คิดตลอดว่าพี่ธงเป็นผู้ชาย?

กิ๊ก : ก่อนหน้านั้นเป็นแฟนคลับเขา รายการกำจัดจุดอ่อน แล้วเขาแต่งตัวเป็นผู้หญิงเราคิดว่าแอ็กติ้ง เวลาให้สัมภาษณ์เขายังคีปแมนอยู่ เวลาใครถามเขาเป็นมั้ย เราบอกไม่ เขาเป็นผู้ชาย

ธงธง : กระดากใจมากที่ต้องคีป แต่มันต้องทำหน้าที่ ไม่งั้นมันออกสื่อไม่ได้ อยู่กับเขาเราไม่แอ๊บแมน เราก็เป็นปกติของเราธรรมชาติ เขาก็ไม่รู้ ไม่สนิทกันเท่าไรตอนนั้น ไม่ชอบขี้หน้ากัน ตอนนั้นตบได้ตบ ที่เกลียดเพราะเขาเล่นเป็นนางร้ายเราก็ฝังใจ คิดว่าไม่แตกต่างจากในละคร อีกอย่างทีมงานนัดเราถ่ายรายการผี บอกไม่เกิน 2 ทุ่ม มยุริญมาเที่ยงคืน เพราะทีมงานนัดเที่ยงคืน เราไม่รู้ความจริงมาก่อนว่าทีมงานนัดเขา เราก็ไม่โอเคกับเขา คิดว่าตัวเองเป็นใครทำไมมาสายขนาดนี้ แต่ไม่ได้พูดนะ จนผ่านไป 10 กว่าปี ถึงได้รู้ความจริงว่าทีมงานนัดพี่ก่อนเวลา

เกลียดขี้หน้ามาตลอด?

ธงธง : หลังจากนั้นก็มาเล่นละครด้วยกันเป็นต่อ 2-3 เดือน ยังเกลียดขี้หน้าอยู่ เข้าฉากกันก็ไม่ชอบขี้หน้า ต่อบทก็ไม่ชอบ เราไม่อยากจะร่วมงานกับเขา

คุยยังไงถึงโอเค?

ธงธง : พี่สาวป่วยเป็นมะเร็ง เราทุกข์ใจมาก คนในกองคุยกันว่าผู้หญิงคนนี้ชอบเข้าวัดเข้าวาทำบุญ เราคิดว่าเขารู้จักหลวงพ่อเก่งๆ อยากให้พี่สาวหาย ก็เลยเข้าไปคุย

กิ๊ก : เหยื่อติดเบ็ดแล้วจะพาเข้าวัดไปปฏิบัติธรรม ส่งบุญให้พี่สาว

ธงธง : ลืมว่าโกรธเขา ไปปฏิบัติธรรม เอาธรรมะมาสอนพี่สาว ให้เขาอยู่กับความทุกข์เป็น

กิ๊ก : ปีติมากค่ะ ดีใจมากทุกช่วงชีวิตที่พี่ธงมีทุกข์เราได้อยู่กับเขา

รู้มั้ยว่าเขาเกลียดขี้หน้า?

กิ๊ก : ไม่ทราบค่ะ ไม่เคยรู้เลย ตอนแรกๆ ที่ถ่ายเป็นต่อเราก็ว่าทำไมเขาดูไม่สนใจ

ธงธง : หลังจากคุยเเรื่องพี่สาวก็เริ่มสนิทกัน ได้เห็นพฤติกรรมเขาทั้งหมดว่าเป็นคนดีจริง เขาไม่ใช่นางร้ายเขาคือนางเอกด้วยซ้ำ ข้างในสวยกว่าข้างนอกอีก

รู้เมื่อไหร่ว่าพี่ธงไม่ใช่ผู้ชาย?

กิ๊ก : ตอนมาถ่ายเป็นต่อค่ะ มารู้ตอนที่อยู่กอง

สนิทถึงขั้นปรึกษาเรื่องบนเตียง?

ธงธง : เราห่างหายจากการมีแฟนนาน แล้วมีผู้ชายมาจีบ ผู้ชายเป็นนักการเมือง ไปเจอกันที่วัด อายุ 35-36 เขาชวนไปกินข้าวเราก็ฟุ้ง ว่าถ้าเขาจะมาจูบเราล่ะ เลยไปปรึกษากิ๊ก ถ้าพี่เคลิ้มเราต้องทำยังไง

กิ๊ก : เขากลัวว่าถ้าคิสกันแล้วฟันปลอมจะหลุดเข้าไปในปากเขามั้ย หนูก็หาทางซื้อกาวมาแปะมั้ย

ธงธง : เราก็แบบกิ๊กถ้าเลยเถิดกว่านั้นพี่ไปนอนกับเขาทำไง กิ๊กบอกก็ปิดไฟสิ

กิ๊ก : เค้ากลัวว่าวิกหลุด สิ่งที่เขามาเล่าให้ฟังคือโจทย์มันบังคับ จะให้แนะนำยังไง

ทำไมไม่บอกเขาไปเลยว่าเราเป็นแบบนี้ๆ?

ธงธง : ยังไม่ได้คบกันเลย เรามโนเอง เลยตัดสินใจไม่คบดีกว่า รู้สึกว่าไม่เป็นตัวของตัวเอง เขาดีเกินไปให้เขาไปเจอคนที่ดี ทุกวันนี้ไม่เสียดาย คนที่รักกันแต่งงานกันนับวันถอยหลังได้เลย ไม่จากเป็นก็จากตาย มันต้องมีวันนั้น เราชอบโมเมนต์จีบๆ กันแค่นั้น

อยากบอกอะไรเขา?

ธงธง : ขอบคุณมากที่ให้เกียรติ รู้สึกดีที่ชวนไปกินข้าว ขอบคุณที่คงรู้สึกดีกับเรา แต่มันคงไม่ใช่ แต่ขอบคุณมาก

ถ้าจะจีบต้องพาเข้าวัด?

กิ๊ก : เราอยู่ในวงการบันเทิงหลีกเลี่ยงไม่ได้ มันทั้งสวยทั้งหล่อ ต้องมีเรื่องกิ๊กกั๊ก เรากิ๊กๆ กันในกอง เราก็วางเป้าไว้เลยต้องพาเขาไปปฏิบัติธรรม เรารู้สึกว่าเขามีของมาดีเขาหล่อ กราบพระสวย เราก็ไปดูแลเขา จีบๆ กัน เป้าลึกๆ เราไม่ได้อยากเป็นแฟนกับเขาแต่อยากพาเขาไปปฏิบัติธรรม เขายอมไปปฏิบัติธรรม เป้าหมายเราสำเร็จแล้วเราเป็นเพื่อนกันดีกว่า เหมือนเล่นละครก็มีกิ๊กกั๊ก แต่พอเราไปศึกษาแล้วเขาอาจจะไม่ได้มีเราแค่คนเดียว

ผู้ชายโกรธมั้ย?

กิ๊ก : ไม่ได้โกรธเขาก็ยังโทรมา แต่หลังๆ ไม่ได้ติดต่อกัน มีโอกาสได้ทำงานร่วมกันอีกเขาก็แต่งงานมีลูกไปแล้ว แต่กลายเป็นเขาโกรธเรา เจอหน้าเหมือนเขายังไม่ถูกใจเราอยู่

ถ้าผู้ชายเข้ามาจีบ?

กิ๊ก : พาไปวัดค่ะ เดี๋ยวพาไปบวชตลอดชีวิตเลย

ตอนนี้โสดมั้ย?

ธงธง : โสดร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ชอบผู้ชายหน้าตาหล่อ ผอมๆ สูงๆ นิสัยดี เราไม่เชื่อว่าคนหล่อจะชอบเรา เรารู้ตัวว่าเราได้แค่ไหน

มีเรื่องที่ไม่เคยบอกพี่ธงมาก่อนเลย?

กิ๊ก : ถ้าพี่ธงเป็นผู้ชายหนูจะจีบเขา เขาเป็นแม่บ้านแม่เรือนมาก ทำกับข้าว ทำงานบ้าน

ธงธง : ใครได้น้องกิ๊กเขาจะร่มเย็น แต่งานบ้านไม่ได้

งอนเรื่องอะไร เจ้าตัวยังไม่รู้?

ธงธง : มีวันนึงนัดกันไปทำบุญ กิ๊กพาญาติพี่น้องไปเยอะมาก เรามีกิจกรรมที่ต้องไป 2 คนต่อ เราเตรียมของไปถวายพระสังฆราช เขาจำกัดคนจำกัดเวลา พอถึงเวลาเราก็ออกเดินทางไปตาม 2-3 รอบจนเขาพูดว่า ถ้าพี่ธงรีบพี่ธงไปก่อนเลย ฉันรู้สึกเสียใจ ร้องไห้หนักมากที่วัดเลย สรุปได้ไปแต่ไม่ทัน

กิ๊ก : วันเกิดไง ญาติเยอะมาก กลัวถ้าพี่ไม่อยู่เขาจะมีอะไรกินมั้ย ขออโหสิขอโทษพี่ธงด้วยนะคะ เข้าใจว่าการเข้าพบพระสังฆราชยากมาก เราก็อยู่ด้วยกันบอกไปไม่ทันแล้วนะพี่ เหตุปัจจัยยังไม่ถึงพร้อม ที่ผ่านมาไม่เคยรู้เรื่องเลย