Paper Planes ลดรับงานผับ ห่วงเด็กตามไปดู เพลงใหม่งดหยาบเพื่อFCฟันน้ำนม


ให้คะแนน


แชร์

Paper Planes ลดรับงานในผับ ห่วงเด็กตามไปดู แพลนรับงานกลางวันมากขึ้น ปล่อยเพลงใหม่ ลดคำหยาบ ให้เหมาะสมกับกลุ่มแฟนคลับฟันน้ำนม

ฮอตไม่หยุดฉุดไม่อยู่ สำหรับวง Paper Planes (เปเปอร์ เพลนส์) โดย 2 หนุ่ม ฮาย ธันวา เกตุสุวรรณ และ เซน นครินทร์ ขุนภักดี เจ้าของเพลงสุดฮิตทั่วบ้านทั่วเมืองในยุคนี้ “ทรงอย่างแบด” กลายเป็นขวัญใจวัยรุ่นฟันน้ำนมไปแล้ว ล่าสุด เปิดตัวซิงเกิลใหม่ “ชัดเจน” โดยใช้พื้นที่สยามดิสคัฟเวอรี่จัดงานแถลงข่าว โชว์มินิคอนเสิร์ตสุดมันส์ และจัดนิทรรศการเกี่ยวกับความรัก

โดย 2 หนุ่ม “ฮาย-เซน” ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการทำซิงเกิลใหม่ ชัดเจน ซึ่งทำเสร็จก่อนเพลง ทรงอย่างแบด แล้ว หลังได้รับกระแสจากกลุ่มแฟนคลับวัยฟันน้ำนม ทำให้ต้องมีการปรับเนื้อท่อนแร็พของเพลงใหม่ ลดคำหยาบ ให้เหมาะสมกับกลุ่มแฟนเพลงมากขึ้น อีกทั้งช่วงนี้พยายามลดรับงานในผับ แล้วหันมารับงานในช่วงกลางวันแทน เพื่อหลีกเลี่ยงการที่ผู้ปกครองพาเด็กๆ มาดูคอนเสิร์ตในสถานที่ที่อาจไม่เหมาะสมกับวัยของเด็ก

ฮาย : “ตื่นเต้นมากครับ เปิดตัวเพลงใหม่ ชัดเจน ในพื้นที่สยามแบบนี้ ยังรู้สึกเลยว่ามันเกิดขึ้นกับพวกเราแล้วเหรอ เมื่อวานยังรู้สึกว่าเรายังไม่ได้เป็นที่รู้จักขนาดนั้น ก็ไม่คิดว่าตัวเองมีชื่อเสียงประสบความสำเร็จ ผมยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม ปกติเมื่อก่อนเราออกมาทานข้าวห้างสรรพสินค้า พอวันนี้มาเจอน้องๆ คุณพ่อคุณแม่น้องๆ เริ่มมาขอถ่ายรูป ก็เริ่มรู้สึกว่าทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว เราไม่ทันได้ตั้งตัวขนาดนั้น ก็ขอบคุณมากครับ เดี๋ยวนี้ออกไปข้างนอกก็ต้องปรับการแต่งตัว มีแต่งหน้าด้วย แต่ก็เป็นความยินดีเพราะเรารู้ว่ามีคนชื่นชอบผลงานเราจริงๆ บางครั้งน้องๆ ไม่ได้ถ่ายรูปแค่วิ่งเข้ามากอด วาดรูปมาให้ ตอนนี้รู้สึกว่าออกไปข้างนอก รู้สึกเหมือนเราเจอญาติมากขึ้น เพราะฉะนั้นการวางตัวก็เปลี่ยน แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องยากอะไร”

กดดันไหม น้องๆ มองเราเป็นไอดอล แรงบันดาลใจ? ฮาย : ไม่ถึงกับกดดันแต่มีเปลี่ยนวิธีการวางตัวบ้าง เช่น เลี่ยงพูดคำหยาบ วันนั้นเซนพูดกับผม เฮ้ย มึง น้องหันมา พี่พูดมึงเหรอครับ เราก็อ๋อใช่ครับ ลืมครับ (หัวเราะ) เพราะปกติเราพูดกันแบบนี้อยู่แล้ว ซึ่งมันก็ฝึกตัวพวกเราไปด้วย เรามีความระมัดระวังเรื่องกาลเทศะมากขึ้น เพราะเราก็เป็นวัยรุ่นปกติทั่วไป”

ทรงอย่างแบด กลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กๆ แล้วเพลงใหม่ ชัดเจน ต้องมีการปรับเนื้อหาให้เหมาะสมกับเด็กๆ ด้วยไหม? ฮาย : ต้องบอกก่อนว่าเพลงชัดเจน ทำเสร็จก่อนทรงอย่างแบด เป็นเพลงที่ทำไว้อยู่แล้ว แต่ว่า ณ ตอนนั้นเราอินกับทรงอย่างแบดมากๆ เพราะเรากระโดดโลดเต้นกันมาก เราก็เลยเอาทรงอย่างแบดมาปล่อยก่อน พอมาเพลง ชัดเจน เรามองว่าถึงเวลาเหมาะสมที่จะปล่อยแล้ว หลังจากที่เราสนุกกันแล้วก็คงจะมีเพลงเศร้าบ้างแหละ เราก็เลยเอาเพลงชัดเจนมาปล่อย มันถูกทำไว้แล้ว แน่นอนไม่ได้ปรับตามเด็กๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ปรับเรื่องของคำหยาบในท่อนภาษาอังกฤษ”

การผลิตงานของพวกเราต้องเปลี่ยนไปด้วยไหม? ฮาย : ใช่ครับ เปลี่ยนไปบางส่วน เคยคุยกันว่าสิ่งที่เด็กๆ ชอบ ถ้าเขาชอบอะไรเขาจะไม่สนที่มาเลย เขาจะไม่อคติ เขาชอบเราที่ความเป็นเรา ณ ตอนที่เราสื่อสารกับเด็กๆ ได้มันมาจากทรงอย่างแบด ซึ่งมันเป็นเพลงร็อกมากๆ สำหรับพวกเรา เราเลยรู้สึกว่าเราก็ยังคงทำแบบเดิมต่อไป เพียงแต่ว่าทำให้ได้เอ็นเนอร์จี้ที่มันดีแบบเพลงทรงอย่างแบด มันก็น่าจะสื่อสารกับทุกคนได้

แล้วเด็กๆ ในเจนนี้ไม่ยึดติดกับอะไรแล้วทั้งสิ้น เขาสามารถพบเจอกับคนหลากหลายได้แล้ว เจอคนที่มีรอยสักได้ เขารู้สึกว่าเพลงร็อกการแหกปากเป็นเรื่องธรรมดาแล้ว ที่เหลือเป็นเรื่องของพวกเรา พี่ ผู้ปกครองที่จะดูแลน้องๆ ค่อยๆ ประคองเขา

ตอนนี้เป็นห่วงเรื่องของงานโชว์ครับ พวกเราพอรู้ว่ามีน้องๆ อยากดูพวกเรา เราก็เริ่มจะแพลนรับงานกลางวันเพื่อให้น้องๆ มาเจอเราในห้างสรรพสินค้า แต่คราวนี้มันจะมีบ้างที่น้องๆ อาจจะต้องไปผับ ก็อยากให้คุณพ่อคุณแม่ช่วยดูแลน้องๆ เพราะมันจะมีเรื่องของควันบุหรี่ เรื่องเสียง

มียกเลิกงานกลางคืนไหม เพราะกลัวว่าเด็กๆ จะเข้าไปดูในผับด้วย? ฮาย : มีคุยกันจริงจังเลยครับ การที่เด็กๆ มาดูพวกเราเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ราเองไม่อยากให้เด็กๆ มาดูแล้วเกิดผลเสียกับร่างกายเขา เรื่องสุขภาพการนอน แล้วการไม่ยอมไปโรงเรียนในวันรุ่งขึ้น เรื่องความรับผิดชอบ เรื่องเสียง อบายมุขต่างๆ ผมรู้สึกว่าถ้ามันเป็นอย่างนั้นผมจะเสียใจ ผมก็เลยซีเรียส ถ้าวันนี้เรารับงานกลางวันแล้ว อยากให้คุณพ่อคุณแม่พาน้องไปดูงานกลางวันดีกว่า

โดนแซว ทรงอย่างแบด กลายเป็นทรงพ่อลูกอ่อนไปแล้ว อุ้มน้องๆ โชว์บนเวทีด้วย? ฮาย : มีอยู่ประเด็นหนึ่ง คุณแม่ยังสาวมาคอมเมนต์ในไอจีของผมว่า เมื่อไหร่จะมาเจอลูกๆ ของเรา แว้บแรกผมอ่าน เฮ้ย เราไปไข่ทิ้งไว้ตรงไหน ไม่ใช่ หมายถึงว่าลูกของเราก็คือลูกของพวกเราแก๊งๆ คุณพ่อคุณแม่ อยากให้เปลี่ยนคำนิดนึงครับ จะได้ไม่เข้าใจผิดกัน ก็ตกใจครับ

ตอนเล่นคอนเสิร์ต บางทีคุณพ่อคุณแม่ก็อยากให้เราอุ้มน้องหน่อย บางทีเด็กก็ให้อุ้มบ้าง ไม่ให้อุ้มบ้าง ตอนนี้ถ่ายรูปกับแฟนคลับไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว เพราะว่ามันเหมือนรูปครอบครัว บางทีก็ดูเหมือนคุณพ่อครับ(หัวเราะ)”

เพลงดังไกลไปต่างประเทศแล้วด้วย? ฮาย : ไม่คิดเลยว่ามันจะไปไกล แต่เมื่อมันเกิดขึ้นก็ยินดีครับ ตอนที่คิดว่าเพลงเราจะไปเติบโตในกลุ่มคนแบบไหน ก็คือกลุ่มคนที่มีรอยสักแบดๆ หน่อยแล้วมาเล่นติ๊กต็อก ผมคิดเล่นๆ นะ แต่กลายเป็นว่าเด็กๆ มาแบดกัน ผมก็งงเหมือนกัน แต่พอมันเกิดขึ้นแล้ว ผมรู้สึกว่ามันดีเหมือนกัน คนอย่างพวกเราจะได้รับการยอมรับมันต้องมีจุดเชื่อมไปหาผู้ใหญ่ ซึ่งเด็กๆ เป็นจุดเชื่อมให้เขา เหมือนลูกเขาชอบ คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องเปิดใจ มันเลยทำให้คนอย่างเรามีโอกาสได้สื่อสาร พอเราได้แสดงตัวตนของเรา เมื่อเรามีพลังตรงนี้ เราเลยอยากคืนกลับไปให้สังคมบ้าง เราสามารถขับเคลื่อนน้องๆ ให้ไปในแบบที่เขาอยากใช้ชีวิตได้ มีวิธีคิดที่หลากหลายมากขึ้นในยุคนี้ที่มันไม่ได้มีแค่ดีและเลว ผมอยากให้น้องๆ มีความคิดอยู่ในโลกที่มันหลากหลายมากขึ้น”

ความคาดหวังกับซิงเกิลใหม่ ชัดเจน? ฮาย : จะบอกว่าไม่คาดหวังมันก็ดูไม่จริง แน่นอนเราทำเพลงแล้วเราก็คาดหวัง ต้องบอกว่าเราทำเพลงเราพอใจตั้งแต่มันปล่อยแล้ว ที่เหลือมันคือเรื่องของประชาสัมพันธ์ การตลาดแล้ว เราตั้งใจทำมันเต็มที่แล้ว และคิดว่ามันน่าจะสื่อสารกับหลายๆ คน ที่เหลือหลังจากนี้น่าจะเป็นแรงของทุกๆ คน ถ้าชื่นชอบจริงๆ ก็อยากให้ช่วยแชร์กันต่อๆ ไปเรื่อยๆ เพื่อให้คนอื่นได้ฟังด้วย ที่สำคัญเราอยากขอบคุณค่ายพวกเราที่เชื่อมั่นในตัวพวกเราเสมอ ไม่ว่าเราจะทำเพลงแนวไหน พี่ๆ เขาไม่เคยตีกรอบพวกเรา อยากให้เราเป็นตัวเองมากๆ แล้วเขาเชื่อมั่นตั้งแต่วันแรกที่ยังไม่มีเพลงเสแสร้ง ทรงอย่างแบด เลยด้วยซ้ำ”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7540799
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7540799