แสดงว่าถ้าเกิดว่าน้องจริงจังนี่คือจะซื้อม้าให้น้องเลย? “คิดว่าค่ะ (ถ้าได้ถ้วยแรกนี่ซื้อม้าเลยไหม?) ยังค่ะ ถ้วยแรกยังก่อนแม่ เอาสัก 10 ถ้วยก่อน ยืมม้าเขาไปขี่ก่อน (ให้เป็นแบบระดับประเทศอะไรแบบนี้ไปก่อนเนาะ?) ใช่ๆๆ ค่ะ (แสดงว่าอันนี้คือวางแผนไว้แล้วว่าอนาคตถ้าเกิดเอาดีทางด้านนี้คือปั้นเลย?) ใช่คิดว่านะ”
ถ้าเกิดว่าในอนาคต ลูกเราอาจเปลี่ยนไปชอบอย่างอื่นก็ได้? “ได้หมดๆ เพียงแต่ว่าทุกคนก็บอกว่าแพทกีฬาขี่ม้ามันอาจจะทำเงินไม่ได้นะอะไรอย่างงี้ ก็คงต้องดูกันอีกทีคือส่วนใหญ่กีฬาที่ทำเงินได้ก็จะเป็นฟุตบอล เทนนิสอะไรอย่างงั้น กีฬาแมสๆ เขาก็เหมือนแบบถ้าเราไปแข่ง ต่อให้เราได้เงินหรือได้ถ้วยมันก็จะไม่ครอบคลุมกับค่าใช้จ่ายอะไรอย่างงี้ เราก็เลยอะงั้นลองก่อนแล้วกัน”
เหมือนหากิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งให้ลูกทำ? “ใช่ค่ะ คือตอนแรกที่เราจับม้า อย่างหนึ่งที่เราสนับสนุนเลยคือเราอยากให้ลูกมีสมาธิมากขึ้น เพราะเขาค่อนข้างสมาธิสั้น พออยู่บนหลังม้าอะค่ะ ถ้าเขาไม่สนใจม้าปุ๊บ ม้าก็จะเตลิดออกนอกเส้นทาง เพราะงั้นพอเขาอยู่บนหลังม้าเขาจะมีสมาธิมาก แล้วเราก็รู้สึกว่าสิ่งนี้ทำให้ลูกเราอยู่บนหลังม้าได้เป็นชั่วโมง แบบสมาธิดีขึ้น แล้วก็พอเขาอยู่บนหลังม้าเขาสง่าค่ะ เราก็เลยลองๆ ดูเรื่องนี้ดู”
ตอนนี้ก็ดูมีสมาธิมากขึ้น? “มีสมาธิขึ้นค่ะ (ส่วนกีฬาอื่นมีมุมชอบอยู่ไหม?) ว่ายน้ำ เอาว่ายน้ำไหม (ถามลูก) ว่ายน้ำไหมครับลูก”
จะเป็นเกมเมอร์ไหม? “เกมเมอร์เขาอยากเป็นอยู่แล้ว ล่าสุดแพลนของเขาที่บอกแม่ว่า เมื่อเขาโตขึ้นเขาจะขอออกไปอยู่คนเดียว จะร้องไห้ (เขาบอกเหตุผลไหม?) เขาจะสร้างห้องเกมแล้วเขาก็จะสตรีมเกม อยู่กับแม่ก็สร้างได้นะลูก”
แล้วตอนนั้นสตันต์ไหม ตอนลูกบอกว่าอยากจะไปอยู่คนเดียว? “สตันต์เลย แล้วคำถามที่ออกจากปากแม่คือ แล้วแม่ล่ะเรส”
ถ้าอนาคตเขามาขอเราจริงๆ จังๆ ตอนเขาโตขึ้นหล่ะ? “คุยกันๆ ทุกอย่างแพทคุยกันหมด (ขอเวลาแม่ก่อนสักวัน 2 วัน เนอะ?) อะไรอย่างงี้ คุยกันค่ะ เราต้องคุยกันทุกเรื่อง เราเลี้ยงเองไง ความตั้งใจคือเลี้ยงเหมือนเพื่อนค่ะ”
น้องโตขึ้นทุกวัน เราต้องปรับตัวยังไงบ้าง? “เรียนรู้ไปด้วยกันหมดทุกอย่างเลยค่ะ เราก็เป็นแบบแม่วัยรุ่นเนอะ ก็คือเราเอาสมัยของคุณย่าที่เลี้ยงเรามาผสมกับเราในสมัยนี้ หมายความว่าสมัยนี้ทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไปจากตอนที่คุณย่าเลี้ยงเราใช่ไหมคะ เราก็เอามาผสมผสานกันว่าอะไรที่ได้อะไรที่ไม่ได้ สมัยก่อนทางเลือกมันไม่เยอะย่าเราเลี้ยงมามันมีไม่กี่อาชีพไงที่ทำเงินได้ในสมัยนั้น แต่พอวันนี้ลูกเราโตขึ้นมาในสมัยนี้ที่มันมีอะไรหลายอย่างที่ทำเงินได้ ไม่ต้องเป็นอาชีพที่แบบเหมือนสมัยก่อนมันก็ทำเงินได้ เราก็คิดว่าก็อะชิลชิลลูก แต่แพทจะบอกเสมอว่าแม่ไม่สปอยล์นะ เรสต้องช่วยเหลือตัวเองนะ เขาก็จะบอกว่าไม่เป็นไรผมมีเงินในกระปุกครับ ซึ่งก็เงินแม่ไงลูก (หัวเราะ)”
ทุกวันนี้จำกัดการเข้าถึงสื่อของน้องไหม? “จำกัดค่ะ คือแพทจะปล่อยให้เขาเล่น เพราะแพทว่าเขาเรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง ที่มาสอนแพทจากที่เขาเล่น แล้วเราจะไม่เคยเล่นได้ไง เราไลฟ์ขายของในติ๊กต็อก เราชวนเขาเต้นเราก็ต้องให้เขาเล่น แต่เราจะดูว่าแบบอันไหนที่เราฟังแล้วมันไม่ใช่ หรือดูแล้วเรารู้สึกมีคำหยาบหรืออะไรที่ไม่เหมาะสม เราก็บอกให้เขาเปลี่ยน เขาก็เปลี่ยนเลย แล้วเขาก็จะรู้ว่าอันนี้ได้อันนี้ไม่ได้”
เรื่องห้ามคงยากแม่ออนติ๊กต็อกใช่ไหม? “แม่อยู่ในโลกออนไลน์ตลอด เราอยู่ในโลกออนไลน์แล้วเราจะบอกลูกว่าไม่ได้ได้ยังไง เราต้องไปด้วยกัน”
น้องดูโตกว่าเด็กอื่นมากเลย กลัวว่าน้องจะเป็นวัยรุ่นก่อนวัยไหม? “ไม่ๆ เนี่ยเขายังเกาะแกะอย่างงี้อยู่”
ขอบคุณไอจี pat_napapa
ดูข่าวต้นฉบับ
ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7346428
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7346428
