ดาว มยุรี ถูกบูลลี่หน้าผี ตัดสินใจจะทำศัลยกรรมครั้งสุดท้ายในชีวิต


ให้คะแนน


แชร์

หลังจากที่ ดาว มยุรี พันธนาม เคยออกมาประกาศว่าจะแขวนไมค์ สลัดคราบนักร้องมืออาชีพ แต่หลายคนกลับมองว่าสาเหตุที่แท้จริงของเธอ เพราะอับอายหน้าตาที่ศัลยกรรมเป็นพิษ หนำซ้ำยังถูกครหาว่าหน้าเหมือนผี มนุษย์ต่างดาว

ล่าสุดได้มานั่งเปิดใจในรายการ คนดังนั่งเคลียร์ ทางช่อง8 เคลียร์ให้สังคมหมดข้อสงสัย แถมมีอึ้ง เมื่อเธอขอตัดสินใจทำศัลยกรรมเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต หลังจากมีปมที่ขมขื่นตลอด 20 กว่าปีที่ผ่านมา งานนี้ ดาว มยุรี ได้ตอบคำถามแบบละเอียดยิบ 

ชีวิตของเธอตอนนี้ทำมาหากินอะไร?

“ทุกวันนี้เช้ามาตื่นทำบุญใส่บาตร ช่วงเย็นออกกำลังกาย ก่อนนอนสวดมนต์ไหว้พระ คือทุกวันนี้ทำให้ชีวิตตัวเองให้มีความสุข สะสมบุญดีกว่า เพราะชีวิตดาวมันผ่านอะไรมาเยอะมาก พอวันนึงคนเราไม่เห็นทุกข์ไม่เห็นธรรม พอเราเห็นธรรมะ เราก็มีความรู้สึกว่าสิ่งที่เราจะเอาไปได้ทุกวันนี้ก็คือบุญเท่านั้น ข้าวของ เงินทอง ลูก ผัว อะไรก็ตามมันทำให้เราเห็นสัจธรรม”

เห็นว่าประกาศจะขึ้นเขียง โมหน้าครั้งสุดท้ายในชีวิต?

“จริงๆ แล้วอาจารย์ เราก็สวยอยู่แล้วค่ะ แต่บังเอิญเวลาดาวออกงานทีไร นานๆ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ออกงาน มีอยู่ไปออกรายการนึง นักข่าวมาสัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องของศัลยกรรม ที่โดนดราม่าต่างๆ ก็เลยบอกว่าอาจจะมีต้องผ่าตัดอีก ก็เลยบอกไป เป็นคนทำอะไรแล้วชอบบอก บอกกล่าวไป มันก็กลายเป็นดราม่าขึ้นมา”

ตลอดเวลา 20 ปีที่ผ่านมาที่เธอโดนบูลลี่ต่างๆ นานา นักร้องอะไรหน้าเหมือนมนุษย์ต่างดาว อย่างกับศพ มันคงเป็นปมที่ไม่สบายใจกับดาวไหม?

“เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วมันเป็นปมค่ะ มันอ่านแล้วมันรู้สึกเสียใจมากเลย หน้าผี หน้าเหมือนมนุษย์ต่างดาว สารพัดหน้าเลย ตอนนั้นเรายังไม่มี พ.ร.บ.คุ้มครอง เราก็ปล่อยผ่าน จนกระทั่งมากเข้า หนูเชื่อเรื่องกรรมเนอะ มันคือกรรมของเราส่วนนึง หนูคิด แต่แล้วแต่คนที่จะเชื่อนะคะ

เราเชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษ อดีตชาติเราอาจจะทำอะไรมาเราก็ไม่ทราบ พอมาชาตินี้ก็รู้สึกว่าแก้ก็ไม่จบสักที ก็เลยเอาธรรมะแผ่บุญให้กับเจ้ากรรมนายเวรเยอะๆ พอตอนหลังเริ่มปล่อยมากๆ เข้า เอ๊ะรู้สึกมันจะแรงนะ เริ่มมี พ.ร.บ.คุ้มครองใช่ไหมคะ คุ้มครองพวกมือคีย์บอร์ดทั้งหลาย ก็คิดอยู่อาจจะต้องฟ้องบ้างค่ะ”

ความรู้สึกที่คนเอาไปพูดกันไม่จบ เพราะนิสัยของเธอ ยิ่งแก้ก็ยิ่งพัง ทำไมดาวจะต้องทำแบบนี้?

“จริงๆ ก็ไม่ได้ยิ่งแก้ยิ่งพังนะอาจารย์ มันยิ่งแก้ก็ต้องยิ่งสวยขึ้นสิ แต่ด้วยความเป็นคนที่ หน้าเรายังไม่เข้าที่ บางทีเป็นคนถ่ายรูป หรือลงอะไรไปแบบนี้ คนก็จะเข้ามาอย่างนั้นอย่างนี้”

ขอถามตรงๆ ตรงไหนที่ไม่ชอบเลย?

“ไม่ชอบเลยคือคาง เพราะว่าเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ย้อนกลับไปเนอะ ดาวก็บอกหลายครั้งแล้ว ดาวเจอหมอเถื่อน โดนซิลิโคนฉีดไปที่หน้า แล้วมันไหลมาอยู่ตรงคาง ที่เกิดเอฟเฟกต์อะไรกลับมาแบบนี้”

หมอเถื่อนคนนี้ที่ทำให้ดาวต้องแก้ มันไม่ใช่ซิลิโคนคุณภาพดี?

“ไม่ใช่ค่ะ เป็นซิลิโคนที่หมอเขาเอาไว้ใช้รักษา มาผสมกับออยล์ฉีดหน้าให้เรา หมอ 20 กว่าปีที่แล้วเป็นหมอเถื่อนอาจารย์ ดาวเจอหมอเถื่อน ดาวไม่ได้เจอหมอผ่าตัดนะ”

เธอไม่ดูหมอหรือเปล่า หลับหูหลับตา?

“ถ้าพูดถึงตอนนั้น ดาวเป็นคนที่เชื่อคนง่าย ไม่ศึกษาหาข้อมูล จะบอกว่าชอบของฟรีก็อันนึง แต่ว่าอันแรกก็คือเชื่อคนง่าย และไม่ได้ศึกษาหาข้อมูล เมื่อย้อนกลับไปเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ศัลยกรรมเปิดบ้านเราไม่มีนะคะ ก็ดึงกันไป บอกต่อๆ กันไป ห้องกว้างเท่านี้ (สตูดิโอ) คนนั่งรอ 40-50 คน รอที่จะฉีด เราก็เข้าใจว่าคงจะดี คงคิดว่ามยุรีไป เชิญก่อนเลยค่ะ เพราะเป็นศิลปิน”

ทำ 1 ครั้ง พอมันพัง ต้องตามแก้อีกกับหมอไม่รู้กี่คน ไม่ต่ำกว่า 10 ครั้งจริงไหม?

“ถ้าแก้ผ่าตัดคางน่าจะ 6-7 ครั้งค่ะ”

มันกลายเป็นเม็ดสาคูเป็นเม็ดเล็กๆ อยู่ใต้ผิวหนังเหรอ?

“ดาวไม่ได้ฉีดครั้งเดียว ไปเจอหมอคนนี้ทีไร หนูก็โดนเติมๆ พอเติมมันก็บาน เสียโหงวเฮ้ง คางยาวบาน ต้องไปผ่า ตอนแรกหน้ามันเหมือนแมว หน้าบวมมาก เพราะมันฉีดเยอะ ดาวก็รีด เข้าห้องซาวน่าเอาไข่รีด นานเข้ามันก็ไหลมากองอยู่ด้านข้าง หน้าเราใหญ่ คางเรายาว หนูก็ต้องหา ในเมื่อตัวเองทำตัวเอง เป็นคนที่ไม่ยอมแพ้ไง ในเมื่อมึงทำตัวเอง ก็ต้องแก้ด้วยตัวเอง แล้วก็เป็นคนที่เปิดเผย”

เวลาส่องกระจกมองตัวเอง และต้องออกงาน มันเหมือนไฟมันสุมในใจตลอดไหม?

“มันก็เป็นค่ะอาจารย์ เพราะว่าเราหน้าเคยสวย เราขาดโอกาสงาน ขาดอะไรหลายๆอย่างหมดเลย ขาดความมั่นใจ เสียกำลังใจ มันรวมเป็นภาพรวมไปหมด”

คิดไหมว่าทำไมเรื่องแบบนี้มันเกิดกับเรา เพราะเราไม่เคยทำบาป ทำกรรมอะไรกับใครเลย?

“พอมันเกิดปัญหาขึ้นมาแล้วเนี่ย หนูก็มานั่งคิดโทษตัวเอง ตอนนั้นที่เชื่อคนง่าย และไม่ศึกษาหาข้อมูล แล้วทำไมลงไปนอนให้เขาจิ้มหน้าทำไม แล้วก็ไปบ่อยครั้ง ตอนนั้นไม่เคยรู้เรื่องเลย นี่คือซิลิโคน พาเพื่อนไป พาน้องไป เติมหน้าฟรี ลงไปทีไรก็เติมฟรี 5-6 เที่ยว จนหน้าบานเป็นแมว”

ตอนนั้นสุขภาพจิตแย่จนเป็นโรคซึมเศร้า?

“เป็น เพราะมันไม่สามารถพูดกับใครได้ เราก็ไม่รู้หรอกว่าโรคซึมเศร้ามันเป็นอย่างไร นั่งๆ อยู่มันก็น้ำตาไหล อะไรนิดนึง มันก็รู้สึกท้อๆ”

ผ่านช่วงเวลาชีวิตช่วงนั้นมาได้อย่างไร?

“เราก็ต้องเป็นกำลังใจให้กับตัวเราเองค่ะอาจารย์ เราต้องเอาพลังเป็นกำลังใจให้กับตัวเราคือ กำลังใจสำหรับเราคือดีที่สุด เราจะไปเอากับคนนั้น คนนี้ไม่ได้ เราต้องก้าวผ่าน เพราะเราเป็นคนทำตัวเราเอง สิ่งที่เริ่มทำให้เรากลับมาคือธรรมะ”

พอจะบอกได้บ้างไหมมีศิลปินคนไหนอีก แต่ก็คงพูดไม่ได้ แม่ผ่อง?

“แม่ผ่องก่อนเรา อุ๊ยตายแล้ว ก่อนหนูอีก แม่แหละเป็นคนเตือนหนูเองบอกลูก แม่เตือนหนูแล้ว แม่ผ่องจะเรียกไปเลย อย่าไปนะ ดูตัวอย่างแม่ แม่เตือนแม่เจอมาแล้ว ตอนนั้นไม่เชื่อ”

รุ่นๆ เธอล่ะ มีใครบ้าง เธอมีอักษรย่อไหม?

“เพื่อนหนูเลย ฮ. และมีพี่ อ.”

พี่เอกชัย?

ดาว มยุรี : “หนูไม่ได้พูดนะคะ”
อ.ยิ่งศักดิ์ : “ขอโทษค่ะ ฉันพูดผิดไม่ใช่พี่เอกชัย ขอแก้ข่าว”

ได้ข่าวว่าเธอประกาศว่าเธอจะขึ้นเขียงแก้ไขหน้าเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต อะไรที่ทำให้เธอประกาศไปแบบนั้น?

“จริงๆ ตอนแรกว่าจะไปเกาหลีที่พี่ส้มเขาไป แต่มีคลินิกนึงติดต่อมาให้เป็นเคสยกกระชับหน้ารีวิว ได้ตังค์อาจารย์”

เห็นแก่เงินอีกแล้ว เอาหน้าตัวเองไปเสี่ยงอีกแล้วไหม?

“ไม่ก่อนที่เราจะไปผ่าตัด เราก็ต้องไปนั่งคุยกับหมอก่อน”

ถ้าเกิดพังอีกจะทำอย่างไร?

“พังก็ต้องรับผิดชอบตัวเองสิคะ”

ดาวเธอกล้าเสี่ยงไปทำอีกเหรอ?

“ก่อนที่ดาวจะทำ ก็ต้องศึกษาก่อน คลินิกนี้ใครมาทำก่อนหน้าดาวก็จะมีคุณแม่บานเย็น และก็หลายๆ ท่าน”

แต่เธอก็อาจโชคดีไม่เหมือนคุณแม่บานเย็น?

“ก็เอาพลังบุญเข้าช่วยค่ะ”

เธอมูเตลูมาก เธอถึงขั้นไปดูเวลาจิ้มกี่โมง กรีดแรกกี่โมง?

“เอางี้อาจารย์ เลือกวันดีกว่า วันนี้ดีไหม วันครู วันข้างขึ้น เวลานี้นะ อะไรแบบนี้ค่ะอาจารย์ ต้องดู และต้องมูเต จุดธูปบอกครูบาอาจารย์”

เธอไปกันใหญ่แล้ว จะทำหน้าต้องจุดธูปบอก?

“อาจารย์ มันเป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะ แต่สำหรับหนู หนูเดินสายมู หนูเชื่อ”

ที่ผ่านมาเธอคิดว่าสังคมไทยบูลลี่เกินไปไหม ทั้งๆ ที่ความสวยงามมันเป็นสิทธิ์ของเธอ?

“คืออย่างนี้ เราเป็นคนของสังคม เราต้องรู้จุดตรงนี้ด้วย เราเข้ามาอยู่ตรงนี้ เราเป็นคนของสังคม พอเราทำอะไรไปทุกคนก็จะคอยมอง คอยจ้องเป็นข่าว พอเป็นข่าวไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง พวกมือคีย์บอร์ดกูขอพิมพ์เข้ามาก่อน กูขอว่ามาก่อน โดยที่ไม่ได้อ่านข่าวข้างในเลยว่ามันเป็นอย่างไร”

แล้วมันให้ผลกระทบกับชีวิต และการงานเธอไหม มันน้อยลง มันดูด้อยค่าลง?

“ก็ไม่นะคะ เพียงแต่ว่าถามหน่อย หน้ากูเป็นผีขนาดนั้นเลยเหรอ เราก็มีความรู้สึกว่าทำไมเขามาเขียนขนาดนี้ มาว่าเรา เราก็มีความรู้สึกว่าคุณไม่ได้รู้ตัวตนของเราเลย ไม่ได้รู้จักเราด้วย เราก็ทำอะไรไม่ได้ตอนนั้น ก็ได้แต่ปล่อยวาง ปล่อยผ่าน”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/celeb/2673066
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/celeb/2673066