แม่ภนิดา เผยสิ่งในคลิปที่กู้จากหน้ารถแตงโม ไม่ได้มีแค่ที่เห็น ถ้ารู้ลึกๆ จะเศร้าใจ


ให้คะแนน


แชร์

1 ปีที่ลูกสาวจากไป

ชีวิตเป็นไงบ้างอยู่คนเดียวมา 1 ปี ไม่มีลูกสาวอีกแล้ว
“สบายดีค่ะ มีวิธีทำใจของแม่เนอะ มีความเครียดอะไรแม่ก็ร้องเพลงเอา ทางแอปพลิเคชัน we sing เคยเห็นไหมฮะ ไปลองเล่นดูนะคะ มันคลายเครียดดีด้วย พอเวลาเราร้อง เหมือนกับสมาธิเราไปอยู่กับเนื้อเพลง เราก็ลืมเรื่องอื่นไปเลย ถ้าคุณร้องแล้วไปคิดเรื่องอื่นด้วย คุณจะร้องไม่เพราะ

ตอนนี้คุณแม่ก็อยู่คอนโดฯ คุณแม่ ไม่ได้อยู่บ้านน้องโม แต่คุณแม่ไม่ได้ขาย บ้านน้องโมก็ยังอยู่ปกติ แต่ไม่ได้มีใครอยู่ แต่เราก็ทำความสะอาดให้เขา”

คืนที่ครบรอบ 1 ปี ของคืนที่เกิดเรื่อง เห็นว่าคุณแม่เครียด
“ก็เครียดนิดหน่อย คิดถึงน้องค่ะ คิดถึงเขามาก คุณแม่ไปทำบุญให้น้อง แม่ทำบุญแบบพุทธนะคะ น้องโมนับถือคริสต์ แต่คุณแม่ขอแหกกฎไปหน่อย เพราะอยากทำบุญให้ถึงลูก จริงๆ ทางคริสต์เขาห้ามทำ เพราะทางคริสต์ถือว่าถ้าน้องเสียแล้ว น้องไปขึ้นสวรรค์แล้ว ทำไปก็ไม่ถึง แต่แม่ก็ตัดสินใจค่ะ อยากทำให้ถึงเขา กลัวเขาหิว ไปถวายเพลได้กรวดน้ำนี่สำคัญ ถ้าจะทำบุญถวายอะไรก็แล้วแต่ อย่าลืมน้ำให้น้ำท่าน

หลังเจอหลักฐานใหม่แม่ได้อธิษฐานอะไรบอกโมไหม

“ยังเลย เดี๋ยวว่าจะบอกคืนนี้ ต้องจุดธูปบอกเขา เพราะน้องก็คงกังวลว่า ถ้ามันไปไม่ถึงจุดที่น้องต้องการ เหมือนเขารับรู้นะว่าคดีน้องไปถึงไหนแล้ว และถ้ามันไปไม่ถึงจุดที่น้องต้องการว่า ถ้าคดีไม่ได้มาในรูปนี้ น้องกังวลว่าจะมีใครมาช่วยน้องไหม”

อะไรที่ทำให้แม่คิดว่าน้องยังกังวลในเรื่องคดี
“จากเซนส์คุณแม่เองและจากพระท่านบอก น้องไปสบาย ไม่ต้องไปห่วง เขาสบายกว่าเรา ทำบุญก็ได้ถึงน้องทุกครั้งเลย”

แต่พระก็บอกว่าน้องยังมีห่วงเรื่องคดี
“น้องไม่มีห่วง คุณแม่นี่แหละห่วงเอง กลัวเขาไม่ได้รับอาหาร ไม่ได้รับบุญที่เราส่งไปให้ เป็นไปได้แม่อยากตักบาตรทุกเช้าเลย อยากให้บุญลูกทุกวัน”

ตอนนี้คุณแม่ก็ตื่นมาตักบาตรทุกเช้าเลย
“ยังๆ ยังเลยค่ะ กำลังจะเริ่ม ที่ทำคือถวายเพลไปแล้วที่วัดสามัคคีธรรม ก็ดีนะคะ ทำแล้วเราก็สบายใจ ไม่ต้องห่วงเท่าไรว่าลูกเราอดอยากหรือเปล่า”

คุณแม่นอนหลับไหมคะทุกคืน
“หลับค่ะ ทานยานอนหลับ ต้องทาน ไม่ทานก็ไม่หลับ คุณหมอจ่ายให้ เป็นยาคลายเครียด เพราะคุณแม่เป็นโรคความดันสูงด้วย ต้องนอน ถ้าไม่นอนความดันมันจะขึ้น แม่เลยต้องนอน”

น้องมีมาหาแม่ไหม
“ไม่มีเลยค่ะ เขาบอกว่าที่น้องไม่มาเพราะน้องไปสบายแล้ว คุณแม่ยังอยากให้มาหาเลย มาในสภาพไหนก็ได้ แม่รับได้หมด สงสัยแม่ต้องจุดธูปทุกวัน น้องถึงจะมา แต่พระท่านบอกว่า จะเป็นการไปรบกวน เพราะเขาไปสบายแล้ว เขาไปอยู่ในสวรรค์ชั้นสูงแล้ว เขาไปชั้นดาวดึงส์เลยค่ะ เพราะน้องโมเลี้ยงพ่อแม่มายาวนาน เป็นอภิชาตบุตร เขายอมไปเกิดในที่ดีๆ”

สงสารเบิร์ดเขารักกัน

ขออนุญาติถามถึง กับ เบิร์ด ได้มีคุยกันบ้างไหมคะ
“เบิร์ดเป็นคนเรียบร้อย แล้วก็ไม่อยากให้ใครไปวุ่นวายกับเขามาก ตอนที่เขามาขนของ คุณแม่บอกเขาว่าไม่มีสตางค์ก็บอกคุณแม่นะ เบิร์ดบอกแม่ครับ ผมมีแม่ ไม่ต้องครับ เบิร์ดจะเอาอะไรบอกคุณแม่นะ ได้ตลอด เขาก็บอกมีครับ คุณแม่ไม่ต้องผมมี เขาไม่ยอมรับอะไรของคุณแม่เลยนะ เขาขอแค่ของที่เขาใช้กันตอนที่เขาอยู่กับน้องโม หมอน ผ้าห่ม ของที่เขาใช้ร่วมกัน เขาขอไป

เบิร์ดเขาก็อยู่บ้านของเขานะคะ ที่กฤษดานคร เขาดูแลคุณย่าเขาอยู่ และเบิร์ดนี่เป็นซึมเศร้าเล็กๆ น้อยๆ เหมือนกัน เขาก็เลยดูแลน้องโมได้ เพราะโรคเดียวกัน

คุณแม่เพิ่งรู้จักเบิร์ดไม่นานเลย เจอกับเขาครั้งเดียวที่บ้านน้องโมที่ไปเจียวไข่กัน คุยกันไม่ได้มาก แต่เราก็ทราบว่าเขาเป็นแฟนกัน เขาป้อนข้าวน้องโม น้องโมไม่ต้องทานข้าวเองนะ มีคนป้อน เบิร์ดอยากป้อน เขาก็รักกัน (ยิ้ม) คุณแม่ก็สงสารเขา แต่ว่าแอนนา ฮิปโป ก็บอกแม่ว่าเบิร์ดเขาดีขึ้นแล้ว”

หลักฐานมีนอกเหนือจากที่เห็น!! ถ้ารู้ลึกๆ จะเศร้าใจ

หลักฐานใหม่ที่เจอมั่นใจแค่ไหนว่าจะสามารถช่วยในเรื่องคดีได้
“ได้ค่ะ เพราะแม่ได้ยินเสียงคนพูดกัน ว่าไม่ได้อยู่ข้างหลังแต่อยู่ที่หัวเรือ มันเป็น XXX พูดกับ XXX ที่เป็นคนขับ พอ XXX ที่เป็นคนขับกลับ XXX เขาก็คงมาลบเสียง แต่ภาพนี่ไม่สามารถลบได้ แต่ทนายจ้างบริษัทไปกู้มาได้ แม่ฟังแล้วได้ยินหมดแล้ว แม่เลยมั่นใจว่าในเรื่องคดีเขาต้องมาเยียวยาเรา”

เป็นแค่การบอกตำแหน่งที่โมอยู่บนเรือ หรือมีนอกเหนือจากนั้นอีก
“เขาคุยกันว่าไม่ได้อยู่หลังเรือ แต่อยู่กันหน้าเรือ และมีนอกเหนือจากนั้นอีก ยาวนะ เขาก็คุยกันตลอดทางที่ XXX ไปส่ง หลังจากนั้น XXX ที่ไปส่งก็โดนเรียกสอบ 6 ชั่วโมง เขาก็บอกว่า XXX พูดไม่เหมือนกัน ที่คุยในรถกับที่สารภาพกับตำรวจไม่เหมือนกัน เราก็เลยสงสัย เพราะปัญหาทั้งหลาย XXX เป็นคนชวนน้องโมออกไป ถ้า XXX ไม่ชวน ก็ไม่เกิดเหตุ เขาทะเลาะกันใหญ่มาก 3 เดือนก่อนเกิดเหตุ 3 เดือนที่เขาไม่คุยกัน น้องโมไม่เอาเขาแล้ว แล้วอยู่ๆ XXX มาชวนไปลงเรือ น้องโมโกรธง่ายหายเร็ว เพื่อนมาชวนเขาก็ไป ซึ่งรายละเอียดลึกๆ ถ้าติดตามตลอดจะเศร้าใจกว่านี้ คือบรรยากาศในเรือ ซึ่งตรงนี้คุณแม่ยังพูดไม่ได้ ต้องรอให้ศาลพิพากษาออกมาก่อน”

แม่ภนิดา แม่ภนิดา

หน้าเงินยังไง? ในเมื่อมันคือสิทธิ์แม๊?

ณ วันนี้คุณแม่เยียวยาตัวเองอย่างไร
“ร้อง we sing อ่านหนังสือ ดูข่าว แค่นี้ก็หมดเวลาแล้ว ต้องนอนพักผ่อน อาจจะมีออกกำลังกายบ้างนิดหน่อย”

แต่แม่คือคนที่โดนวิจารณ์เยอะมาก

“หน้าเงินเนอะ แม่ก็ไม่เข้าใจ ก็เนี่ยต้องมาฟังเรื่องจากรายการพี่อุ๋ย เปิดปากกับภาคภูมิ แล้วก็มาปะติดปะต่อดีๆ ก็จะทราบว่ามันเป็นเงินที่คุณแม่ควรจะได้รับนะฮะ ถ้าพูดตรงๆ ก็คือน้องเสีย คุณแม่ต้องมีสิทธิ์ได้รับค่าเยียวยา ค่าปลงศพ เงินที่น้องต้องให้คุณแม่ไว้ใช้จ่าย ซึ่งเป็นสิทธิ์คุณแม่ตามกฎหมาย และคนที่ไม่รู้เท่านั้นที่มาว่าคุณแม่หน้าเงิน เขาไม่รู้รายละเอียด

ถ้าเขาอ่านหรือเขาตามเรื่องคุณแม่ดีๆ เขาจะรู้ว่ามันมีขั้นตอนของมันอย่างเริ่มแรก คุณแม่ได้เงินจากปอกับเบิร์ต ก็ไม่ค่อยมีคนรู้ ก็ได้มากกว่า 9.2 ล้าน เป็นก้อน 2 ล้านกว่า แล้วที่เหลืออีกประมาณ 20 ปี ไม่ใช่ได้มาทีเดียว อีก 20 ปีถึงจะครบ ได้รายเดือนอีก 30,000 บาท ปอ-เบิร์ตจ่ายคนละ 15,000 ซึ่งตอนนี้คุณแม่จะขอให้ระยะเวลามันสั้นลง ไม่ใช่ 20 ปี มันยาวไป คุณแม่อยู่ไม่ถึงหรอก ก็อยู่ที่เขาจะเพิ่มหรือไม่เพิ่มให้

แล้ว 40 ล้านอะไรเนี่ย จากที่เริ่มต้นคุณแม่เรียก 50 ล้านทั้งหมด จากคนที่เหลือไปบวกกับ 9 ล้าน ที่ 2 คนให้มา”

แม๊กับรถของแตงโม แม๊กับรถของแตงโม

กับโรเบิร์ต กับปอ เขาดูแลอะไรแม่บ้าง
“เขาก็ชำระค่าสินไหมให้แม่ทุกเดือน ตามที่ตกลงกัน ก่อนหน้านั้นก็เป็นเงินก้อน เทศกาลต่างๆ วันเกิดคุณแม่ หรือคุณแม่ไปทำบุญ พอเขาทราบเขาก็โทรมาอนุโมทนา หรือว่าเขาไปสร้างพระทำบุญ เขาก็โทรมาหาคุณแม่ว่า คุณแม่สวดมนต์ครับ คุณแม่พนมมือครับ ให้เราได้บุญด้วย เขาทำบุญเยอะนะปอ ส่วนพี่เบิร์ตก็โอเคคล้ายๆ ปอ แต่ว่าพี่เบิร์ตเขาเงียบๆ

แต่อีก 3 คน ไม่มี กระติกป่านนี้ยังไม่คุยกับคุณแม่เป็นการส่วนตัวเลยนะ ไม่ขอโทษ ไม่อะไรเลย ก็ปล่อยเขา ไม่บังคับเขา แม่ไม่ติดอะไรในใจ เพียงแต่ว่าสงสัยว่าทำไมทั้งที่เขามีโอกาส อย่างเมื่อวาน (2 มี.ค.) เจอกันที่ศาล คุณแม่ยังมีเวลาว่าง คุณแม่ยังไปคุยกับแซนที่หน้าห้องได้เลย แต่กระติกไม่มา เขาเหมือนหลบ มีอะไรในใจ แม่คิดเองนะว่าประมาณนั้น”

นอกจากนี้ แม่ภนิดา ยังอ้างว่า บ้านของแตงโมเขาเข้าได้ เขามีรหัสตัวเลข คุณแม่เห็นคุณแม่ทราบ เพราะว่ามีสติกเกอร์วันวาเลนไทน์ที่ตู้เย็นน้องโม มีเอาแมกเน็ตติดไว้ และเขียนว่ารักมี้ โมคิดถึงมี้โม เป็นของใหม่ คุณแม่เห็นว่าเป็นของใหม่ ก็เอ๊ะ มันต้องมีคนเข้ามาสิ ลูกสาวเป็นคนเขียน แล้วแม่เขาคงเอามาติดไว้ให้”

แม่แตงโม แม่แตงโม

เหนื่อยไหมคะ
“ไม่เหนื่อย แต่เสียใจที่ลูกอยู่กับเราสั้นไป เสียชีวิตเร็วไป เราได้อยู่กับเขาถึงแก่ น้องโมจะ 40 แล้ว เราควรได้อยู่กับลูกมากกว่านี้ เสียใจที่เขาอยู่กับเราน้อยไป เราก็เห็นกันอยู่หลัดๆ ลูกแม่ไปตกน้ำตายได้ยังไง เกิดอะไรขึ้น มันไม่ได้เป็นที่ๆ ลูกแม่จะไปด้วยซ้ำไป ถ้าไปในสถานที่กลางคืน มีดนตรีแล้วไปตีกัน ยังไม่ข้องใจเท่าไร อันนี้อะไร

คุณแม่ช็อกเลยนะ วันนั้นไปถึงตี 3 ร้องไห้โวยวายว่า ต้องไม่ใช่น้องโมๆ มันโมโหด้วย โกรธด้วย ไม่รู้เรื่องเลย เขามาลงเรือจนตกน้ำตายได้ยังไง คุณแม่ทราบว่าเขาจะมาขึ้นเรือ แต่ไม่ได้บอกว่ามากับใคร ถ้าทราบว่ามากับใคร อาจจะไม่ให้มา เพราะเขาทะเลาะกันอย่างรุนแรง น้องโมงานเขาเยอะนะ งานไม่เคยขาดมือ รายได้เขาเยอะมาก เรื่องนี้อีก 2 ปีคดีกว่าจะจบ เพราะเรามีพยานเยอะ”

สุดท้ายฝากถึงคนที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าเราหน้าเงิน
“ไม่ฝากค่ะ เบื่อ เบื่อที่จะพูด ถ้าอยากรู้เรื่องราวของเราจริงๆ ก็ไปหารายการดูเอาละกัน รายการพี่อุ๋ยเนี่ย เปิดปากกับภาคภูมิเนี่ยชัดเจน เพราะคุณแม่เล่าให้ฟังทั้งหมดว่าที่มาที่ไปของเรื่องราวเป็นยังไง”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2650628
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2650628