โต้ง เผยว่า “เรารู้จักกันนานมากแล้ว ซี้เลย ปกติคนที่ซี้ๆผมจะไม่ค่อยลงอินสตาแกรม รู้จักกันนาน แล้ว และช่วงนี้เจอบ่อย แล้วก็พี่พก-ประธานวงศ์ เหมือนศาลาคนโสด ประมาณนี้ ก็ได้เจอกันบ่อยๆครับ ไม่มีอะไร”

ยืนยันสถานะเป็นพี่น้องกัน?

“ครับ พอมีข่าวโดนจับคู่ก็ได้คุยกับพี่พลอยครับ น่ารักดี พี่พกด้วย เป็นอะไรที่เข้าใจสถานการณ์ เจอกันบ่อย พี่พกยังบอกเลยว่าที่จริงเป็นผมกับเค้า (หัวเราะ) จริงๆกลุ่มพี่พลอยกับกลุ่มผมคือกลุ่มเดียวกันเลย แต่ช่วงนี้เค้าได้ออกมาแฮงเอาต์บ่อยขึ้น ผมก็ได้มาแฮงเอาต์บ่อยขึ้น ก็เลยได้เจอกันบ่อยมากกว่าเมื่อก่อน”

โอกาสพัฒนามีมั้ย?

“อันนี้ไม่ได้คิดไว้เลยครับ”

พลอยว่ายังไงกับเรื่องนี้?

“เค้าก็กลัวว่าจะกระทบอะไรผมหรือเปล่า พอเป็นข่าวก็คุยกันมากขึ้น เจอกันบ่อยช่วงนี้ ก็มีคุยเรื่องข่าว สงสาร มารี เบรินเนอร์ ไม่เกี่ยวอะไรเลย”

โดนจับเป็นคู่ๆเลย?

“ใช่ แต่ก็เข้าใจว่าเหมือนเรามาเจอกัน พี่พกก็โสด ผมโสด ก็เข้าใจ”

กับพลอยไม่มีหวั่นไหวเลยเหรอ?

“ผมหวั่นไหวกับเค้าอยู่แล้ว ผมปลื้มเค้าตั้งแต่เด็กๆอยู่แล้ว”

เค้าหวั่นไหวกับเราหรือเปล่า?

“ไม่รู้ๆ ไม่กล้าคิด”

พลอยตรงสเปกเรามั้ย?

“พี่พลอย ผมปลื้มเขาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว เป็นผู้หญิงที่สวยมากๆคนนึง”

ตอนนี้เรายังโสดมั้ย?

“โสดครับ”

มีคนเข้ามาบ้างมั้ย?

“จริงๆก็พยายามคุย พยายามศึกษา แล้วก็ไม่ได้ปิดกั้น มีเวลาศึกษาเป็นเพื่อนกัน ดูแลกัน เข้าใจกัน แต่สตัฟฟ์คำว่าเป็นเพื่อน ยังไม่มีใครพิเศษ ก็ศึกษาไปเรื่อยๆ ไม่ได้รีบอะไร ศึกษานี่หมายถึงเป็นเพื่อนกัน รู้จักนิสัยใจคอกัน ไม่ได้จีบ ไม่ได้ว่าต้องเป็นแฟนนะ ฉันจะจีบเธอ เรารู้สึกว่าเป็นไอเดียใหม่ในชีวิตผมกับมุมมองเรื่องความรัก”

ความรักครั้งใหม่ของเราก็จะมาในรูปแบบเป็นเพื่อนกันมาก่อน?

“ผมว่าก็ดี น่ารักดี แฟร์ดี”

ตอนนี้อยากมีแฟนมั้ย?

“โห! อยากมีมั้ยล่ะครับ คุกเข่าขนาดนั้น (ยิ้ม) จริงๆผมอยากมีความรัก อยากมีครอบครัวอยู่แล้วครับ เป็นอะไรที่เราเชื่อมั่นตรงนั้นอยู่แล้ว เราเชื่อในความรักที่ดีเสมอ”

มันจะยากขึ้นมั้ยกับการเริ่มต้นใหม่?

“ยากอยู่แล้วครับ การที่คนคนนึงจะเจอ ไม่ง่ายเลย”

แล้วผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นยังไง?

“ผมว่าถ้าเป็นเพื่อนกันได้แล้ว มันรักด้วยความเป็นเพื่อน เข้าใจกันทั้งซ้ายทั้งขวาทั้งลึก ทุกอย่างพอเป็นเพื่อนกันได้ ทุกอย่างเป็นมิตรภาพที่ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องอะไร ผมว่าน่าจะเป็นการเริ่มต้นพื้นฐานความรักที่ดีน่าจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน”

ช่วงนี้แฮงเอาต์กับเพื่อน เพื่อนมีแนะนำสาวๆบ้างมั้ย?

“ไม่ค่อยครับ ผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องการแนะนำกัน ผมว่าของพวกนี้มันแบบเคมี หรือพรหมลิขิต มันน่าจะมาเอง ไม่ค่อยให้ใครแนะนำ ผมว่าจะเป็นอะไรที่ให้พลังโคจรมาเจอกัน”

ล่าสุดโดนลูบเป้าบนเวที?

“จริงๆผมก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก แต่ถ้าผมลูบกลับเค้าก็ต้องไม่ว่าผมด้วย (หัวเราะ) ถามว่าตกใจมั้ยก็ตกใจครับ แซวเข้าไปในคอนเสิร์ตว่า คุณอย่าทำแบบนี้กับผมนะ คุณอย่าลืมว่าตอนนี้ผมโสดนะ ผมไม่ใช่คนก่อนแล้วนะ ผมก็แซวตลกๆในคอนเสิร์ต จริงๆเราเจอคนดื่มแอลกอฮอล์มาตลอด แต่ผมก็บอกว่าถ้าผมทำ ต้องห้ามว่ากัน แซวเล่น (ยิ้ม) แต่ว่าจับแบบนั้นไม่ปกติ แต่เจออะไรที่ดึงแขน แม้กระทั่งหาเรื่อง มันก็ต้องระมัดระวังจริงๆ ก็อันตราย”

ต้องมีการตักเตือนมั้ย?

“ผมรู้สึกว่าเพื่อนเค้าถ้ามาเที่ยวด้วยกันต้องดูแลกันและกัน เพราะคนเมาก็คือคนเมา มาเที่ยวด้วยกันก็ต้องดูคนข้างๆให้ดี”

ในฐานะที่เป็นศิลปิน แฟนๆก็เป็นห่วงเราอยากจะบอกอะไรมั้ย?

“จริงๆก็ต้องขอบคุณครับถ้าสมมติว่าเปลี่ยนจากมือเป็นอาวุธหรืออะไรมันอันตราย ก็ขอบคุณที่แฟนๆเป็นห่วงและเข้ามาปกป้อง ผม ก็รู้สึกประทับใจมาก ก็นั่นแหละศิลปินเล่นคอนเสิร์ตในผับ ก็ต้องระวัง”

หลายคนก็บอกว่าเราแก้สถานการณ์ได้ดีสามารถคุมอารมณ์ได้ด้วย?

“ผมก็เล่นมุกแบบแบดโจ๊กของผมไป ก็แซวกลับแบบตลกร้ายของผม (ยิ้ม) ก็หวังว่าเค้าจะไม่โกรธผม (ยิ้ม)”.