"แจม ชรัฐฐา" แฮปปี้รักครั้งใหม่ คบหนุ่มรุ่นน้องพร้อมออกจากทุ่งลาเวนเดอร์


ให้คะแนน


แชร์

บทบาทในละครเรื่องหลงเงา

“เรื่องนี้แจมรับบทเป็นฉัตรวรางค์ จะเป็นคู่หมั้นของหยาง (ภัทร ฉัตรบริรักษ์) ซึ่งตัวหยางจะเป็นทายาทอันดับ 1 ของตระกูลเพชรเมฆา คาแรกเตอร์ของเราเป็นผู้หญิงที่โตมาบนกองเงินกองทอง ค่อนข้างเป็นลูกคุณหนู ถูกสปอยล์ อยากได้อะไรต้องได้ เรามีความมั่นใจในตัวเองสูง เราเป็นคู่หมั้นของทายาทคนต่อไปของตระกูล จนซัน (อินดี้-อินทัช) เข้ามาในครอบครัวนี้ เพื่อเค้นและเราเป็นหนึ่งในเส้นทางที่เขาจะแก้แค้นด้วยเพราะว่าด้วยบทก็เป็นคนร้ายๆ เอาแต่ใจหน่อย”

เล่นง่ายมั้ย “ก็ยากอยู่เหมือนกันเพราะว่าอย่างแจมในชีวิตจริงเป็นคนนิ่งมากๆ ไม่ใช่คนโวยวายหรือชอบชี้นิ้วสั่งใครหรือไปตบตีกับใคร ในเรื่องเดี๋ยวเราก็ตบคนโน้นจิกหัวคนนี้ตอนเวิร์กช็อปทำการบ้านหนักมาก เราไม่เคยโวยวายขนาดนี้มาก่อน”

ไม่เอาองค์แม่ของเนย–วรัฐฐา มาใช้บ้างล่ะ

“(หัวเราะ) ก็พยายามอยู่ เป็นหนึ่งในเรฟเฟอเรนซ์ของการแสดง เราพยายามเข้าให้ถึงตัวเราจริงๆ ถ้าจะระเบิดอารมณ์จะไปได้ขนาดไหน ไปให้ถึงจุดคาแรกเตอร์ควรจะเป็น ทำการบ้านหนักอยู่ นั่งดูตัวร้ายในซีรีส์เกาหลี ในซีรีส์ฝรั่ง คือดูหมดเลย ต้องใช้เวลาสำรวจกับสมองตัวเองด้วยเพราะมันจะมีความขัดแย้งในตัวเอง เวลาเราจะแสดงโมโหใครหรือตีใครขึ้นมา เราจะมีความรู้สึกทำไมเราจะต้องไปด่าเค้าว่ะ ทำไมต้องไปตีเค้า จะทะเลาะกับตัวเองบ่อยมาก ต้องพยายามตัดความรู้สึกจริงๆของตัวเองออกไป ที่แบบ แล้วดึงด้านมืดของตัวเองออกมา ขึ้นไปคร่อมแล้วจับจิกหัวคือไปสุดเหมือนกัน”

มีเล่าให้เนยกับพิกเล็ท สองสาวฟังมั้ยเรื่องนี้มันแซ่บขนาดไหน “เล่าค่ะ ทุกคนก็ขำสิคะ เป็นสิ่งแปลกใหม่ ก็มีย้อนถามเค้ากลัวหรือเปล่าล่ะ มีปัญหามากกับเรื่องนี้แต่ก็ผ่านไปได้ เราทำการบ้านค่อนข้างเยอะ ตอนนี้สามารถวีนคนได้แล้ว (หัวเราะ) เหมือนเป็นอีกมุมนึงของตัวเราที่ไม่เคยค้นพบมาก่อนเลย”

ถามจริงๆเหอะชีวิตจริงเคยมีเรื่องทะเลาะลงไม้ลงมือกับใครมั้ย

“ทะเลาะสุดๆ โกรธสุดๆก็ไม่เคยขึ้นเสียง จะเงียบ โอเค คุยไม่รู้เรื่องคือจบ เราไม่คุยอีกต่อไป แต่จะไม่ใช่ฟีล เสียงสูง อะไรยังไงแบบในละคร จะไม่มีเสียงสูง หรือชี้หน้าด่าอะไรแบบนี้แน่นอน ซึ่งมันไม่ใช่เรา”

มีฉากเลิฟซีนเยอะอยู่นะเข้ากับใครบ่อยสุด “มีเข้ากับภัทร และไปหนักกับอินดี้ ตัวพระเอก เหมือนเค้าต้องเข้ามายั่วยวนเราแล้วเราก็เป็นผู้หญิงหิว พร้อมมาก ค่อนข้างหนักอยู่”

เล่นเองแล้วเขินมั้ย “ตอนแรกๆ ไม่เขินมากเพราะยังไม่ค่อยสนิทกัน อยู่กองไปเรื่อยๆ พอสนิท พอเล่นด้วยกันก็จะเขินแล้ว แจมเป็นโรคถ้าเป็นคนที่ใกล้ชิดจะยิ่งเขิน รู้สึกแหม่งๆ เพราะเรารู้อยู่แล้วก็เลยจะขำก่อน 5-4-3 ก่อนจะจูบยังแซวอยู่กันเลย”

ช่วงนี้แจมหันมารับละครเยอะขึ้นนะ “รับเรื่อยๆค่ะ ยังรับงานในวงการ มีละครก็รับไม่เกี่ยงบท ชอบที่จะได้ทำอะไรใหม่ๆ เสน่ห์อย่างนึงของการเล่นละคร เป็นสิ่งที่แจมชอบอย่างนึงก็คือเราได้ทำอะไรในแบบที่ในชีวิตประจำวันที่ไม่ได้เป็นเรา มันเป็นเรื่องที่น่าสนุก”

งานเพลงล่ะ จะมีซิงเกิลใหม่ๆให้แฟนๆหายคิดถึงบ้างมั้ย

“แทบไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะ ยิ่งเนย ตอนนี้เค้ามีความชัดเจนในสิ่งที่อยากจะทำ แพชชันไม่ได้อยู่ตรงวงการบันเทิงสักเท่าไหร่แล้ว ตอนนี้เป็นฟีลไปแอดเวนเจอร์ สำรวจโลก ไม่ได้อินกับการทำงานในวงการเท่าไหร่แล้ว แต่แจมยังทำได้อยู่เรื่อยๆ กับความแอดเวนเจอร์ก็มีนะแต่ติสต์ไม่เท่าเนย (หัวเราะ)”

แจมจะเน้นไปสำรวจโลกใต้ทะเลมากกว่าหรือเปล่า เห็นไปดำน้ำบ่อยมาก “ใช่ค่ะก็ไปกับเนยนี่แหละค่ะ (หัวเราะ)”

หลังๆพี่น้องพากันไปดำน้ำกันตลอดๆ “มีกิจกรรมชอบไปสคูบ้า มันเสพติดมาก เวลาอยู่บนบกก็จะรู้สึกโหยหามาก ชอบฟีลลิ่งของการอยู่บนเรือ เวลาไปสคูบ้าต้องออกทะเล อยู่บนเรือ 7 วัน ที่ชอบเลยคือไม่มีสัญญาณมือถือ ชอบมากไม่ต้องเล่นโซเชียล จริงๆ แจมไม่ค่อยชอบเล่นโซเชียลเลย คือทุกวันนี้ต้องพยายาม บังคับตัวเองเล่นอะไรพวกนี้ ผู้จัดการจะคอยเตือน แจมๆต้องลงรูปบ้างนะ ไปที่สวยๆลงรูป อย่าลืมถ่ายคลิปนะ แต่จริงๆ เป็นคนไม่ชอบเสพอะไรพวกนี้เลย พอมาทำกิจกรรมแบบนี้ ฉันอยู่ทะเลไม่มีสัญญาณนะทุกคน บาย เป็นข้ออ้างในชีวิต (หัวเราะ) ชอบใช้โมเมนต์แบบนี้ ชอบใช้เวลาอยู่กับสิ่งรอบตัวมากกว่า ไม่ค่อยชอบจอมือถือ”

ชอบดำน้ำเป็นชีวิตจิตใจขนาดนี้มีเป้าหมายอะไรไว้อยู่หรือเปล่า

“จริงๆ เนยมีเป้าไว้เหมือนกัน จะไปเชิงดำน้ำเชิงอนุรักษ์ เก็บขยะใต้น้ำทำอะไรๆ แต่แจมตอนนี้ยังเพื่อความสนุกสนานอยู่เลยค่ะ”

ได้ยินว่าสะสมชุดสำหรับการไปดำน้ำหลายชุดเลย “มีเยอะมากค่ะ เห็นได้จากชุดว่ายน้ำนะคะ เพราะเราไปทะเลบ่อยถ่ายรูปชุดว่ายน้ำ ร้านชุดว่ายน้ำก็ส่งมาให้เยอะ เราก็มีข้ออ้างไปทะเลบ่อยๆ (หัวเราะ) ถ้ามีเงินร้อยล้าน จะรีไทร์ตัวเองไปอยู่เกาะที่ไหนสักเกาะเงียบๆ แจมชอบความเงียบ ไม่ค่อยชอบสีสันเท่าไหร่ แต่ทุกวันนี้ต้องบังคับตัวเองทำงานก่อน จะได้มีเงินไปดำน้ำ (ยิ้ม)”

เวลา 3 พี่น้องโพสต์ชุดว่ายน้ำไฟลุกท่วมไอจี และเป็นแรงบันดาลใจให้สาวๆ หลายคนกล้าลุกที่จะทำอะไรแบบนี้ “เรื่องพวกนี้เราสปอยล์กับความเป็นสาวให้เต็มที่ แจมรู้สึกว่าสมัยนี้คนจะติดความเฟอร์เฟกต์มากจนเกินไป แต่ทุกคนไม่ได้เฟอร์เฟกต์ การที่เราถ่ายรูปบิกินี มันไม่ใช่เรื่องมานั่งกลัว เรายังผอมไม่พอ ไม่กล้าถ่ายรูปหรอก เราควรเอนจอย และเก็บความทรงจำดีๆเอาไว้ เราไปเที่ยวทะเล เราได้ถ่ายรูปสวยๆบนชายหาด ไม่ควรที่จะอายว่าใครจะว่าเราจะเป็นยังไง มันเป็นโมเมนต์ของเรา เราเอนจอยกับมัน เราพอใจ แจมรู้สึกว่าเราไม่ควรกดความรู้สึกตัวเองเอาไว้ กลัวว่าเดี๋ยวนี้โลกโซเชียลคนคอมเมนต์กันเก่ง รู้สึกว่าเราไม่สนใจเรื่องแบบนั้น”

อัปเดตความรักบ้าง ล่าสุดเปิดตัวแฟนหนุ่ม เจอกันได้ยังไงเหรอ

“เจอกันตอนไปดำน้ำนี่แหละค่ะ เจอกันบนเรือ ไม่ได้รู้จักมาก่อน แต่เป็นกลุ่มดำน้ำเพื่อนๆกัน”

มีใครแนะนำเป็นแม่สื่อพ่อสื่อให้มั้ย “ไม่มีค่ะ คือเหมือนกับเวลาไปอยู่กันเป็นกลุ่มหลายวัน เหมือนสนิทกันเอง”

เค้าแสดงอาการแบบที่เรารับรู้ได้ คงไม่ได้อยากเป็นแค่เพื่อนกับเราแล้วล่ะ “คุยกับเราเยอะไป ถามโน่นถามนี่ คุยกับฉันบ่อยจัง แต่ว่าเราไม่ได้ปิดกั้นอะไรคุยๆไป มุมอะไรหลายๆอย่างที่มันคล้ายๆ กัน เลยลองคุยดู”

ตอนนี้คุยได้นานขนาดไหน “คุยกันประมาณนึงก่อน 4-5 เดือน ถึงเปิดตัวโพสต์รูปค่ะ”

ก่อนหน้านี้ทำให้เวลาเราคบกับใครระแวง ระวังตัวขนาดไหน เริ่มต้นคุยกับใคร “จริงๆอยู่ที่ตัวแจมมากกว่าไม่ได้ไประแวงคนอื่นที่จะเข้ามา เราแค่เข้าใจสิ่งที่เราต้องการชัดเจน มันได้เคลียร์ตั้งแต่แรก ต่างคนจะได้ไม่ต้องเสียเวลาซึ่งกันและกัน”

ตกลงเป็นแฟน “ก็มีค่ะ (ยิ้ม) ตอนนั้นก็เขินแหละ แจมเป็นคน ถ้าเราคิดเริ่มต้นคุยกับใคร เราจะค่อนข้างให้เวลากับความสัมพันธ์ในแต่ละครั้งแจมไม่ใช่เป็นคนมีข้อกำหนดเยอะแยะ เธอทำอันนี้ฉันเลิกเลย กว่าจะมีแฟนแต่ละคนก็เลยค่อนข้างนาน”

กับคนนี้อายุห่างกันเยอะมั้ย “เค้าเด็กกว่าค่ะ ตอนนี้เค้าอายุ 28 แจมก็อายุ 34 ห่างกัน 5-6 ปี”

พอรู้ว่าคนที่คุยอายุน้อยกว่าทำให้เราคิดจะคบต่อหรือเป็นเพื่อนกันดีกว่า

“มีคิดอยู่เหมือนกัน ที่ผ่านมาไม่เคยคบคนอายุเด็กกว่าเราขนาดนี้แต่ว่า ถามว่าเด็กมั้ยแต่เขาทำงานแล้ว เลยรู้สึกไม่อยากตั้งป้อมเธออายุน้อยกว่าฉัน ยังไม่ประสบความสำเร็จหรือเปล่า แจมรู้สึกว่าไม่อยากดูถูกใคร เขาทำงานแล้วดูแลตัวเองแล้ว มันก็ไม่แปลก พอคุยกันเขามีวุฒิภาวะค่อนข้างสูงและมีสติมากกว่าแจมด้วย (หัวเราะ) มีความเป็นผู้ใหญ่กว่าแจม โตแล้วหรือยังไม่โต ไม่ได้ดูว่าอายุเท่าไหร่ มันคือความคิด ความอ่านมากกว่า แจมให้ความสำคัญมุมมองการใช้ชีวิตมากกว่า”

คาดหวังความรักครั้งนี้มากน้อยขนาดไหน “ไม่คาดหวังเลยค่ะ เราได้เรียนรู้จากประสบการณ์หลายๆอย่างมา มีการคาดหวัง เหมือนเป็นสิ่งที่บังคับมุมมองของเราจนเกินไป เลยรู้สึกว่าเราอยากจะทำในวันนี้ ปัจจุบันให้เต็มที่เพื่อที่เราจะได้ไม่เสียใจภายหลัง เป็นตัวเองให้มากที่สุด มันจะได้รู้ไปเลยว่ามันโอเคหรือไม่โอเค ครั้งนี้ค่อนข้างโอเพ่น เป็นตัวเองมากเลย ความชอบไม่ได้ปรับจะทำให้เห็นเราเป็นยังไง โดยที่เราไม่ฝืน ที่ผ่านมาเราฝืนหรือมองข้ามเรื่องใดเรื่องนึงไป มันเป็นชนวนเล็กๆที่ทำให้สะสม รอวันระเบิด ทำให้เรารู้สึกไม่ควรมองข้าม มีอะไรคุยเลย”

พอมีคนคุยๆแบบนี้ก็มาจุดประกายเรื่องชีวิตครอบครัวด้วยไหม “จริงๆเรื่องนี้เป็นสิ่งนึงที่ผู้หญิงหลายๆคนก็คิดแต่แจมไม่ได้คิดให้กับตัวเอง ถ้าคุยมันดี ปีกว่าสองปีจะแต่งเพราะว่าแจมรู้สึกว่าอะไรเกิดขึ้นได้ วันนี้เรารู้จักกัน และวันข้างหน้าอีก 3-4 ปีที่รู้จักกัน เราโตขึ้น ประสบการณ์มากขึ้น แต่ละคนเจอสิ่งต่างๆที่เข้ามาในชีวิต ไม่เหมือนกัน เวลาเปลี่ยนคนอาจจะเปลี่ยน ขึ้นอยู่กับเปลี่ยนไปแค่ไหนแล้วเรายังจับมือกันอยู่หรือเปล่า ก็เลยไม่ได้คาดหวังหรือคิดอะไรมาก ความรักในวันนี้มีสติให้มากขึ้นค่ะ ออกจากทุ่งลาเวนเดอร์ก่อน เมื่อก่อนเป็นคนมีความเชื่อมั่นในความรักรุนแรงมาก จนแบบบางทีเราลืมตัวตนของตัวเองไป หรือมองข้ามความสุขของตัวเองไป ตอนนี้ทำให้เราคิดหลายๆอย่างได้เยอะขึ้นค่ะ”.

เรื่อง: วรรณี ห่อวโนทยาน

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2656711
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2656711