ชีวิตยิ่งกว่าละคร เจมี่ บูเฮอร์ เผยโดนใส่ร้ายขายตัว จนต้องออกจากวงการ


ให้คะแนน


แชร์

เป็นอดีตนักแสดงที่มีผลงานในวงการบันเทิงมามากมาย สำหรับ เจมี่ บูเฮอร์ ที่โด่งดังจากละครหลายเรื่อง อาทิ เงาอโศก, เงาปริศนา, คนตาทิพย์, คุณแจ๋วกะเพราไก่ คุณชายไข่ดาว, ห้องหุ่น, เจ้าสาวกลัวฝน, รหัสหัวใจ เป็นต้น ซึ่งตอนนี้เธอได้เฟดตัวเองออกจากวงการบันเทิงไปหลายปีแล้ว ซึ่งที่ผ่านมา เจมี่ เองก็มีช่อง TikTok เป็นของตัวเอง และมีหลายคนติดตามกันเป็นจำนวนมาก 

ล่าสุด เจมี่ ก็ได้ออกมาเปิดใจทาง TikTok ซึ่ง เจมี่ ได้เล่าถึงสาเหตุที่เลิกเล่นละคร เจมี่ เล่าว่า คลิปนี้เจมี่จะมาบอกนะคะว่าทำไมถึงเลิกเล่นละคร คือว่ามันเกิดเหตุการณ์ที่ใหญ่หลวงเกิดขึ้นสำหรับเจมี่นะคะ นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ก็คือเจมี่ไปร่วมงานกับบริษัทนึง เขาก็สนับสนุนเราเพื่อประโยชน์ของนักแสดงของเขา มันก็ดูเป็นการสมประโยชน์ เจมี่ก็ทำงานให้กับเขาอย่างเต็มที่

มีช่วงหนึ่งทำงานในวงการมันก็ไม่มีใครทำงานกับใครได้ตลอด พอเจมี่เปลี่ยนไปร่วมงานกับที่อื่น ซึ่งเจมี่ถ่ายละครอยู่ที่สุขุมวิท แล้วผู้หญิงคนนี้เค้าก็มากับสามี แล้วไปนั่งคุยกับผู้จัดละครใส่ร้ายเจมี่ ดิสเครดิตทำให้ผู้จัดคนนี้เค้าเกลียดเจมี่ เพราะว่าเค้ารู้สึกว่าแบรนดิ้งความเป็นเจมี่ บูเฮอร์ ชื่อนี้มันเป็นสิทธิของเขา ถ้าเจมี่ไม่ทำงานกับเขา ก็ไม่มีสิทธิ์ทำงานกับคนอื่นได้

ซึ่งเจมี่มองว่าแอตติจูดแบบนี้มันคืออันธพาล และไม่อยากยุ่งกับคนแบบนี้ แต่พอยิ่งหนีเขาก็ยิ่งทำร้ายเรา เพื่อที่จะให้เราซมซานไปทำงานกับใครไม่ได้ เลยต้องกลับไปหาเขา โดยเฉพาะเหตุการณ์งานเลี้ยงของช่อง ที่เขาไปในโต๊ะที่มีผู้บริหารช่องใหญ่ๆ และพูดให้ร้ายเราสารพัดว่า เจมี่ขายบริการ ทำงานไซด์ไลน์

เขาพูดว่า เชื่อเขาสิเขาไปเช็กมาแล้วว่าเจมี่ทำงานแบบนี้จริงๆ และส่งเด็กไปขายบริการที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่ง ณ ตอนนั้นไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่ไม่เชื่อเขา แถมทุกวันนี้ เจมี่ มาทำ TikTok เขาก็ยังตามมาส่อง ส่วนในวงการบันเทิงถ้าเจมี่ไปเล่นละครที่ไหนเขาจะยกหูหาทีมงานและใส่ร้ายเจมี่ด้วยเรื่องที่เป็นเท็จและปราศจากหลักฐานใดๆ ทั้งสิ้น

เจมี่ ยังได้ทิ้งท้ายฝากถึงบุคคลดังกล่าวว่า “ฉันจะบอกให้ เธอก็แค่คนกระจอกๆ คนหนึ่งที่เอาบารมีคนอื่นมาใช้อย่างสุรุ่ยสุร่าย คนที่เขาอยู่สูงจริงๆ เขาไม่มีพฤติกรรมแบบนี้หรอก เขาต้องบริหารจัดการให้พาวเวอร์ของเขามันดำรงอยู่ และไม่ใช่วิธีการที่เธอทำอย่างนี้ ฉันไม่ฟาดเธอเล็กๆ หรอกนะ มันไม่สมมง

ฟาดก็ฟาดตอนที่อาวุธครบมือไม่ดีกว่าเหรอ เตรียมหาประเทศสำรองไว้บ้างนะคะ เพราะคนอย่างเธอติดคุกไปก็เปล่าประโยชน์ เปลืองข้าว เปลืองน้ำเปล่าๆ ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะก็มีรองรับอยู่แล้ว มาเป็นโสเภณีอย่างที่เธอเป็นอย่างทุกวันนี้ คงต้องทำอาชีพเอาเด็กไปขายบริการอย่างที่เธอใส่ร้ายฉันนั่นแหละ มีหลักฐานตรงไหนบ้างว่าฉันทำอาชีพนี้ ใครเป็นคนซื้อคะ หลักฐานโอนก็ต้องมีนะคะว่าใครเป็นคนติดต่อ มันหาง่ายมากเลยถ้าเกิดว่าฉันทำแบบนั้นจริงๆ

จุดประสงค์ของเธอก็รู้อยู่ว่าเธอทำแบบนั้นเพราะอะไร เพราะเธออิจฉาที่ฉันเอาชื่อเสียงที่ฉันสร้างขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของฉัน กับการให้โอกาสของคนอีกหลายคนในวงการบันเทิง เขาให้โอกาสฉัน แล้วฉันก็สร้างมันด้วยวิริยอุตสาหะของฉัน ฉันทำตรงนี้เพราะว่าฉันเป็นศิลปินที่อุทิศร่างกายเพื่องานศิลปะ

คนพวกนี้จะมีศักดิ์ศรีซึ่งเป็นคำที่เธอไม่รู้จัก เพราะคนอย่างเธอเขาเรียกว่าโสเภณี ที่ทำทุกอย่างได้เพราะเงิน ฝากบอกสามีด้วยนะคะ เราไม่เตือน ไม่ตำหนิ ไม่แก้ไขสิ่งที่ภรรยาไประรานผู้อื่น ระวังเขาจะหาว่าเราสมรู้ร่วมคิด ปลามันเน่าตัวเดียวระวังมันเน่าไปทั้งตระกูล”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2606050
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2606050