ปราปต์ปฎล ลงการเมือง ขอสู้เพื่อความยุติธรรม หลังถูกโยงเอี่ยวคดีฟอกเงิน


ให้คะแนน


แชร์

ก่อนหน้านี้นักแสดงหนุ่ม ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง ตกเป็นประเด็นร้อนเมื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แจ้งข้อกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี Forex-3D ในข้อกล่าวหาร่วมกันฟอกเงิน และเจ้าตัวเพิ่งยื่นหนังสือถึงดีเอสไอเพื่อขอทราบความคืบหน้าคดีไปเมื่อวันก่อน ซึ่งจากเรื่องดังกล่าวส่งผลกระทบกับหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัว

แต่ล่าสุด ปราปต์ปฎลก็ตกเป็นประเด็นฮือฮาอีกครั้ง เมื่อเจ้าตัวตัดสินใจลงการเมือง โดยร่วมกับพรรคไทยภักดี ซึ่งเจ้าตัวก็ได้โพสต์ร่ายยาวถึงเหตุผลที่ตัดสินใจลงเล่นการเมืองไว้ว่า “ขออนุญาตใช้พื้นที่ส่วนตัวให้ข้อมูลกับพี่น้องสื่อมวลชน ถึงภาพที่หลุดออกไปสร้างความประหลาดใจให้กับพี่น้องสื่อ จนต้องโทรมาสอบถามผมหลายสิบรายในขณะที่ผมขับรถกลับบ้าน

นับตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม ที่ผมได้ไปยื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้าเรื่องคดีความที่ตึกดีเอสไอ และได้พูดถึงเรื่องราวที่ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่โปร่งใสจากเจ้าหน้าที่รัฐ ดังที่เป็นข่าวจากการนำเสนอของพี่น้องสื่อเพื่อให้สังคมได้รับรู้ข้อเท็จจริงจากผม ก็เกิดเป็นประเด็นร้อนในสังคมอย่างที่ทราบ จนต่อเนื่องถึงการให้สัมภาษณ์กับอีกหลายรายการ และกราบขออภัยพี่น้องสื่ออีกหลายท่านที่ผมต้องปฏิเสธไป

เนื่องด้วยหลังจากยื่นหนังสือเสร็จ ผมก็ต้องไปทำภารกิจต่ออีกวันที่อยุธยา มีเวลาสะดวกต่อการให้สัมภาษณ์ในรายการคือวันที่ 9 มีนาคม และด้วยเวลาที่จำกัด ณ ตอนนั้นที่พี่ๆ สื่อได้เมตตาจะให้พื้นที่ได้ในการชี้แจงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตผมช่วงนี้ ผมจึงต้องปฏิเสธไม่ได้ไปร่วมรายการ เมื่อเสร็จสิ้นจากรายการ ถกไม่เถียง ผมรู้สึกว่าผมพอแล้วกับการต้องนั่งพูดคุยซักถามด้วยข้อเท็จจริงเดิมๆ ที่พูดกี่ครั้งก็ยังไล่เรียงเหมือนเดิม ดังที่สังคมได้ชมและรับรู้จากการพูดคุยทั้งที่ออกรายการสด และการโฟนอินเจาะลึกกับพี่ดนัย (หมาแก่) และการออกมาแฉพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐครั้งนี้

มีกระแสจากหลายฝ่ายเตือนผมมาด้วยความห่วงใยจากข้อมูลที่ได้รับกันและจากข่าวที่มีการโต้กลับของอีกฝ่ายที่มีอำนาจในมือว่าจะดำเนินกับผม ผมทราบครับว่าผมจะได้รับผลกระทบอย่างไร และน่าจะหนักแค่ไหน อาจไม่ใช่แค่ตัวผม น่าจะรวมไปถึงแฟนผมที่ยังติดอยู่ในเรือนจำ แต่เราสองคนปรึกษากันแล้วว่า สู้เงียบๆ สงบเสงี่ยมก็โดนเหยียบย่ำไม่มีความเป็นธรรมอยู่แล้ว ก็เลยคิดว่าทำไมผมต้องเก็บข้อเท็จจริงไว้กับตัว แล้วปล่อยให้อีกฝ่ายทำร้ายเราด้วยการปล่อยข่าวเท็จ

จึงตัดสินใจขอให้พี่น้องสื่อช่วยเป็นกระบอกเสียงตีแผ่เรื่องราวสู่สังคม ชีวิตผมและแฟนอาจอยู่อย่างลำบากดังที่หลายท่านเตือนสติว่าสู้กับคนมีอำนาจในมืออย่างไรก็พ่ายแพ้ แต่อย่างน้อยผมก็ได้สู้กับความอยุติธรรมต่อหน้าสังคมที่ได้รับรู้อีกมุม คืนวันที่ 9 มีนา ผมกลับถึงบ้านเกือบเที่ยงคืนมีโทรศัพท์เข้ามาเยอะแยะจนผมรู้สึกเครียดและคิดว่า..ผมพอแล้ว ผมสู้จนหมดแรงแล้ว จากนี้จะเป็นอย่างไรก็สุดแท้แต่เวรกรรม

สายสุดท้ายที่ผมได้รับ จากที่ลังเลว่าจะรับดีมั้ยจากที่ตัดสายทิ้งไปเยอะ ผมตัดสินใจรับ..ท่านที่โทรหาผมแนะนำตัวว่าท่านชื่อหมอวรงค์ เป็นหัวหน้าพรรคไทยภักดี ท่านบอกว่าติดตามเรื่องข่าวสารคดีผมมาพอสมควร และเห็นถึงวิธีการต่อสู้ของผม ท่านชื่นชมว่ากล้าหาญและรอบคอบมาก ท่านถามผมว่าจากนี้จะทำยังไงต่อไป ผมก็ตอบไปว่าไม่ทำยังไงแล้วครับ..ผมพอแล้ว ท่านจึงบอกว่าท่านและประธานพรรค ท่านถาวร เสนเนียม และคณะทำงานของพรรคอยากจะให้ผมใช้ความกล้าหาญที่มีอยู่ต่อสู้ต่อไป

แต่ครั้งนี้อยากให้เป็นตัวแทนของการต่อสู้เพื่อชาวบ้านที่ถูกรังแก และไม่รู้จะต่อสู้ยังไงกับคนพวกนี้ พรรคพร้อมจะสนับสนุนการต่อสู้อย่างถึงที่สุด เพราะมันคือนโยบายหลักของพรรค ผมเรียนให้ทราบตรงๆ ว่าคำว่าการเมืองสำหรับผม..ผมรังเกียจมาตลอด และไม่เคยมีมันอยู่ในความคิดเลย เพราะเห็น รับรู้มาตลอดจากการมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับคนพวกนี้ในอาชีพดารานักแสดง จนมาถึงการถูกกระทำทุกวันนี้จะไม่ให้รังเกียจได้ยังไง

แต่คุณหมอท่านก็บอกว่าลองเข้ามาคุยกันที่พรรคแล้วค่อยตัดสินใจ ว่าทำไมคนรังเกียจนักการเมืองอย่างผมนี่แหล่ะถึงควรจะต้องมาทำงานด้านการเมือง..ถ้าถามผมว่ามีใครติดต่อผมบ้างมั้ยในเรื่องการเมือง คำตอบคือมีครับ หลายพรรคเลยครับที่อยู่ในสภานี่ล่ะ แต่คำตอบว่ารังเกียจการเมืองของผมทำให้การสนทนาสิ้นสุด..

แต่ระดับหัวหน้าพรรคให้เกียรติโทรมาหาด้วยตนเองมีพรรคเดียว และเป็นพรรคที่ไม่ได้มีภาพจำอย่างที่เห็นในสภา และด้วยวิธีการชักชวนที่จริงใจทำให้ผมตัดสินใจเข้าไปที่พรรคในวันนี้..และตัดสินใจที่จะลุกขึ้นสู้กับอำนาจอยุติธรรมอีกครั้งด้วยการทำงานด้านการเมือง..ปุ๊บปั๊บกันเลยทีเดียว ก็ในเมื่อไม่มีอะไรจะเสียกันแล้วนี่ชีวิต

เมื่อผู้ใหญ่เมตตาให้เส้นทางการต่อสู้แบบใหม่ที่จะสามารถทำให้เกิดความยุติธรรมในสังคมได้โดยที่ความยุติธรรมไม่จำเป็นต้องถูกตีเป็นราคา..และมีความพร้อมทุกฝ่ายที่พร้อมให้การสนับสนุน..ขอลุยอีกสักตั้งครับไปให้สุด..ไม่ใช่แค่สู้เพื่อตัวเอง แต่จะสู้เพื่อพี่น้องชาวบ้านที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมแบบผม ขอชนกับคนคอร์รัปชันอีกสักยกครับ #ปราปต์ปฎล”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2651045
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2651045