หลังจากใช้เวลาโพสต์ไม่นานก็ได้ภาพสวยๆ แซ่บๆ จนพออกพอใจในผลงานชิ้นนี้ เลยได้นั่งเล่ายาวถึงคาแรกเตอร์ในซีรีส์ “Love Me Again อีกครั้ง…ฉันรักเธอ” รับบทเป็น “บี” และ “ป้าผึ้ง” คาแรกเตอร์ 2 ตัวละครจะไม่ได้แตกต่างกันเพราะว่ามันคือคนคนเดียวกัน เพียงแต่พาร์ตที่ป้าผึ้งมาเป็นบี เขาก็จะพยายามทำทุกอย่างให้ตรงกันข้ามกับป้าผึ้ง เพื่อให้ป๊อบชอบเท่านั้นเอง

“มายด์ตัดสินใจเล่นเรื่องนี้มาจากบทเลยค่ะ มีความแปลกใหม่เป็นอะไรที่บอกว่าไม่เคยได้รับบทอะไรที่เป็นแบบนี้ แล้วมันท้าทายดีมันชาเลนจ์ดี ก็อยากจะเล่นอะไรที่มันแปลกๆ ใหม่ๆ”

ชอบตัวไหนมากกว่ากัน? “จริงๆก็ชอบทั้ง 2 ตัวเลยนะคะ เพราะมันคือคนคนเดียวกัน แต่มายด์รู้สึกว่าตัวป้าผึ้งจะเล่นยากหน่อย เพราะว่าด้วยวัยที่มันไม่ได้ใกล้เคียงกับเรา เลยทำให้เราต้องทำการบ้านหนักขึ้น”

ด้วยความที่เรื่องนี้เป็นแนวคอมเมดี้ ยากไหมล่ะ? “ถนัดเลยค่ะ ชอบมากเล่นแล้วไม่เครียด เพราะว่าที่ผ่านมามายด์จะเล่นบทประมาณนี้มาเยอะเหมือนกันค่ะ ประมาณ 2-3 เรื่อง ก็คิดว่าคอมเมดี้เป็นอีกทางนึงที่ถนัด”

ส่วนฉากเลิฟซีน? ถือว่าเป็นบทยาก ปราบเซียนของใครต่อใครมานักต่อนัก แต่ไม่ได้ทำให้สาวมายด์หนักอกหนักใจ…“สนุกดีค่ะ มันไม่ได้ต้องเลิฟซีนจริงจัง แต่ว่าจะเป็นเลิฟซีนแบบตลกๆ ก็เลยสบาย ก็ไม่เขินนะคะ เพราะว่าคนกันเองค่ะ กะว่าเล่นทีเดียวให้ผ่านเต็มที่ไปเลย เราก็จะมีนัดแนะกันก่อนเหมือนกันอย่างเลิฟซีนที่ดุเดือด เราก็จะมีการคุยกันนัดคิวกันเพื่อให้มันโฟลว์เพื่อที่เราจะได้เทกเดียวผ่าน แล้วต่างคนก็ช่วยกันเซฟกันและกัน ซึ่งถ้าฉากนี้ออกไปหนูว่าคนดูน่าจะขำมากกว่าเขิน แล้วเขาก็คงจะชอบกันค่ะ ส่วนร่วมงานกับมิวสบายเลยค่ะ มิวเป็นคนรับส่งอารมณ์ได้ดี เวลาเล่นกับมิวเราไม่ได้รู้สึกว่าเล่นอยู่ฝ่ายเดียว มิวเขาจะรับทุกเมสเสจที่เราส่งไปแล้วก็ส่งทุกเมสเสจให้เรารู้สึก มันก็เลยค่อนข้างที่จะโฟลว์ ถ้าต่างคนต่างเล่นอยู่ฝ่ายเดียวมันก็จะไม่สมูทไม่ไปด้วยกัน”

ประกบหนุ่มฮอตอย่าง มิว–ศุภศิษฏ์ ซึ่งมีแฟนคลับเยอะและหวงมาก ทำให้เรารู้สึกกดดันบ้างไหม? สาวมายด์เล่าอย่างอารมณ์ดีว่า… “จริงๆก็ไม่นะคะ มายด์ว่าแฟนคลับทุกกลุ่มไม่ใช่แต่เฉพาะมิวเวลาที่ศิลปินมีงาน เขาก็พร้อมที่จะซัพพอร์ตตลอดเวลาอยู่แล้ว แฟนคลับมิวเขาก็น่ารักมาก ทุกครั้งที่มิวลงสตอรี ลงรูปคู่หรือว่าทวีตถึง แฟนคลับก็จะเอารูปไปรีโพสต์แล้วก็จะส่งกำลังใจให้พวกเราตลอด ส่วนแฟนคลับของมายด์เองทุกคนก็บอกว่าน่ารัก อยากดูผลงานของเราสองคน คือเห็นจากในภาพเคมีมันก็ไปกันได้ดี เลยอยากจะเห็นผลงานออกมาแล้ว”

ส่วนความรักก็ “แฮปปี้” สุดๆ ถือว่าเป็นคน “ลักกี้อินเกม ลักกี้อินเลิฟ” กับหนุ่มนอกวงการ บ่มรักคบมา 6-7 ปี ไม่เคยมีเรื่อง “แซด” ให้เศร้าใจ สาวมายด์ เล่าถึงแฟนหนุ่มตาเป็นประกายขึ้นมาทันที…“ก็เรื่อยๆค่ะ 6 ปี เข้าปีที่ 7 แล้ว ไม่ได้หวือหวาไม่ได้อะไร คบกันตอนนี้ความสัมพันธ์มันเหมือนเป็นเพื่อนดูแลกันไปยาวๆ แฟนเป็นคนนอกวงการค่ะ”

จุดเริ่มต้นความรัก? “เพื่อนแนะนำให้รู้จัก มารีน่าที่เล่นเรื่องน้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ด้วยกัน ช่วงนั้นเราโสด ไม่ได้มีแฟนไม่ได้มีใคร แล้วเขารู้ว่าไลฟ์สไตล์เราเป็นยังไง พอดีมีพี่คนนึงที่เขารู้จัก และเขาคิดว่าไลฟ์สไตล์มันน่าจะแมตช์กันมันน่าจะเข้ากันได้ก็เลยแนะนำไปเจอ ก็คุยกันถูกคอตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา”

ไลฟ์สไตล์ที่แมตช์กันคืออะไร? “ชอบฟังเพลงชอบไปดูคอนเสิร์ต ครั้งแรกที่เจอคือไปกินข้าวด้วยกันก่อน แล้วบ้านเขาไม่ได้อยู่ไกลจากตรงนั้น มีมารีน่ากับแฟนมารีน่าไปด้วยก็ไปเล่นดนตรี เพราะเขาก็เป็นคนที่ชอบเล่นดนตรีเหมือนกัน หลังจากนั้นค่อยชวนกันไปดูคอนเสิร์ต เดตแรกก็ไปดูคอนเสิร์ตด้วยกันเลย (ชื่อคอนเสิร์ต) ที่เดอะสตรีตรัชดา พอมันคลิกกันด้วยเพลงมันก็เลยจูนกันติดเร็วมาก”

เจอกันครั้งแรกเขาบอกเลยไหมว่าจะจีบเรา? “ไม่ค่ะ ทุกวันนี้ยังไม่เคยขอกันเป็นแฟนเลย ให้สถาน การณ์มันพาไปดีกว่า เพราะ ว่าตั้งแต่มายด์มีแฟนมาไม่เคยมีใครที่ขอเป็นแฟนเลย เป็นคนไม่ชอบพิธีอะไรที่มันจะต้องแบบเธอเราเป็นแฟนกันนะ อาจจะเป็นเพราะว่ามายด์ ไม่ได้เป็นคนที่โรแมนติกขนาดนั้นด้วยค่ะ ก็ให้มันเป็นไปตามสิ่งที่มันควรจะเป็นไปเรื่อยๆ ก็คุยกันเป็นเพื่อนกันมาเรื่อยๆ ตอนแรกยังไม่รู้ว่าเขาจะจีบไหมด้วยซ้ำ นึกว่าจะคุยกันแบบเป็นเพื่อน ไปดูคอนเสิร์ต ไปๆ มาๆ ก็สปาร์กกัน แล้วสถานการณ์มันก็พาไปเอง”

คบกันมาหลายปีแบบนี้ยังมี สิ่งที่ต้องปรับจูนเข้าหากัน? “ด้วยความที่เขาเป็นคนนอกวงการแล้วเราเป็น คนในวงการ ช่วงที่ปรับตัวกันช่วง 2-3 ปีแรก เรื่องเวลามันจะไม่ค่อยแมตช์กัน เขาทำงานบริษัท เวลาเราที่จะเจอกันมันเลยไม่แน่ไม่นอนของเราด้วยว่าเสาร์อาทิตย์นี้อยากไปนู่นไปนี่จะไปได้ไหม เราก็ให้คำตอบเขาไม่ได้ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าละครใช้คิวหรือเปล่า มันก็เลยมีปัญหาตรงนี้ค่ะในช่วงแรก แล้วด้วย culture เขาโตมาแบบฝรั่งด้วย แล้วเราคนไทยตั้งแต่เกิดเลยมันก็เลยต้องปรับจูนกันเยอะประมาณนึง”

ระยะเวลาคบกันมาเข้าปีที่ 7 อยากรู้เลย เริ่มคุยๆอนาคตร่วมกันบ้างไหม? สาวมายด์มีคำตอบว่า…แฟนตนเองเป็นคนที่ไม่ค่อยพูด เชื่อว่าถ้าถึงเวลาเดี๋ยวเขาจัดการเอง ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ เหมือนตอนคบกันตนก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรม ชาติ ถ้าจะต้องมีเรื่องอนาคตสร้างครอบครัวก็ให้เป็นไปตามธรรม ชาติดีกว่า…“แต่สิ่งที่ทำให้เราคบกันมาได้ยาวนานเพราะความไว้ใจกัน เขาเป็นคนที่ทำให้มายด์รู้สึกว่าเราไว้ใจได้ แบบไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องอะไรเลย ไม่เคยมีเอ๊ะอะไรเลยสักครั้งเดียวตลอดระยะเวลา 6 ปีที่คบกัน แล้วอย่างเราเราก็ ใช้ชีวิตง่ายๆ เขาก็จะรู้ว่าเราเป็นยังไง อีกอย่างนึงคือการให้สเปซเราไม่ต้องมาตัวติดกันตลอดเวลา หรือว่าต้องมาคุยกันทั้งวันตลอดเวลา บางทีคนมาถามว่าเขาทำอะไรเราก็บอกว่าไม่รู้เหมือนกันไม่ได้คุยเลยวันนี้ คุยโทรศัพท์กันไม่เคยเกิน 10 นาที เป็นคนไม่ชอบคุยโทรศัพท์เหมือนกันค่ะ ชอบเจอมากกว่า จะเน้นเจอกัน เขาก็เหมือนกัน ไลน์ไปก็ไม่ค่อยตอบด้วย ถ้าอยากจะคุยก็คือมาเจอกัน เขาเป็นคนไม่ติดโทรศัพท์เลย ดังนั้นจะชอบมาเจอกันมาก กว่าค่ะ”.

เสื้อผ้า : SWIMME
สถานที่ : Am Tea Coffee Bar
ภาพ : ธนพล นนทะจันทร์