ยุคนึงสปอตไลต์ทุกดวงส่องมาที่คุณ คนให้ความสนใจทั้งเรื่องงาน ความรัก ตอนนั้นรู้สึกมั้ย?

“ตอนที่อยู่ตรงนั้นไม่รู้สึกครับ ตอนที่ผ่านมาแล้วถึงจะรู้สึก”

ย้อนกลับไปดูคิดว่าช่วงไหนที่มีชื่อเสียง?

“น่าจะเป็นช่วงเล่นละคร “แจ๋วใจร้ายกับคุณชายเทวดา” ยาวไปถึง “สุดเขต สเลดเป็ด” แล้วก็เพลง “มาเลเซีย” แต่ตอนนี้ น้องๆบางคนเค้าไม่รู้จักนะ เคยมีคลิปนึงที่ผมพูดถึงเรื่องตอนที่ผมดังๆผมทำอะไรแย่ๆบ้าง มีน้องๆเข้ามาคอมเมนต์ว่า “เป้-อารักษ์” นี่ดังเหรอ ผมก็เออใช่ บางคนมันไม่รู้จักแล้ว ผมก็เขินอายที่จะพูดถึงช่วงเวลานั้นแล้ว เพราะว่ามันผ่านมานานแล้วครับ และตอนนี้ผมค่อนข้างปกติ เป็นนักแสดงที่รับผิดชอบหน้าที่การงานเฉยๆ”

คุณคือข่าวหน้าหนึ่งในยุคนั้น?

“บ่อยเนอะ เดี๋ยวนี้เด็กๆเค้าไม่รู้จักแล้ว ถือว่าผมโชคดี ขอบคุณมากครับ เพราะว่าหน้าตาผมถือว่ากลางๆในประเทศนี้นะ ถ้าคุณจะเทียบกับคนเดินถนนทั่วไป หรือแม้แต่ตามแคตวอล์กก็กลาง ส่วนสูงก็กลาง ฝีมือผมพยายามทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ว่าเอาจริงๆ ตอนเริ่มมามันก็ไม่ได้ดี ตอนเริ่มมาก็เป็นเรื่องน่าปวดหัวในกอง มันไม่เหมือนเด็กสมัยนี้เข้าอะคาเดมีจริงจัง กว่าจะได้ทำอะไรสักอย่างมันต้องเรียนกัน ต้องแข่งกันเยอะมาก เรานี่อยู่ดีๆเข้ามาวงการบันเทิง ผมยาวๆ ล้างหน้าไม่เป็น สิวขึ้นมากอง มันไม่มีแล้วเดี๋ยวนี้ นี่คืออาชีพ นี่คือเรื่องที่คุณต้องจริงจัง ที่คุณต้องฝึกมา ผมว่าผมโชคดีแล้วกันครับ”

ยุคสมัยเปลี่ยน “เป้” มีมุมมองกับการมีชื่อเสียงในยุคนี้ยังไง?

“ผมว่าเทรนด์มันเปลี่ยนเร็วมาก ไม่มีใครดังนาน และทุกคนก็ดังได้ ไม่ใช่ว่าไม่ดังนานแล้วไม่มีกินมีใช้นะ คุณจะมีตลาดของตัวเอง ทำมาหากินได้ มันมีคนที่รักในตัวคุณเยอะแยะมากมายที่คุณไม่จำเป็นต้องดังทั่วประเทศเหมือนเมื่อก่อน ผมโชคดีที่มาในช่วงเวลาที่มีคนดังไม่กี่คน เอาจริงถ้าให้ผมไปแข่งกับน้องๆ ตอนนี้ผมไม่เชื่อว่าจะแข่งได้ เพราะคุณภาพเค้าสูงจริงๆ อย่างสกิลเรื่องเพลงผมก็สู้ไม่ได้แล้ว น้องๆสมัยนี้เก่งมากๆเลย รวมถึงไอเดียการคิดคอนเทนต์ ช่วงหลังผมไปสนิทกับธามไท ทำแบรนด์ “ลงนวมบอยส์” ด้วยกัน น้องมีไอเดียอีกแบบเลยครับ ธามไทถือเป็นเจนยุคใหม่ที่เด็กๆชื่นชอบ ได้ซึมซับกับน้องมาหลายอย่าง น้องก็สอนผมหลายอย่าง แต่แปลกมาก ผมไม่เคยยอมแก่ ผมไปเที่ยวกับพวกเค้าได้ ไปแฮงเอาต์ด้วยกันได้ หรือทำงานด้วยกันได้”

สิ่งที่อยากทำจากนี้ไป?

“ถ้ายังเป็นนักดนตรี แน่นอนถ้ายังแต่งเพลงได้ ช่วงกลางปีนี้ผมจะออกอีกหนึ่งอัลบั้ม เป็นอัลบั้มที่ 7 มี 10 กว่าเพลง ก็จะเต็มที่เลย เข้าห้องอัดกันจริงจัง กลับไปทำดนตรีแบบออร์แกนิกอีกครั้ง อัลบั้มล่าสุดชื่อ “The Back Seat” จะเป็นก๊อกสุดท้ายของเพลงเก่าๆที่ผมเอามารวมทั้งหมด ถ้าผมแต่งเพลงใหม่ไม่ได้ ผมก็ไม่รู้จะทำดนตรีทำไม ถ้าแต่งไม่ได้ก็คงไม่ทำ ถ้าแต่งได้ก็คงทำไปเรื่อยๆ”

เราได้เรียนรู้อะไรอีกมั้ยจากชื่อเสียง โอกาสที่มันเข้ามา?

“ผมไม่รู้เรื่องเลยว่าการมีงานอยู่ในวงการมันจะยาวไปได้แค่ไหน เพราะว่าน้องๆชอบมาถามผมนะครับว่า อยากทำงานในวงการนี้มันต้องทำอะไรบ้าง เพราะตอนผมเข้ามาก็ทำอะไรน้อยมาก มันเข้ามาได้เองแล้วเราก็แค่ทำตามคำสั่ง แต่ว่ายุคนี้มันอยู่ใต้การตัดสินใจของคนอื่น เพราะฉะนั้นต่อให้เราเก่งแค่ไหน ถ้าคนอื่นเค้ายังไม่เห็นเรามันก็ยาก ได้แต่บอกว่าถ้าชอบอะไร อยากทำอะไร ก็ทำไปเรื่อยๆ อย่าหยุด”

เห็นว่า “เป้-อารักษ์” มือใหม่เล่นโซเชียล?

“เพิ่งมาเล่น TikTok ได้ไม่นานนะครับ น้องๆที่ค่ายสอน ต้องทำคลิปซึ่งผมจะปรับตัวช้าหน่อย ต้องทำยังไง อันนี้จะดราม่ามั้ย ทำอย่างนี้จะดีมั้ย มีบางคลิปที่เราทำออกมาแล้วคุยกับธามไทแล้วแบบ เออ อยู่เฉยๆแล้วน่าจะดีกว่านะก็ลบไปครับ”.