เขินไม่ไหว แพรรี่-ฟอร์ด เจอหน้าครั้งแรก ชอตนี้คลั่งรักสุด ไร้ปัญหาเพศสภาพ (คลิป)


ให้คะแนน


แชร์

ล่าสุดหลังจากจบรายการ คนดังนั่งเคลียร์ ทางช่อง 8 แพรรี่ ก็ได้จูงมือ น้องฟอร์ด เปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนครั้งแรก บอกเลยงานนี้หวานกันสุดๆ

วันนี้ถือว่าแกรนด์โอเพนนิ่งเต็มตัว?

แพรรี่ “ครั้งแรกเลย ทุกคนอาจจะได้เคยติดตามเรื่องหนูกับน้องบ้างแล้วแต่ ว่าตอนที่เป็นข่าวตอนนั้นยังรู้จักและคบกันผ่านออนไลน์ แล้วก็รอน้องปิดเทอมซึ่งตอนนี้น้องก็ปิดเทอมแล้วก็เลยลงมากรุงเทพฯ ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้เจอกันแบบตัวเป็นๆ

ฟอร์ด “ความรู้สึกแรกที่ได้เจอกัน ตื่นเต้นมากเลยตอนเจอครั้งแรก สวย น่ารัก(ยิ้ม)”
แพรรี่ “ประโยคแรกที่น้องทักก็คือสวยมากครับ(หัวเราะ) ส่วนน้องเองก็หล่อมากเลยอะ ถือว่าตรงปก รับไปแล้วถ้าไม่ตรงก็ต้องตรงค่ะ”

ย้อนจุดเริ่มต้นของความรักให้ฟังหน่อย?

แพรรี่ “หนูไปฟอลโลว์ไอจีน้อง พอดีว่ามีพี่ที่เป็นช่างแต่งหน้าให้ไอจีน้องมา ช่วงนั้นฟังพี่ช่างแต่งหน้าเปิดเพลงทุกวัน แล้วก็เห็นน้องคนหนึ่งที่เป็นนักแสดงของโรงเรียนเก่าของพี่เขา

บอกว่าน่ารัก แล้วก็แซวเฉยๆ ว่ามีไอจีน้องไหม อยากไปตามดู ปรากฏว่าเขาเอาไอจีผิดมาให้ เพราะว่าน้องนักแสดงคนนั้นเป็นอีกคนหนึ่ง แต่ไอจีที่ได้เป็นไอจีน้องฟอร์ด ความรักครั้งนี้เกิดจากความผิดพลาดค่ะ(หัวเราะ) ไม่ต้องตั้งใจผิดพลาดก็ได้อยู่ น้องน่ารัก”

ใครเริ่มจีบก่อน?

แพรรี่ “น่าจะเป็นหนูนะคะ เพราะว่าเป็นคนฟอลโลว์ไอจีน้อง แล้วก็แอ๊วตามประสาไปเรื่อย ดีเอ็มไปหาในไอจี”

ฟอร์ด “ตอนแรกไม่รู้ตัวว่าโดนจีบ คิดว่ามาเล่นๆ แต่ก็เชื่อว่าน่าจะเป็นตัวจริง ซึ่งในช่วงแรกผมไม่ค่อยได้ตอบ ทีนี้พี่แพรรี่ก็เลยวิดีโอคอลมาเลย”

แพรรี่ “เขาเป็นคนชอบดองแชต ช่วงที่เราทักไปหายไป 2 วันบางทีเพิ่งมาตอบ เลยรู้สึกว่าไม่ไหวนะถ้าจะดองแชตนานขนาดนี้สงสัยจะไม่ได้คุยแล้วแหละ หนูก็เลยลองกดวิดีโอคอลไป ปรากฏว่าน้องรับ หลังจากนั้นหนูก็เลยรู้ว่าถ้าอย่างนั้นไม่ต้องพิมพ์แล้ว โทรเลยง่ายกว่า”

ตอนที่รับสายวิดีโอคอลเป็นเพราะมีใจหรือว่ามือลั่น?

ฟอร์ด “ยังครับ พอได้คุยกันไปสักพักนี่แหละถึงรู้สึกโอเค พี่เขาทำให้เรายิ้มได้มีความสุข”

แพรรี่ “เราน่าจะมาใช้คำว่าแฟนกันได้ประมาณหนึ่งเดือน หลังจากที่เราส่งช่อดอกไม้ไปให้น้อง เพื่อที่จะขอเป็นแฟนแบบจริงจังในวันวาเลนไทน์ก็คือวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ตอนนั้นก็ต้องถามให้ชัดเจนเพราะว่าพอหนูเอาภาพลงก็มีสื่อไปโน่นนี่นั่น หนูก็อยากได้สถานะเลยถามไปทางวิดีโอคอลว่าเราเป็นอะไรกันนะ…”

ฟอร์ด “เป็นแฟน(ยิ้ม)”

แพรรี่ “นั่นแหละค่ะก็เลยมั่นใจว่าโอเคเรามีสถานะคบหากัน”

การมาคบกับแพรรี่ซึ่งเป็นคนดังในโซเชียล บางคนอาจจะมองว่าเกาะกระแสแพรรี่หรือเปล่า?

ฟอร์ด “ผมไม่ได้เสพเลยครับ เพราะถ้าผมเสพคงต้องคิดมากแน่เลย แล้วผมก็ไม่คิดเรื่องนี้ด้วยครับ ผมบริสุทธิ์ใจที่จะคบหาเขาจริงๆ ถามว่าเคยได้ยินกระแสพวกนี้บ้างไหมเคยได้ยินครับ

พออ่านแล้วความคิดเรามันคิดลบ ผมก็เลยไม่อ่านอีกเลยเพราะมันทำให้สุขภาพจิตไม่ดีด้วย ส่วนคนรอบข้างก็ไม่ได้ว่าอะไร อย่างเพื่อนๆ มีแต่แซวอย่างเดียว ผมเองก็เขิน แต่ว่ามันน่ารักดี”

แพรรี่ “ถามว่าให้กำลังใจน้องยังไง จริงๆน้องเขาค่อนข้างมีวิธีรับมือที่ดีอยู่แล้ว หมายถึงว่าเขาไม่เสร็จอะไรที่เป็น Toxic ไม่ได้อ่านคอมเมนต์ หนูก็จะใช้วิธีการโทรคุยกันให้กำลังใจกัน เพื่อให้รู้สึกว่าการที่เราคบหากันมันเป็นเรื่องจริงจัง

แล้วก็มีแต่เราสองคนเท่านั้นที่จะรู้ว่าคืออะไรระหว่างความสัมพันธ์ที่เราเป็นอยู่ จะไม่พยายามไปพูดถึงอะไรที่มันเป็นคอมเมนต์ในทางลบ ซึ่งหนูจะโดนเยอะเพราะเป็นแบบนี้ด้วย ในฐานะที่หนูอยู่อาจจะแตกต่างกับน้องมาก ด้วยช่วงวัยหรืออะไร

แล้วเราก็เป็น LGBT ก็โดนเยอะ เลยจะไม่พูดเรื่องเหล่านี้ หนูก็แค่จะทำให้รู้สึกว่ามันคือเรื่องปกติ ถ้าคนสองคนตัดสินใจแล้วที่จะคบหากันมันก็คือเรื่องของคนสองคน”

ฟอร์ด “ผมเองเปิดรับในเรื่องของเพศสภาพ พ่อแม่ผมด้วยครับ อย่างแม่ก็บอกว่าชีวิตของเอ็งจะทำอะไรก็เรื่องของเอ็ง แม่ไม่ได้เข้าไปอยู่กับเอ็งตลอดชีวิตหรอก ที่บ้านก็ไว้ใจเรา”

พ่อแม่ว่ายังไงบ้างที่รู้ว่ามาคบกับแพรรี่?

ฟอร์ด “แม่บอกว่าชีวิตของเอ็ง เอ็งจะทำอะไรก็เรื่องของเอ็ง แม่ไม่ได้เข้าไปอยู่กับเอ็งตลอดชีวิตหรอก (ยิ้ม)”

แสดงว่าเขาก็ไว้ใจเรา?

ฟอร์ด “ใช่ครับ”

ตอนแรกเขาตกใจมั้ยพอมีข่าวออกมา?

ฟอร์ด “ไม่ครับ เขาก็โทรมาถามว่าเป็นยังไงบ้าง”

มีโอกาสจะพาไปเจอครอบครัวแนะนำเป็นเรื่องเป็นราวมั้ย?

แพรรี่ “มีค่ะ เดือนหน้าจะไปค่ะ เพราะหนูตั้งใจจะไปอยู่แล้ว แม่บอกว่าแม่สีข้าวไว้ให้แล้วค่ะ (หัวเราะ)”

ได้คุยกับครอบครัวน้องบ้างแล้วหรือยัง?

แพรรี่ “โดยตรงยังค่ะ แต่หนูก็จะถามแฟนหนูตลอดว่าพ่อแม่ว่ายังไง เพราะหนูก็ค่อนข้างแคร์ ไม่ใช่ถามแค่คุณพ่อคุณแม่ เพื่อนๆ ด้วย เพราะหนูก็เข้าใจว่าทุกคนก็มีสังคมที่เขาอยู่ ถ้าการที่ฟอร์ดเขาคบกับหนูแล้วสังคมรอบข้างเขามันไม่โอเค แต่เวลาฟอร์ดเขาเล่าให้ฟังว่าคนที่บ้านแซวนะ ถามถึงนะว่าเมื่อไหร่จะพาแฟนมา เตรียมผ้าไหมไว้ให้ เราก็ดีใจที่เขาเอ็นดูเรา”

ครอบครัวน้องต้อนรับแพรรี่อย่างดีเลยใช่มั้ย?

ฟอร์ด “ใช่ครับ (ยิ้ม)”

เป็นว่าที่สะใภ้บุรีรัมย์?

แพรรี่ “หนูชอบคำนี้มากเลยค่ะ (หัวเราะ) หนูไม่ปฏิเสธเลยค่ะ หนูคือว่าที่สะใภ้บุรีรัมย์ (ยิ้ม)”

ความรักครั้งนี้เราจริงจัง มองไปถึงอนาคตร่วมกันเลยมั้ย?

แพรรี่ “หนูเป็นคนที่ถ้าหนูมีความสัมพันธ์ มีความรัก หนูจะจริงจังทุกครั้ง ทุกคนที่ชอบว่าหนูหน้ามืดตามัว ตาบอด แต่หนูเป็นคนที่ถ้าหนูมีความรักหนูให้เต็มร้อยเลย หนูจริงจัง และหนูรู้สึกว่าความรู้สึกมันไม่สามารถเอามาล้อเล่น เอามาสร้างคอนเทนต์หรืออะไรได้”

ตอนนี้แพรรี่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนคลั่งรัก ฟอร์ด ให้ความมั่นใจยังไงว่าเราไม่ได้เข้ามาหลอกเขาแน่นอน?

ฟอร์ด “ไม่ครับ มั่นใจ”

แพรรี่ “หลอกหรือเปล่า”

ฟอร์ด “ไม่หลอกหรอก (ยิ้ม)”

อายุที่ห่างกันมีปัญหามั้ย?

แพรรี่ “สำหรับหนูไม่มีปัญหานะคะ แต่ต้องถามน้องว่ามีปัญหามั้ยที่คบกับคนอายุมากกว่า”

ฟอร์ด “ไม่ติดเลยครับเรื่องอายุ ผมชอบคนอายุมากกว่าอยู่แล้ว (ยิ้ม)”

แพรรี่ “เขาก็ชอบคนที่อายุน้อยกว่าค่ะ (ยิ้ม)”

1 เดือนที่ผ่านมาพอได้คบกันจริงๆ จังๆ เป็นยังไงบ้าง?

ฟอร์ด “ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ คิดว่าเหมือนปกติทั่วไปครับ แต่เวลาที่ผมไปเดินตลาด คนมองเต็มเลย ผมก็เขินๆ นิดนึง (ยิ้ม)”

รักระยะไกลมีปัญหามั้ย?

ฟอร์ด “ตรงนี้เองครับ กรุงเทพฯ-บุรีรัมย์ (ยิ้ม)”

แพรรี่ “ชั่วโมงเดียวค่ะ ดอนเมือง-บุรีรัมย์ (ยิ้ม)”

เรื่องความเชื่อใจกันล่ะ เพราะ ฟอร์ด ก็หน้าตาดี?

แพรรี่ “หนูก็จะมีวิธีการของหนู คือตอนนี้ฟอร์ดเป็นแฟนหนู หนูก็จะพยายามว่าถ้าเสร็จงาน หนูก็จะคุยกับฟอร์ดทุกวันว่าตอนนี้แฟนหนูทำอะไร แต่หนูจะไม่โทรตลอดเวลา

อย่างเช่นวันนึงหนูอาจจะแค่คอลหาเขาแค่ครั้งเดียว และพอเขาว่างเขาก็จะตอบมาเองว่าเขาทำอะไรอยู่ ก็คอลคุยกันทุกวัน ให้รู้สึกว่าความสัมพันธ์ยังราบรื่นและยังถูกสานต่ออยู่ทุกวันๆ ไม่ใช่ทิ้งหายไป แล้วปล่อยให้เขารู้สึกว่าเล่นๆ หนูไม่ได้ทำแบบนั้น”

แล้ว ฟอร์ด ห่วงมั้ย เพราะแพรี่ก็มีคน DM มาเยอะเหมือนกัน?

ฟอร์ด “เขาจริงใจครับ เขาไม่ทำหรอก (ยิ้ม)”

แพรรี่ “เขาไว้ใจหนูค่ะ (ยิ้ม)”

มีกติกากันมั้ยว่าห้ามทำนั่นทำนี่?

ฟอร์ด “ไม่มีครับ เขาไม่ห้ามผมเลย”

แพรรี่ “ก็นิดหน่อย ไม่ใช่ข้อห้ามอะไร แต่จะเป็นการคุยกันตรงๆ ขอว่าตอนนี้เราคบกันแล้ว เป็นแฟนกันแล้ว คือเมื่อก่อนน้องเขาเป็นคนที่เฟรนด์ลี่ เฮฮา อันนี้หนูเข้าใจ

แต่พอมีแฟนแล้วก็ขอนิดนึงได้มั้ยอะไรแบบนี้ ก็อาจจะขอเรื่องคุยกับสาวๆ อะไรแบบนั้น ก็คุยกัน เขาก็จะบอกว่าเพื่อน พี่รหัส เราก็ต้องเข้าใจเขา”

แพรรี่เป็นแฟนคนแรกในชีวิตเลยมั้ย?

ฟอร์ด “ไม่ครับ เคยมีแฟนมาก่อนหน้านี้ เป็นผู้หญิงครับ”

คาดหวังกับรักครั้งนี้กันแค่ไหน?

ฟอร์ด “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่ามันจะไปได้ขนาดไหน แต่ผมก็จะทำให้ดีที่สุด (ยิ้ม)”

แพรรี่ “เขาตอบชัดเจนแล้ว หนูไม่ต้องตอบแล้วแหละ หนูก็อย่างเดียวกันเลย ก็แค่รู้สึกถ้าน้องยังคงเป็นแบบนี้ เขายังรู้สึกดีกับเราแบบนี้ โดยที่เขาไม่ได้อยากมูฟหรืออยากเปลี่ยนสถานะอะไร หนูก็จะรักษาความสัมพันธ์แบบนี้ไปเรื่อยๆ ค่ะ”

อนาคตถ้ามันไม่ราบรื่น กลัวมั้ยว่าคนจะมาสมน้ำหน้าเรา?

แพรรี่ “หนูว่าถ้าคนจะสมน้ำหน้าคนอื่นที่ไม่ประสบความสำเร็จเรื่องความรัก ทุกคนต้องสมน้ำหน้าตัวเอง เพราะทุกคนเคยไม่ประสบความสำเร็จเรื่องความรัก หนูรู้สึกแบบนี้

มันมีเหรอคะ คนที่เกิดมาเจอแฟนครั้งแรกป๊อปปี้เลิฟ แล้วเป็นคู่ชีวิตไปตลอดกาล อาจจะมี แต่น้อย ดังนั้นทุกคนเคยผิดพลาด และหนูอยากให้ทุกคนมองว่าการไม่ประสบความสำเร็จเรื่องความรักเป็นเรื่องปกติสำหรับคนทุกคน

และทุกคนมีสิทธิที่จะค้นหาและค้นพบความรักที่ดีกว่าได้ทุกคน สำหรับหนูรักทุกครั้งคาดหวังหมดเลย ไม่เคยมีครั้งไหนที่มีความรักแล้วไม่คาดหวัง หรือเล่นๆ ไม่มี ถ้าแอ๊วก็คือแอ๊ว เล่นๆ ก็คือเล่นๆ แต่ถ้าหนูบอกว่าคนนี้คือแฟนแสดงว่าหนูจริงจังมาก”

อยากจะบอกอะไรกับคนที่ยังมองเราในแง่ลบกับความรักครั้งนี้?

แพรรี่ “หนูว่าเขามีสิทธิที่จะมองและจะคิดได้แบบนั้น แต่อย่างที่บอกคือความรักเป็นเรื่องของคนสองคน หนูจะไม่ยอมให้ความคิดเห็นของคนอื่นมาทำให้เรารู้สึกว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับความสัมพันธ์ของหนูกับแฟนหนู หนูไม่เอา

ก็อาจจะมีเห็นบ้าง แต่หนูก็ไม่อาจปิดกั้นความคำวิจารณ์ได้ ทุกวันนี้หนูก็ยังโดน แต่หนูกับน้องตอนนี้ก็คือเรื่องของเราสองคน ถ้ายังรู้สึกดีต่อกัน คุยกันมันก็จบ”

แพลนที่วางไว้ตอนที่น้องยังปิดเทอมมีอะไรบ้าง ดูหนัง ฟังเพลงหรือทำอะไร?

แพรรี่ “โดยทั่วไปอาจมีอย่างนั้น แต่ตอนนี้ที่หนูคาดหวังคือน้องปิดเทอม น้องมากรุงเทพฯ และมีหนูมีทุกวัน หนูก็ควรให้น้องได้เรียนรู้ว่าเป็นแฟนกับอินฟลูฯ ซึ่งต้องทำงานทุกวัน ชีวิตมันเป็นยังไง

และการทำงานไม่ใช่เรียนรู้เฉยๆ แต่น้องจะมีรายได้ด้วยในช่วงที่น้องปิดเทอม หนูอยากหางานให้น้อง ให้น้องมีงานทำ และช่วงปิดเทอมให้น้องรู้สึกว่าเขาอยู่กับเราแล้วเขาได้อะไร แทนที่จะไปเที่ยวนู่นนี่ ซึ่งหนูก็พูดตรงๆ ว่าโอเคมั้ย ฟอร์ดเขาก็บอกว่าโอเค”

เราสายเปย์มั้ย?

แพรรี่ “เปย์งานให้ค่ะตอนนี้ (หัวเราะ)”

ฟอร์ด “เขาไม่เปย์เงินครับ แต่เขาให้งานครับ (ยิ้ม)”

ขายงานแพ็กคู่เลยใช่มั้ย?

แพรรี่ “ใช่ มีคนบอกว่าคบกันแล้วงานเข้า อันนี้หนูยอมรับ เพราะถ้ามันเป็นโอกาสแล้วทำไมหนูไม่ดึงโอกาสให้แฟนหนู แทนที่จะรู้สึกว่าเอาเขามาอยู่กับหนูแล้วหนูเปย์ หนูให้เงินเขา

แต่คือหนูให้งานเขา แล้วถ้าวันนึงเขาไม่ได้อยู่กับหนูแล้ว หรือมีเหตุอันใดที่ให้ความสัมพันธ์เรายุติลง น้องก็จะได้มีประสบการณ์ที่ได้มาอยู่กับหนู ทำงานกับหนูติดตัวเขาไป”

จริงๆ ฟอร์ดหน้าตาดี อยากชวนน้องเข้าวงการมั้ย?

แพรรี่ “ถ้ามีโอกาสหนูไม่ได้ปิดกั้นใดๆ เลยนะคะ แล้วเขาเป็นคนมีความสามารถนะคะ”

ถ้าน้องเขาไปเล่นละครกับผู้หญิง เราจะหึงมั้ย?

แพรรี่ “หนูก็ทำนะ ถ้าหนูอยู่ในบทบาทการแสดงค่ะ เพราะมันคืองาน ถ้าไม่ทำมันก็ไม่ได้ งานก็คืองาน ต้องแยกกันค่ะ ความสัมพันธ์ส่วนตัวก็ความสัมพันธ์ส่วนตัว ต้องแยกกันค่ะ”

เป็นคนขี้หึงมั้ย?

แพรรี่ “นิดนึงค่ะ แต่ว่าไม่ไร้สาระนะคะ ถ้าหนูรู้สึกว่าทำไมเป็นอย่างนี้ หนูก็จะถามเขานะคะ เขาก็จะพูดให้ฟัง”

มีกติกากันมั้ยว่าขอเรื่องนั้นเรื่องนี้?

แพรรี่ “หนูขอแค่อย่างเดียวขอกันทั้งคู่เลยค่ะ ขอให้จริงใจต่อกันเท่านั้นเอง คือคุยกันได้หมด แต่ขอให้จริงใจ นี่ไม่ใช่คอนเทนต์สนุกหรือลวงโลกอะไรค่ะ”

มันมีบางคอมเมนต์บอกว่า ถ้าเราอยู่ด้วยกัน ไม่ได้แต่งหน้า ไม่ได้ใส่วิก โมเมนต์มันจะเป็นยังไง?

แพรรี่ “เมื่อคืนหนูนอนกับเขา หนูไม่ได้ใส่วิก แต่งหน้านะคะ”

ฟอร์ด “ตอนแต่งหน้า สวย (ยิ้ม)”

แพรรี่ “ถ้าไม่แต่งหน้าแล้วสวยกว่าตอนแต่งหน้า หนูคงต้องไล่ช่างแต่งหน้าออกแล้ว (หัวเราะ)”

พี่แพรรี่แต่งหน้าใช้เวลานานมั้ย?

ฟอร์ด “ก็ไม่นานครับ รอได้”

หลงคารมน้องมั้ย?

แพรรี่ “ไม่ได้หลงแต่รัก เพราะเขาคือแฟนเรา แล้วเวลาคนบอกแพรรี่เป็นคนคลั่งรัก หนูยอมรับว่าหนูคลั่งรัก แต่หนูก็คลั่งรักกับแฟนตัวเองไง”

ยืนยันว่าไม่ใช่ความรักที่ฉาบฉวย?

แพรรี่ “ไม่ค่ะ มันคือความรัก เป็นความรักที่ต้องสร้างไปเรื่อยๆ แล้วทำให้ไปในทิศทางที่ดี ถ้าหนูไม่มีโมเมนต์แบบนี้ ไม่ทำให้แฟนรู้สึกว่าหนูรักเขา หนูจริงใจกับเขา เขาคือคนสำคัญกับหนู แล้วความรักจะไปต่อยังไงคะ หนูมองไม่ออก มันจะเป็นความรักที่ดีได้ยังไง หนูว่ามันก็ไม่ได้”

ความรักครั้งนี้ทำให้เราสดใสกว่าเดิมมั้ย?

แพรรี่ “มากขึ้น ตื่นมาถ้าแบบเราเคยเห็นวิวที่มันธรรมดาไป มันเป็น pm 2.5 แต่ตื่นมาแล้วหันไปเจอเขา มันมีพลังนะคะ”

มองทุกอย่างเป็นสีชมพู?

แพรรี่ “ค่ะ”

ช่วงนี้เราได้อยู่ด้วยหันนานมั้ย น้องปิดเทอมกี่เดือน?

แพรรี่ “ประมาณ 2 เดือน น้องมาอยู่ที่กรุงเทพเลยค่ะ”

ครอบครัวน้องฟอร์ดว่ายังไงบ้าง?

ฟอร์ด “เปิดต้อนรับมากเลยครับ ทั้งญาติพี่น้อง”

มีแพลนจะไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกันมั้ย?

แพรรี่ “มีค่ะ เดี๋ยวเดือนเมษาน้องต้องไปผัดผ่อนเรื่องทหารอยู่ แล้วหนูจะไปรับน้องก็ถือโอกาสไปเจอคุณพ่อคุณแม่ด้วย จะพาน้องไปจันทบุรีไปบ้านด้วย น้องก็ควรไปรู้จักคุณพ่อคุณแม่หนู แต่ว่าไปทำงานนะคะ”

เอาใจคุณพ่อคุณแม่ยังไงบ้าง?

แพรรี่ “จริงๆ คุณแม่เขาก็น่ารักนะคะ คุณแม่เขาเป็นลูกค้าหนู แอบสั่ง แอบอุดหนุนน้ำพริกของหนูเยอะ เขาไม่กล้าเอาฟรี เกรงใจ อุดหนุนเยอะมากเขาบอกช่วยกันทำมาหากิน (หัวเราะ)”

ขอถามเกี่ยวกับหนังเรื่อง หุ่นพยนต์ ในฐานะที่เราเป็นพระมา เรามีความคิดเห็นเรื่องนี้ยังไง?

แพรรี่ “หนูมองว่ารุนแรง และไม่น่าทำแบบนั้นเลยหนูเห็นใจ ทั้งผู้สร้างหนังและผู้กำกับ และก็ทางคนแบบเราๆ ที่เป็นผู้บริโภค ไม่ควรมีใครมาเป็นตัวแทนวิจารณญาณของเรา หนังควรมีการจัดเรตถูกต้องนะคะ ว่าคนอายุเท่าไรมีวิจารณญาณแล้วเข้าไปดู แต่ไม่ควรมีหน่วยงาน

อันนี้พูดตรงๆ ในการที่จะไปเซนเซอร์แล้วว่าอันนี้ทำได้หรือไม่ได้ หนูไม่มั่นใจว่าเขามีความลึกซึ้งเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกของหนังได้แบบที่หนูเข้าใจหรือเปล่า ควรเป็นเรื่องของหนูมั้ย ไม่งั้นจะเขียนว่าโปรดใช้วิจารณญาณในการรับชมทำไม ในเมื่อคุณใช้วิจารณญาณแทนดิฉันไปแล้ว มันไม่ถูกแล้วบางฉากเขาจะสื่อถึงเรื่องเณรกอดแม่ มันไม่ใช่ภาวะการกอดแบบปกติแต่มันมีบริบทของหนัง

เหมือนเราดูเรื่องทองเนื้อเก้าที่แม่หมดสติแล้วเอาผ้าเหลืองไปห่มตัว มันใช่ความเป็นลูกเป็นแม่มันสะท้อนอารมณ์อยู่เหนือสถานะ คิดไม่ได้เลยค่ะ ต้องให้ดิฉันไปนั่งด้วยไหมคะ กบว. เนี่ย เชิญดิฉันไปนั่งแล้วจะเทศน์ให้ฟังว่ามันได้หรือไม่ได้ยังไง ไม่ใช่เอาแต่กฎระเบียบว่าผ้าเหลืองถูกผู้หญิงไม่ได้ หรือผู้หญิงถูกผ้าเหลืองไม่ได้ คนเขาเข้าไปดูหนังค่ะไม่ได้เข้าไปดูสารคดีกรมประชาสัมพันธ์”

ซึ่งในทางความเป็นจริงการเกิดเหตุการณ์แบบนี้มันเป็นไปได้มั้ย?

แพรรี่ “มันก็ต้องมีขอบเขตมั้ยคะ ถ้าคุณเห็นแม่คุณเปลื้องผ้า หรือแม่จมน้ำเป็นเหตุการณ์ซึ่งหน้าคุณจะทำยังไง แล้วการที่เณรถือศีล 10 ข้อ แล้วมีความรักต่อแม่ มันนำมาเรื่องไม่ดีต่อศีลธรรมจรรยายังไง อยากให้นักข่าวไปยื่นไมค์ถาม กบว. ดูค่ะ”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2654640
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2654640