“ถือว่าพร้อมแล้ว เหลือแค่ของชำร่วยนิดหน่อย พอดีได้ไอเดียใหม่มา หลังจากที่ไปร่วมงานแต่งงานของพี่จั๊ด-ธีมะ เค้าบริจาคเงินให้มูลนิธิการศึกษาของเด็กแทนการให้ของชำร่วย เหมือนทุกคนได้ทำบุญร่วมกัน สำหรับสถานที่คือโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล วันที่ 20 มี.ค. เป็นงานเช้า เป็นพิธีแบบไทย-จีน มีแห่ขันหมาก สวมแหวน ยกน้ำชา และรดน้ำสังข์ คิดไว้ว่าจะจดทะเบียนสมรส เปลี่ยนไปใช้นามสกุลพี่อาร์มวันนั้นเลย แล้วกลางวันทานข้าวก็เสร็จพิธี เชิญคนที่เรารักเคารพ เพื่อนสนิท แต่บอกไว้ก่อนเลยว่าเราจะเซฟเงินเพื่อเอาไปเที่ยว เอาไปเลี้ยงลูกดีกว่า เลยจัดแบบประหยัดน่ารักๆ (ยิ้ม) เราไม่ใช่สายปาร์ตี้ โจทย์แรกเลยไม่จัดงานเย็น ตอนแรกพี่อาร์มบอกว่าอยากชวนน้องๆที่สนิทมางานเย็น แต่สุดท้ายสรุปว่าอย่าเลย”

“ก็เพิ่งไปถ่ายที่ญี่ปุ่น มีน้องที่รู้จักที่นั่นเค้ามาถ่ายรูปให้ คอนเซปต์ก็เป็นตัวเราเลย แล้วที่ญี่ปุ่นหนาวมาก แต่ภาพก็ออกมาน่ารัก แล้วยังจะมีไปถ่ายที่ภูฏานด้วย เป็นอีก 1 ประเทศที่อยากไป ฝนไปทำงานแล้วพี่อาร์มตามไป ถือโอกาสถ่ายพรีเวดดิ้งด้วย แล้วก็มีที่เมืองไทยด้วยค่ะ”

ตื่นเต้นมั้ยที่จะได้เป็นเจ้าสาว?

“เข้าฉากในละครมา 10 กว่ารอบเลยไม่อะไร คิดว่าใกล้ๆคงตื่นเต้นค่ะ”

พร้อมใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน?

“พร้อมตั้งแต่วันที่ตัดสินใจว่าจะแต่งงานกับเค้า ฝนบอกแต่แรกว่าเป็นผู้ชายคนนี้แหละที่เราอยากใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า ความจริงเราอยากมีลูกกันแล้ว รอละครปิดกล้องอีก 2 เรื่อง กองก็น่ารักมากพยายามปิดกล้องให้ได้ก่อนฝนแต่งงาน เพราะเดี๋ยวต้องไปฮันนีมูน และอาจมีลูกเลย ตั้งใจว่าอยากมีไม่เกินอายุ 35 ไม่งั้นจะอันตราย ถ้ามีลูกก็ทุ่มเทเวลาให้กับลูกค่ะ แล้วเรามีคุณพ่อที่น่ารักแบบพี่อาร์ม เราก็คงไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว คงปล่อยธรรมชาติค่ะ”.