ฟลุค AF พกความมั่นใจ สู่เวทีมิสทิฟฟานี่ หวังเข้ารอบ 30 คน เผย พ่อยอมรับตัวตน

หลังจากเวทีประกวดนางงามชื่อดังของประเทศไทย Miss Tiffany’s ได้มีประกาศผู้เข้ารอบแข่งขัน 60 คน ก็มีเหล่าเน็ตไอดอล และชาว LGBTQ+ หลาย ๆ คน ให้การตอบรับ และประกาศร่วมลงแข่งขันในปีนี้

ล่าสุด ฟลุค วชิรวิชญ์ หรือ ฟลุค AF ได้ให้สัมภาษณ์กับข่าวสดออนไลน์ถึงการลงประกวดมิสทิฟฟานี่ หลังจากเปลี่ยนลุกส์เป็นสาวสวย หน้าคม ที่ทำเอาหลายคนฮือฮา

ตอนนี้เข้ารอบไปถึงตอนไหนแล้ว? “ตอนนี้ฟลุคเข้ารอบ 60 ไฟนอลลิสต์ของมิสทิฟฟานี่ยูนิเวิร์ส 2022 แล้วค่ะ ที่ประกาศไปล่าสุดเลย ตอนนี้ก็กำลังเปิดโหวตอยู่ค่ะ”

การตัดสินใจลงประกวดคิดมานานขนาดไหน? “ต้องบอกว่าเป็นเวทีที่ฟลุคอยากลงตั้งแต่เด็กเลย ซึ่งก่อนหน้านี้ทุกคนจะเห็นฟลุคเป็นลุกส์ผมสั้น ตอนสมัย AF คือเราอยากเป็นเด็กผู้หญิงตั้งแต่เด็ก แต่มีความฝันที่ใหญ่มากคืออยากเป็นนักร้อง นักแสดง แต่เมื่อ 9-10 ปีที่แล้ว สังคมวงการบันเทิงยังไม่ได้เปิดรับ แบบให้เป็นเราแบบนี้ แล้วก็สามารถให้เป็นนักแสดง-นักร้องให้สำเร็จได้

ฟลุคก็เลยแต่งบอยไปก่อน เพื่อทำตามความฝันของตัวเองแล้วก็ครอบครัวด้วยค่ะ คุณพ่อก็เพิ่งยอมรับที่ฟลุคเป็นแบบนี้ได้เมื่อไม่นานมานี้ค่ะ หลังจากทำความฝันสำเร็จ ฟลุครู้สึกว่า ฟลุคโตพอที่จะใช้ชีวิตเป็นฟลุคอีกเวอร์ชั่นหนึ่งมานานพอแล้ว ก็เลือกที่จะก้าวผ่านเป็นตัวเองแบบเต็มตัว”

หลังจาก AF ตอนนั้นมาถึงตอนนี้ระหว่างนั้นทำอะไรมา? “ระหว่างนั้นฟลุคเล่นซีรีส์ทุกปีเลยค่ะ หลายคนอาจจะไม่ได้เห็น แต่ฟลุคมีผลงานมาเรื่อยๆ ต่อเนื่อง ตอนนั้นหลังจบ AF ใหม่ๆ ก็ยังผมสั้นอยู่ พอเรื่องที่ 4-5 ผมก็ยาวขึ้น จนล่าสุดพอมาอยูค่ายสตาร์ฮันเตอร์ก็ต้องขอบคุณผู้บริหารที่เปิดรับและให้โอกาสฟลุค ให้ฟลุคได้เป็นตัวเอง และบทบาทในการแสดงค่ะ”

รู้สึกอย่างไรบ้างทีาผ่านเข้ารอบ? “ตอนแรกที่ฟลุคกดไปสมัคร ฟลุคไม่ได้คาดหวังว่าฟลุคจะเข้ารอบ แล้วก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นกระแส ไม่ได้คิดว่าคนจะให้ความสนใจขนาดนี้ เพราะระหว่างทางฟลุคไม่เคยหายไปเลย ทุกคนอาจจะไม่เซอร์ไพรส์ว่าอยู่ดีๆ

ฟลุคเปลี่ยนมาเป็นผู้หญิง คือฟลุคค่อยๆ เปลี่ยนค่ะ ก็เลยไม่ได้คาดหวัง ไม่ได้คิด แต่พอเราลงภาพไปว่าเราตัดสินใจที่จะลงประกวด แล้วมีคนให้ความสนใจเยอะมาก ซัพพอร์ตเยอะมาก รู้สึกดีใจ ใจมันมาค่ะ อยากจะมีเป้าหมายที่เต็มที่ คืออยากจะได้มงกุฎ”

ลงประกวดก็คาดหวังใช่ไหม? “ใช่ค่ะ คือการอยากได้มงกุฎของฟลุคมันไม่ใช่แค่อยากได้แค่รางวัลชนะเลิศ คือจะบอกว่ายุคนี้ทุกคนเท่าเทียม แต่ว่าในการทำงานจริงๆ มันไม่ได้เท่าเทียมขนาดนั้น ฟลุคไม่ได้อยู่ในจุดที่เลือกได้ว่าจะไม่เล่นบทนี้ บทนี้ไม่เอา มันมีครั้งหนึ่งที่ฟลุคได้บทมา อ่านแล้วรู้สึกว่าชีวิตจริงแม้กระทั่งตัวฟลุค หรือคนรอบตัวฟลุคที่เป็น LGBT เขาไม่ได้ทำแบบนี้ เขาไม่ได้มีกริยาแบบนี้

แต่ด้วยการเขียนบทเพิ่มสีสันซีรีส์เรื่องนั้นๆ มันจึงจำเป็นที่จะต้องเป็นแบบนี้ ฟลุคเลยไปคุยกับคนเขียนบทและผู้บริหารว่าถ้าอยากจะทำให้มันเรียลลิสติก LGBTQ ส่วนมากหรือคนรอบตัวไม่ได้เป็นแบบนี้ แต่มันอยู่ในจุดที่ฟลุคไม่สามารถเลือกได้ ฟลุคอยากจะอยู่ในจุดที่ฟลุคเลือกได้ เปลี่ยนแปลงระดับสังคม LGBTQ ให้ทุกคนเห็นว่าจริงๆ เราก็เป็นแค่บุคคลคนหนึ่งที่เราสามารถดีได้ เลวได้ สนุกได้ไม่ผิดเลย นี่แหละค่ะที่อยากเปลี่ยน”

ถ้าได้มงกุฎเราก็จะมีเสียงที่ดังขึ้น? “ใช่ค่ะ”

การเตรียมตัวไปคว้ามงเป็นอย่างไรบ้าง? “การเตรียมตัวต้องขอกว่าหนักมากเพราะฟลุคไม่มีพื้นฐานเรื่องการเดินเลย คือฟลุค อาจจะเดินแบบมาก่อนในหน้าที่ที่ค่ายมอบให้ แต่ว่ามันไม่เหมือนกับการเดินบนเวทีนางงามค่ะ ฟลุคต้องฝึกเดินอยู่บนส้นสูงที่กว่าปกติ ซึ่งจริงๆ ฟลุคเป็นคนที่สูงอยู่แล้ว แต่เพื่อบุคลิกภาพที่ดี มันจะต้องเป็นส้นสูงที่สูงกว่าปกติ และฟลุคก็ออกกำลังกายหนักมาก เข้ายิมทุกวันเพราะเราเป็นคนโครงใหญ่ เพื่อให้สัดส่วนมันสมส่วน แล้วก็เป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด”

ฟีดแบ็กลุกส์ที่เปลี่ยนไปอย่างกันคนละคน? “แฟนคลับเยอะมาก คือหลายคนที่ไม่ได้ติดตามฟลุคมาตลอด อย่างการประกวดร้องเพลง ถ้ามันจบซีซั่นหนึ่ง ซีซั่นใหม่ก็อาจจะถูกลืม ไปได้ค่ะ หลายคนไม่ทราบจริงๆ ว่าฟลุคยังอยู่ในวงการบันเทิงอยู่ เขาก็ตกใจ ว่าโหเปลี่ยนไปเลย แทบจำไม่ได้ ถ้าไม่ได้บอก คิดว่าคนสองคนในภาพเนี่ย มีข่าวเรื่องเป็นแฟนกัน คอมเมนต์ส่วนมากไปในทิศทางที่ดีค่ะ คือเป็นผู้ชายก็ทำได้ดี เป็นผู้หญิงก็ทำได้ดี ไม่ได้แย่ค่ะ ส่งพลังบวกมากๆ เลยค่ะ”

ตอนนี้ได้รับแรงสนับสนุนอะไรบ้างในการประกวด? “หนึ่งเลยคนที่ส่งฟลุคเข้าประกวดคือผู้จัดการของน้องโยชิ รินรดา ดูแลตั้งแต่ช่างแต่งตัว ช่างแต่งหน้า ถ่ายรูปพอตเทรด แล้วก็มีทีมแก๊งเน็ตไอดอลพี่แตงโมแซ่บเวอร์ค่ะ ทางภาคอีสานก็ซัพพอร์ตภาพชุดสีแดงเซ็ตแรกที่ปล่อยไป ก็ถ้าฟลุคเข้ารอบ 30 คนในวันที่ 6 พ.ย. รอบออดิชั่นที่กำลังจะถึงนี้ ซึ่งปีนี้มันจะมาชาเลนจ์ ก็คือเป็นรอบโชว์บนเวทีมิสทิฟฟานี่เลย ทางสตาร์ฮันเตอร์ก็ซัพพอร์ตจะช่วยทำโชว์ให้ค่ะ”

จะประกาศผลวันไหนอีกบ้าง? “ตอนนี้ 60 คนไฟนอลลิสต์ ซึ่งก็จะต้องไปออดิชั่นต่อหน้ากรรมการ ไปเดิน ไปพูด ไปให้สัมภาษณ์ในวันที่ 6 พ.ย. นี้ที่เซ็นทรัลเวิลด์ แล้วภายในวันนั้นก็จะทราบผลเลยค่ะว่าใครจะได้เป็น 30 คนสุดท้าย ที่จะได้เดินในชุดราตรี ได้ทำกิจกรรมรอบชุดว่ายน้ำ ได้ถ่ายแบบกับ POEM ซึ่งจะมีกรรมการทรงคุณวุฒิ 3 ท่านที่เป็นโฮสคือ ปอย ตรีชฎา, ซินดี้ บิชอพ และลูกเกด เมทินี”

ระหว่างนี้มีคนโหวตเพื่อที่จะให้เราเข้ารอบ? “คือโหวต 30 คนแรกมาจากคณะกรรมการ ส่วนอีก 1 ที่มาจากการโหวต คือเป็นป็อบปูล่าร์โหวตค่ะ ก็รวมจะมี 31 คนที่จะได้เข้ารอบ”

คาดหวังแค่ไหน? “ฝากด้วยนะคะในการประกวดครั้งนี้ ตั้งใจมากๆ จริงๆนะคะ ถ้าใครได้ติดตามฟลุคจะรู้ฟลุคทุ่มเทมากๆ หลายคนจะเห็นว่าฟลุคฝึกทุกอย่างเลย ทั้งฝึก ทั้งเข้ายิม ฝึกเดิน และเตรียมตัวเรื่องกายภาพภายนอกด้วย ฝากเป็นกำลังใจให้ฟลุคด้วย ถ้าได้เข้ารอบ 30 คนก็ฝากกำลังใจให้ฟลุคและเพื่อนอีก 30 คนด้วยค่ะ”

ก่อนหน้านี้ไปประกวด AF พ่อไม่ปลื้มที่เป็นกะเทย? “คือจะบอกว่าพ่อกับแม่หย่ากันตั้งแต่ฟลุคเด็กๆ แล้วฟลุคดก็อยู่กับคุณแม่ ซึ่งหลังจากประกวด AF จบ ฟลุคแทบจะไม่ได้ติดต่อคุณพ่อเลย คือได้คุยกันบ้าง เจอกันบ้างบางครั้ง

ซึ่งตั้งแต่ฟลุคเริ่มไว้ผมยาวค่ะก็ไม่ได้เจอพ่อแม่ เพราะไม่กล้าที่จะไปเจอ ครั้งล่าสุดคือเป็นงานหมั้นของหลานที่บ้าน เราก็ตัดสินใจบอกกับที่บ้านว่าครั้งนี้ฟลุคจะไป ป๊าจะต้องรับได้ แล้วก็เป็นวันที่บ้านมาลูบหัวเรียกฟลุคว่าลูกสาวค่ะ”

น้ำตามาเลย? “น้ำตามาเลยค่ะตอนนี้ แต่เหตุผลหลังจบประกวดที่ฟลุค ต้องของคุณท่านผู้บริหาร AF ท่านเรียกฟลุคเข้าไปคุยก่อนที่จะเริ่มซีซั่นว่าฟลุคเป็นหรือเปล่า คือหมายถึงว่าถ้าเป็น LGBTQ อนุญาตให้เปิดเผยได้เต็มที่เลย ในบ้านคนก็จะเห็นว่าฟลุคไม่ได้ปิดอะไร แต่ก็จะเห็นว่าลุกส์เป็นผู้ชาย แค่นั้นเอง”

ตอนนั้นแฟนคลับรู้จักเราในญานะผู้ชาย? “ใช่ คือมันมันไม่ได้มีการประกาศ แต่การแสดงออก คำพูด และตอนนี้ก็ยอมรับที่ฟลุคเป็นฟลุคในวันนั้น”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7349944
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7349944