ไหนๆความ “ติ่งเฮียบอย” ขนาดนี้ก็เลยต้องชวนบราลี บิวตี้บล็อกเกอร์ แปลงร่างเป็น “นางแบบ” สายหวานนิดๆ เซ็กซี่หน่อยๆ เพื่อขึ้นปก “มาลัยไทยรัฐ” โดยมีชาคริต เล็กสาคร เป็นช่างภาพ จากนั้นสาวน้ำตาลได้เปิดใจกับการเป็นแฟนคลับของ บอย-ปกรณ์ ด้วยว่า “ตาลไม่เคยร่วมงานพี่บอย แต่เป็นติ่งพี่บอยมาก่อน สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ตอนนั้นชอบมาก”

น้ำตาลย้อนความหลังถึงความเป็น “ติ่ง” ตามกรี๊ดพี่บอยอยู่นาน จนได้เจอตัวเป็นๆ ก็ยิ่งปลื้มหนักไปอีก!! เล่าว่า…“ตอนนั้นพี่บอยเขาเล่นละครกับพี่มาร์กี้ เรื่องรอยมาร ดูแล้วอิน คลั่ง เชียร์อยากให้เป็นแฟน จนกระทั่งพี่บอยมีงานอีเวนต์ที่เชียงใหม่ แล้วตาลเรียนอยู่ มช. ก็เลยไปกับเพื่อน มันต้องซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อได้ขึ้นไปถ่ายรูปแต่เงินนักศึกษาของพวกเรามีน้อย ซื้อได้อันนึงใครจะไปตกลงเพื่อนได้ไปถ่ายรูปคู่กับเค้า รูปนั้นก็ยังอยู่ ตอนที่ตาลเข้าวงการแรกๆมีพี่ไปสัมภาษณ์เพื่อนว่าตาลชอบใคร? เพื่อนเลยบอกว่าเป็นพี่บอย เค้าก็เลยโทร.มาเซอร์ไพรส์ในรายการ พอเจอตัวจริงเราก็จะนิ่งๆใส่เค้าหน่อย จนพี่บอยรู้สึกว่าเขาชอบจริงๆเหรอ ทำไมดูเฉย เวลาเราเจอใครที่ชอบอย่างเจอพี่เคนแรกๆจะกรี๊ดในใจ นิ่งๆ ไม่กล้าทำอะไร เรียกว่าติ่งคอมพลีต (หัวเราะ)”

พอร่วมงานพี่บอยเป็นอย่างไรบ้าง “สนุกมากค่ะ พี่บอยเป็นคนหัวไว ตาลเลยได้วิทยายุทธตรงนี้จากพี่เค้าด้วย แต่ก็ต้องตั้งสติให้ดี ผกก.เรื่องนี้ต้องเก่งมากๆ ต้องพยายามตบให้อยู่ในเส้นเรื่องเดิม พวกเราเป็นสายไหล ขายก่อน ซื้อไม่ซื้อเดี๋ยวค่อยว่ากัน เป็นแก๊งนอกบท บทมี 2-3 บรรทัดแต่สามารถบวกให้มันเป็น 1 หน้ากระดาษได้ มีของมาขายผู้กำกับตลอดและแฮปปี้ที่ได้ผู้กำกับไม่จำกัดการแสดง เขาจะบอกกลับมาๆ แค่นี้พอ ผู้กำกับเป็นสายครีเอทีฟอยู่แล้ว จัดหนัก จัดเต็ม กองนี้โชคดีไม่เจอใครไม่ทำการบ้าน ไม่มีใครมาเอาหน้าเชต เป็นตัวละครพร้อมรับเต็มที่”

ขนาดมีสกิลบู๊มาพอตัว แต่พอเล่น “สายลับลิปกลอส” สาวน้ำตาล ยอมรับหนักหน่วงไม่เบาเหมือนกัน…“ช่วงหลังๆบู๊สนั่นกระจาย ขุดทุกสกิลมาใช้ ผู้กำกับเน้นเลยว่าบู๊ยังไงก็แล้วแต่ภาพต้องออกมาสวย จะมีท่ายากจะเป็นแชมป์หมุนกระเป๋า แทบทุกฉากจะมีฉากหมุนกระเป๋า แม้กับท่ากระโดด พี่เอ ผู้กำกับ ต้องเข้า รพ. เพราะตาลเลย มีซีนนึงออกแบบว่าเราจะต้องกระโดดลงมาแล้วต่อสู้กัน ท่าต้องสวยแต่ตาลใส่ส้นสูง 4 นิ้ว ตาลขอท่าชัวร์ พี่เอเลยสาธิตทำให้ดู พอกระโดดลงมาหัวเข่าพับ เอาเข่าลง เข้า รพ.เลย พอท่านี้อันตรายพี่เอก็จะเปลี่ยนท่า เซฟนักแสดงด้วยการเล่นให้ดูก่อน เราก็เลยรอดค่ะ”

เมื่อถามว่านักแสดงแต่ละคนในเรื่องนี้หัวจะปวดกับใครมากที่สุด สาวน้ำตาลตอบทันทีว่าเป็นพี่ปั้นจั่น-ปรมะ นั่นเอง ยกให้เป็นหัวโจกเพราะเป็นคนขี้แกล้งตลอดๆ แกล้งทุกคนอีกต่างหาก พร้อมเม้าท์ถึงพี่ชายสุดเลิฟคนนี้ด้วยว่า “เห็นพี่ปั้น เป็นคนอย่างนั้นแต่จริงๆ เป็นคนละเอียดอ่อนนะ ดูเล็บมือ เล็บเท้าผู้หญิง”

ตาลล่ะโดนส่องอะไรมั้ย “โดนส่องเหมือนกันค่ะ ตามเท้า นิ้วเท้าเธอไม่เรียวเลยนะ นั่นโน่นนี่ จะทักจนเวลาใครเจอพี่ปั้นจะเก็บเท้าไว้ และเป็นคนชอบดูมือ อ้าว! ทำไมไม่ทำเล็บเลย ไม่ตัดเล็บเหรอ หรือทักเรื่องหู คนนี้หูสวย หูสะอาดนะ พี่ปั้นเป็นคนดูละเอียด แต่ เรารู้สึก โอเค เราพอผ่าน (หัวเราะ)”

แสดงว่าเจอหน้าพี่ปั้นชักมือชักเท้าหนีสิ “ใช่ค่ะ เขาเคยทักว่าเท้าเธอเป็นปะการังเลย เคยโดนแซวเพราะใส่รองเท้าแตะนิ้วเท้ามันบานๆ แต่เวลามีสาวๆ สวยๆเข้าฉากพี่ปั้นจะโวยให้ตาลกับปราง-กัญญ์ณรัณ หลบไป เขาจะวี้ดวิ้วสาว (หัวเราะ)”

งานก็ปัง ความรักก็แฮปปี้เพราะเป็นรักมั่นคง!! คบกับไผ่-พาทิศ แฟนหนุ่ม มา 10 ปี ขยันสาดหวานไม่มีพร่อง! แถมวันเกิดของหนุ่มไผ่ที่ผ่านมา ก็เพิ่งจัดทริปเที่ยวพัทยาทำทะเลหวานไปเลย!! ตาลเล่าวันวานให้ฟังว่า “ค่ะ ไปเที่ยวพัทยา ไปใกล้ๆ เป็นพี่ไผ่รีเควส ก็มีเพื่อนๆไปด้วยเพราะก่อนหน้านี้พี่ไผ่ก็ถ่ายละครด้วย 2 เรื่องเหมือนกัน แทบไม่ได้เจอกันเลย ทริปก่อนหน้าตาลไปกับณิชาไปกระบี่ ก็เป็นแก๊งสาวๆ ไม่ได้มีเค้าไปด้วย ครั้งนี้ถือโอกาสไปเที่ยวแค่ 2 วันเอง ตอนนั้นพอไปถึงเป็นช่วงพายุโนรู ที่จริงเขาเตรียมเรือ ปรากฏว่าเรือไม่ได้ออกแถม 2 วันที่ไปเที่ยวแดดเปรี้ยงมากไม่มีฝนเลย”

แล้วตาลให้ของขวัญพี่ไผ่เป็นของอะไรเหรอ “ตาลให้คอมพิวเตอร์ ใครๆหลายคน จะเห็นว่าพี่ไผ่เริ่มเล่นเกมออนไลน์กับกลุ่มเพื่อนเค้า ก่อนหน้านี้เขาชอบทำยูทูบ ช่วงโควิดไปไหนกันไม่ได้ ช่วงนั้นพี่ไผ่ก็เริ่มเล่นเกมแล้ว เห็นเขาชอบเล่นเกมเลยซื้อคอมพ์ให้เพราะหมดยุคเซอร์ไพรส์แล้ว เคยซื้อกล้องโกโปรให้เค้าเจอเซอร์ไพรส์กว่าพอเขาแกะปุ๊บหน้าเจื่อนเลย พี่เค้าก็เพิ่งซื้อมาอาทิตย์ที่แล้วแต่ไม่ได้เล่าให้ตาลฟัง รุ่นเดียวกัน สีเดียวกัน เขาเลยขายของเค้าไป เขาเก็บของเราไว้ ก็โอเคอยู่ ตอนนี้ก็เลยจะไม่เซอร์ไพรส์กันแล้วจะเป็นแบบนี้แทน ให้ในสิ่งที่เขาได้ใช้จริงๆ”

ไฟเขียวซื้อคอมพ์ให้ขนาดนี้ไม่กลัวเขาติดเกมจนลืมเราเหรอ “ที่จริงตาลพยายามสนับสนุนในสิ่งที่เค้าชอบมากที่สุด เรามีความรู้สึกว่าก่อนหน้านี้เขาก็สนับสนุนเราทุกทิศทุกทาง อะไรที่เราทำให้เขาได้ก็อยากทำ ตอนที่ตาลทำสตูฯ บ้านเค้ามารับเหมาก่อสร้างให้ ช่วยเซฟค่าใช้จ่ายเราได้และมันกลายเป็นอาชีพที่ทำให้เรามีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น ถ้าเขาอยากทำอะไร ตาลก็อยากทำให้ แล้วเขาจะได้อยู่บ้านด้วยไง ไม่ต้องเข้าป่า (หัวเราะ) ตาลซื้อของให้เค้าทุกปีจะมีความคิดว่ามีอะไรเอื้อให้ตัวเราบ้าง (ยิ้ม) ตอนนั้นซื้อกล้องก็คิดว่าเขาจะมาถ่ายให้หนู ถัดมาอีกปีซื้อเลนส์ให้เค้า เอาเลนส์ที่ถ่ายหนูแล้วออกมาสวยที่สุด เขาดีใจซื้อเลนส์ให้แต่ปลายทางคือมาถ่ายรูปให้ตาล พอพี่ไผ่ได้คอมพ์เขาดีใจมาก เอาไปตัดคลิปลงยูทูบได้ ไม่ได้แค่เล่นเกมอย่างเดียว เป็นอะไรที่ดี คือไม่ค่อยอยากให้เขาเข้าป่าในช่วงหน้าฝน เขาไม่ค่อยกลัวอะไรเลย หลังๆเวลาไปเที่ยวตาลก็อยากชิลๆบ้าง กิจกรรมลดๆลงมาหน่อย ได้พักจริงๆ แต่เขาจะคิดกิจกรรมเยอะมาก แต่ตัวเราอยากไปพักผ่อน เวลาไปต่างประเทศ เห็นภาพตาลสวยมากนั่นคือเขาลากตาลออกไปหมดเลยดูแสงแดดตอนเช้าทุกวัน พลังม้ามาก พี่ไผ่ตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น ไปเที่ยวกับเค้าต้องเป็นสายเอนเนอร์จี้เยอะๆ ปลุกพลังเหลือล้นค่ะ”.

เสื้อผ้า : NICHP, Vela de
ช่างภาพ : ชาคริต เล็กสาคร