โบกี้ ไลอ้อน โต้ดราม่า ชุดโป๊ในคอนเสิร์ต ยันทุกขั้นตอน คิดอย่างถี่ถ้วน


ให้คะแนน


แชร์

โบกี้ ไลอ้อน โต้ดราม่า ชุดโป๊ ในคอนเสิร์ต มองเป็นศิลปะ ทั้งเซฟ และผ่านขั้นตอนการคิด มาอย่างถี่ถ้วนสุด รับความสำเร็จ เหนือคาดหมายมากๆ

วันที่ 8 มี.ค.2566 นักร้องสาว โบกี้ ไลอ้อน หรือ พิชญ์สินี วีระสุทธิมาศ ที่มีดราม่าในคอนเสิร์ตเดี่ยวของตัวเอง เพราะถูกวิจารณ์ว่าชุดโป๊เกินพอดี โดยเจ้าตัวตอบโต้กระแสว่า นี่คอนเสิร์ตหนู มันมองข้ามความโป๊ไปแล้ว มองสิ่งนี้ว่าเป็นศิลปะ และทุกขั้นตอนของกระบวนการคิดมันถูกคิดมาแล้วอย่างถี่ถ้วนสุดๆ

ถามถึงความสำเร็จของคอนเสิร์ตที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง?
“จริงๆมันเหนือความคาดหมายมากๆค่ะ โบว์ไม่ได้มีความคาดหมายว่าจะมีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเอง ถ้าให้พูดจริงๆ โบว์เป็นคนไม่ได้มั่นใจที่จะต้องจัดอะไรที่มันเป็นงานใหญ่ๆที่มันเป็นของเราจริงๆ คือรู้สึกว่ามีความกดดันตัวเองสูง แล้วก็อยากจะให้มันออกมาทัชผู้ชมที่สุด แล้วยังเป็นตัวเองอยู่”

เราก็ทำให้พี่กะเทยน้ำตาแตกได้?
“น้องกะเทยเองก็น้ำตาแตกเหมือนกันค่ะ (คิดไหมจะมีซีนอะไรแบบนี้?) คือจริงๆไม่ได้คิดค่ะ แต่ว่าเป็นคนที่เวลาทำงานจะมีอารมณ์ร่วมกับการทำงานเหมือนกัน ไม่ใช่ไม่ใช่ว่าวีนนะ แต่เป็นคนที่ใช้อารมณ์สร้างผลงานขึ้นมาและเวลาร้องเพลงอยูามันก็หยุดไม่ได้ที่จะมีอารมณ์ร่วม ว่าเฮ้ยเราอยู่ตรงนี้แล้วจริงๆหรอเนี่ย เวทีเป็นของเราจริงๆ แล้วทุกคนมาเพื่อดูเรา

แล้วในระหว่างร้องไม่หยุดคิดเลย คิดเรื่องนี้ตลอดจริงๆ ตอนแรกคิดในใจว่ายังไงก็ห้ามร้องเพราะว่ากลัวน้ำตาใหลแล้วมันจะไม่สวยค่ะ เราแต่งหน้ามา 8 ชั่วโมงนะ รู้สึกว่าชีวิตนี้คุ้มค่าจริงๆค่ะที่เกิดมาแล้วเราได้รับสิ่งนี้จากแฟนๆ”

แล้วกับเรื่องหลังเวทีหลังจากที่จบไปแล้วมันมีความรู้สึกยังไงบ้าง?
“มันเริ่มต้นด้วยความวุ่นวายสุดๆ เปลี่ยนชุดแบบ..แล้วทุกคนทำมันเต็มที่มาก แสงสีเสียงรวมถึงสไตล์ หรือแต่ละคนเบื้องหลังมันส์มากจริงๆ มันต้องทำงานร่วมกันแล้วมันก็มีเรื่องส่วนตัวหลายๆอย่างที่มันเป็นปัญหาสุขภาพที่เขาจะต้องควบคุมและเราจะต้องควบคุมให้ทุกอย่างมันออกมาดีที่สุด ตอบเป็นเปอร์เซ็นต์ไม่ได้ แต่ว่าพอใจอย่างมากฃในชีวิตจริงๆ”

ภาพรวมหลังจบคอนเสิร์ต ได้ดั่งใจความลานตาของเราไหม?
“คือตั้งใจทำงานอย่างเดียวเลยค่ะ โดยที่ไม่ได้ตั้งใจคิดเอาไว้เลยว่ามันจะมีผลตอบรับยังไง ไม่กล้าหวังหรือฝันอะไรไว้เลย กลัวฝันแล้วมันไม่เป็นจริง แล้วพอคนที่เป็นเพอร์เฟ็กลั่นนิสมันจะรู้สึกว่าทำไมฉันทำอย่างนี้ไม่ได้ ก็เลยไม่หวังอะไรเลย หวังแค่ว่าเสร็จตามที่เราต้องการและตอบโจทย์คนที่มาฟังจริงๆ เพราะว่าเราไม่ได้คิดในแง่ว่าเราต้องเป็นยังไง แต่เราคิดในแง่ว่าคนมาดูต้องการจะฟังอะไรจากเรา”

แต่จบไปแล้วดราม่าก็ยังไม่จบ มีดราม่าเรื่องชุดตามมาด้วย?
“ดราม่าเรื่องชุดใช่ไหมคะ คือจริงๆต่างความคิดเห็น ก็ไม่รู้ รู้สึกว่ามันเป็นคอนเสิร์ตครั้งนึงอ่ะ แล้วก็คือชุดอ่ะมันไม่ได้สักแต่ฉันจะโป๊ มันมองข้ามความโป๊ไปแล้ว มองสิ่งนี้ว่าเป็นศิลปะ และทุกขั้นตอนของกระบวนการคิดมันถูกคิดมาแล้วอย่างถี่ถ้วนสุดๆ ทั้งในเรื่องของความสวยงาม ในเรื่องของลักษณะในการใส่และถอดสะดวกบนเวที คิดว่าอยู่เหนือคำดราม่าไปแล้ว

โอเคนะที่มีคนแสดงความคิดเห็นทั้งชอบและไม่ชอบ แต่ก็ไม่ได้เตรียมใจที่จะมารับอะไรเท่าไหร่ เพราะว่าไม่รู้ว่าจะต้องคิดอะไรเพราะเรารู้เจตนาของเราดีว่า ว่าสิ่งที่เราสรรค์สร้างและฝึกซ้อมกับมัน ขนาดชุดยังต้องซ้อมเลยใส่และถอดเพื่อจับเวลา ต้อง 1 วินาที บางทีต้อง 3 วินาที คือวิธีการที่จะถอดถูกผ่านกระบวนการคิด เรายอมกรองแต่ละอย่างให้คนดูดูมาแล้วเพราะฉะนั้นไข่ ดราม่า เชิญค่ะ

“ไม่ค่อยนอยด์ ถ้าจะนอยด์ จะนอยด์กับความผิดที่หนูคิดไว้แล้วว่าสิ่งนี้หนูทำไม่เต็มที่ แต่สิ่งเนี่ยหนู เต็มที่มากๆและคิดมาแล้วจริงๆอ่ะ ทุกอย่างมันเป็นศิลปะ ไม่ได้มายืนแก้ผ้าแล้วบอกว่านี่คือศิลปะ มันไม่ใช่ไง แต่ทุกอย่างมันเป็นกระบวนการคิดที่เหมาะสมในรูปแบบของเราระดับนึงแล้ว และนี่ก็คือคอนเสิร์ตเรา เพราะฉะนั้นดราม่าเลย(หัวเราะ) ”

เรามีส่วนร่วมกับชุดยังไงบ้าง?
“คือต้นตอความคิดในความยุ่งยากก็คือมันเกิดจากตัวเองเองค่ะ อยากให้ถอดชุดระหว่างเพลง คือรีเสิร์ชมาว่าคนส่วนใหญ่ที่มาดูโบกี้ นอกจากฟังเพลงแล้วก็ยังอยากจะเห็นชุด ก็รู้สึกว่ามันคงจะดีถ้ามันมีเซอร์ไพรส์ ลูกเล่น กิมมิกของชุด ที่ถอดได้เลยแต่ยังสวยอยู่ ใส่มาหลายๆชั้น ถอดทีละอันคงจะได้เห็นลุกซ์ตั้งแต่สง่างาม กลางๆ จนถึงรูปสุดท้ายที่เซ็กซี่นิดหน่อย แต่ก็ยังมีกิมมิกของความลานตาอยู่”

เรารู้สึกว่ามันโป๊ไหม?
“ส่วนตัวแล้วคือจริงๆมันมีทุกการเซฟในทุกๆขั้นตอนของชุดว่าจุดไหนที่มันโป๊ไป เราก็ไม่ใช่ว่าสักแต่จะโชว์ตรงนี้ตรงโน้น มันมีการคิดอย่างถี่ถ้วนมาแล้ว ถามว่าโป๊ไปไหม เรื่องเสื้อผ้าจริงๆหนูคิดว่ามันเป็นการเคารพในสิทธิส่วนบุคคล ถ้าเราแต่งตัวอย่างที่ไตร่ตรองมาแล้วและแต่งตัวให้มีกาลเทศะในแต่ละพื้นที่อันนี้หนูว่ามันเป็นสิ่งปกติของสังคม

โดยเฉพาะนี่คือการขึ้นคอนเสิร์ตคงจะไม่ได้ใส่อะไรที่มันมิดชิดไปทั้งตัวขนาดนั้น ได้การที่ดีไซน์อ่ะเนาะ คิดว่าคนเราอ่ะ ควรเคารพในการแต่งตัวและการตัดสินใจ เพราะบางคนนะใส่เสื้อเหมือนกัน กางเกงเหมือนกัน รองเท้าเหมือนกัน แต่ทำไมคนอื่นถึงมองว่าเราเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่จริงๆขอบคุณในทุกๆความคิดเห็น เอาเป็นว่าจริงๆแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราโอเครับได้ ถ้าจะมีคนวิจารณ์เพราะเรารู้ตัวว่าเราทำอะไรอยู่ค่ะ ประมาณนั้น”

ในส่วนคอมเม้นต์หลายๆด้านเราได้เห็นไหม?
“คือไม่ค่อยเห็นเลยค่ะ เพราะรู้สึกว่าเรื่องนี้ค่อนข้างที่จะโอเคมาก แล้วเพราะโบคิดว่าเป็นสิ่งที่ตั้งใจคิดผ่านขั้นตอนมาแล้ว เราก็เซฟตัวเองไม่ได้อยากจะโป๊สุดๆต่อหน้าคนดูขนาดนั้น แล้วในชีวิตประจำวันโบก็ไม่ได้แต่งตัวแบบนั้นไปสถานที่ราชการ เข้าวัด คิดว่ามันเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล”

แต่เราก็ออกมาตอกกลับ หลายคนก็อ่านปากของเราออก?
“จริงๆไม่ได้ตั้งใจจะตอบแบบนั้น คือมันเป็นไทม์ไลน์ที่เหมาะสม คือจะบอกว่าจริงๆจะทำคลิปเป็นอีพีต่างๆเพื่อเล่าถึงเบื้องหลังในแต่ละขั้นตอนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสียง ชุดสไตลิสต์ เรื่องเวที สเตทหรือทุกๆเรื่องที่เราดีไซน์เกี่ยวกับคอนเสิร์ต เพราะเราเป็นคนที่ชอบถ่ายเบื้องหลังทุกอย่างไว้อยู่แล้ว แล้วมันมีดราม่าเรื่องชุดพอดี”

แล้วคลิปตันปากเราพูดว่าอะไร?
“อันนั้นคือเราไม่ได้ด่าใครนะคะ เหมือนเป็นมีม เพราะเพื่อนจะถ่าย ช่างหน้าช่างผมสนิทกัน เขากำลังจะถ่ายโบเล่นมุขบูลลี่แล้วเราก็บอกว่าหยุดดิแบบนี้ คือคนเรามันก็ต้องหยาบคายบ้าง แต่ในเมื่อมันอยู่ในจุดที่คนจ้องมองเราอยู่ เราก็ม่ได้หยาบคายแบบออกสื่อ เพราะฉะนั้นเสียงที่มันควรจะได้ยินเราก็ไม่ต้องให้ได้ยินก็ได้ มันก็เป็นแค่ภาพที่ให้คนจินตนาการต่อกันเองก็ดูดเสียงอัตโนมัติไปเลย แต่ตอนแรกหนูไม่ได้คิดว่าใครจะสนใจอะไรแบบนี้

แต่หนูแค่มองว่าหน้าหนูตรงนั้นมันสวยดีเป็นคลิปที่หนูอยากได้หน้าตัวเองในลุกซ์นั้นในห้องแต่งตัว แต่มันดันพูดแบบนั้นไง แล้วคนหน่ะก็จะโยงว่าดรามาด่าเรื่องชุดหรือเปล่า แต่จริงๆคลิปนั้นลงตั้งแต่ยังไม่มีดราม่าเลยค่ะ อันนั้นคือเล่นเฉยๆ เหมือนเพื่อนกระเทยบอกว่า เนี่ยแกแต่งตัวแบบนี้ไม่มีหญิงแท้ที่ไหนเขาแต่งตัวแบบนี้กันหรอก มีแต่กะเทยเท่านั้น เล่นกันเราก็เลยเอามาเล่น มันไม่ได้มีความหมายอะไรค่ะ”

ถ้ามันยังไม่ได้มีดราม่าอะไรเกิดขึ้นเลยย้อนกลับไปได้เราจะแต่งตัวแบบไหนขึ้นคอนเสิร์ต?
“ก็แต่งตัวแบบนั้นแหละ เย็บกันเกือบตาย จะไม่ใส่ได้ยังไง พระจงพระจันทร์ BOWKYLION เย็บกันทีละตัว พี่สไตลิสต์คือตาตาแตกของจริง เพชรนี้เหมามาหมดสำเพ็งเพราะฉะนั้นให้โอกาสหนูเถอะค่ะ”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7549181
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7549181