ปมในใจ แจม รชตะ โล่งได้ปลดหนี้ให้ย่า ลุยทำบ้านใหม่ทันที สานฝันต่อเป็นนักร้อง


ให้คะแนน


แชร์

หลังจากแจ้งเกิดจากผลงานสุดปังจากบท จิว ในละครเรื่องคุณชาย สำหรับนักแสดงหนุ่ม แจม รชตะ หัมพานันท์ ก็กลายเป็นที่รู้จักของแฟนๆ เป็นจำนวนมาก และชีวิตเปลี่ยนไปทันทีงานเข้ารัวๆ ถือเป็นช่วงที่เหมาะแก่การกอบโกยทรัพย์เข้ากระเป๋ารัวๆ พร้อมทำฝันให้ครอบครัวและตัวเองได้สำเร็จ

ล่าสุดวันนี้ หนุ่ม แจม รชตะ ได้มาร่วมงานจับรางวัลทายผลฟุตบอลโลก 2022 ทางไปรษณียบัตร และไปรษณียบัตรออนไลน์ ภายใต้แคมเปญ “เชียร์บอลให้มัน เฮลั่นรับโชค” ซึ่งมีขึ้นที่โกดัง 7 สำนักงานใหญ่ไทยรัฐกรุ๊ป พร้อมกับออกมาตอบคำถามถึงประเด็นนี้ด้วย

ล่าสุดปลดหนี้ที่บ้านได้แล้ว

“ดีใจครับ เราไม่รู้ว่าหนี้จะเยอะขนาดนั้นเหมือนกันครับ แล้วพอย่าบอกว่าจำนวนมันเท่านั้น เท่านี้นะ เราก็เลยต้องเคลียร์ให้หมดก่อนที่จะไปทำอย่างอื่น ก็โล่งไปเปราะนึง ก็ยังเหลืออีกเป้าหมายนึงคือเรื่องบ้านครับ กำลังทำอยู่ตอนนี้ เมื่อวานนี้เพิ่งอัปเดต ก็โอเคเลย สวยเลย”

สะสมเงินเพื่อล้างหนี้มาตั้งแต่ตอนไหน

“ตั้งแต่สมัยเรียนเลยครับ ตั้งแต่อยู่มัธยม เพราะช่วงนั้นปู่ผมเสีย เสาหลักก็หายไป ก็ใช้เงินปู่มาจนถึงปี 1 แล้วย่าเขาก็ไปหยิบยืมมาให้เราเรียนบ้าง แต่โชคดีหน่อยที่พ่อเป็นข้าราชการ ก็เลยเบิกค่าเทอมได้ แต่เรื่องค่ากินค่าอยู่อะไรต่างๆ ยังไงมันก็ต้องมี และรายได้เราก็ไม่ได้เยอะ ตอนนั้นผมก็มีรับจ๊อบบ้าง ก็ไม่พอ”

แต่เรารู้เรื่องตั้งแต่แรกแล้วใช่มั้ย

“คือผมรู้ว่าย่าเป็นหนี้ แต่ไม่รู้ว่าหนี้เยอะขนาดไหน แต่พอย่าบอกว่าหลักแสนคือมันเยอะมากเลยนะ แต่ก่อนเราทำงานเงินเก็บหลักแสนผมใช้ 1-2 ปีเลย แต่ว่าตอนนี้พอใช้ไปหมดก็โล่งแล้ว”

ตอนนี้ความรู้สึกคุณย่าเป็นยังไงบ้าง

“ตอนแรกย่าไม่รู้ ย่ารู้แค่นี้ว่าผมจะทำแค่บ้านให้ เพราะจำนวนในการรีโนเวทบ้านมันก็เยอะพอสมควร และพอไปรู้เรื่องหนี้อีกก็เยอะเหมือนกัน ผมก็เลยต้องวางแผนการใช้ว่าจะทำส่วนไหนก่อน มันก็เลยไปสรุปกันว่าไปใช้หนี้ก่อนแล้วกัน แล้วค่อยมาทำบ้านกันต่อ”

มันทำให้เรารู้สึกว่าช่วงชีวิตเราหายไปมั้ย

“ไม่นะ ผมรู้สึกว่าเวลาเราปลดหนี้ได้ หรือเราได้เห็นสิ่งที่เราได้ปลดล็อกปมของเราไปแล้ว มันมีความสุขในอีกแบบนึงเลย ถามว่าชีวิตส่วนตัวมันหายไปมั้ย เขาเรียกว่าระวังตัวมากขึ้นมากกว่า เวลาจะทำอะไรต้องคิดเยอะขึ้น เราไม่รู้ว่าคนอื่นเขาอาจจะมองเราอยู่ในช่วงจังหวะนั้นก็ได้ เราไม่ทันได้คิด ถ้าเป็นเมื่อไหร่ผมอยากจะทำอะไรก็ทำ อยากเดินก็เดิน อยากพูดอะไรก็พูด แต่ตอนนี้เราต้องระวังแล้วว่าเราจะไปชนคนอื่นหรือเปล่า ชนนิดนึงก็ถือว่าคุณไม่มีสติในการใช้ชีวิตมันก็ผิดแล้ว”

บ้านไปถึงไหนแล้ว

“เมื่อวานนี้ดูไปน่าจะเลย 50% แล้วครับ ก็เหลือติดฝ้า ทาสี เพราะย่าไม่ทุบโครงสร้างเดิม ใจจริงผมอยากทุบแล้วทำใหม่ แต่ปู่ทำหลังนี้ไว้ ย่าเขาก็เลยเป็นความทรงจำ ตั้ง 20 ปีแล้วเขาก็ไม่อยากทุบ”

ตอนนี้ก็เลยต้องทำงานเก็บเงินรัวๆ เลยใช่มั้ย จะมีงานเพลงด้วย

“อันดับแรกเลยคืองานวันเกิดครับ งานใหญ่เลย วันที่ 8 ก.พ. ชื่อว่า คลูแจม เบิร์ธเดย์ แชริตี้ ก็เชิญชวนทุกคนมาทำบุญด้วยกัน เป็นการช่วยกันสมทบทุนและเอาทุนตรงนี้ไปให้กับเด็กโรงเรียนที่บ้านเกิดผม ที่ผมเรียนตอนประถม ก็เอาไปให้น้องๆ เป็นทุนการศึกษา และโปรเจกต์ต่อไปรับรองว่าเด็ดแน่นอน เอาเป็นว่าพูดเยอะไม่ได้ ต้องรอฟัง”

เป็นความฝันตั้งแต่เด็กเลยมั้ยเรื่องร้องเพลง

“ไม่ๆ ตอนเด็กๆ ไม่กล้าร้องเพลงครับ คิดว่าตัวเองเสียงไม่ดี ไม่เพราะ ร้องเพลงไม่ได้ ก็จะเล่นแต่กีตาร์อย่างเดียว เวลาไปสอนหนังสือก็จะบอกว่าครูเล่นได้นะ แต่อย่าให้ครูร้อง (ยิ้ม) แล้วพอเรามาร้องเพลงตอนออกอีเวนต์ ก็เลยรู้สึกว่าความสุขของเราในการร้องเพลงมันดีจัง อยากจะมีเพลงของตัวเองและร้องให้ทุกคนฟังจังว่ามันจะรู้สึกขนาดไหน ก็หวังว่าทุกคนจะชอบนะครับ (ยิ้ม) จริงๆ ซิงเกิลนี้ก็น่ารักๆ ฟังสบายๆ แนวๆ อารมณ์ต้นปี แต่จริงๆ ในหัวผมอยากทำเป็นแนวเศร้าๆ ผมชอบฟังเพลงเศร้า แต่มันก็ไม่ค่อยเข้ากับเทศกาลตอนนี้เท่าไร ก็เลยขอเป็นเพลงสนุกๆ ก่อน ก็ร่วมกับพี่ฟิล์ม (ธนภัทร กาวิละ) ด้วยครับ”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2617475
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2617475