นางเอกแถวหน้า “โบว์-เมลดา” คลั่งรักพอกันกับหนุ่ม “อาเล็ก-ธีรเดช”


ให้คะแนน


แชร์

หวานแบบตะโกน! โบว์-เมลดา สุศรี นางเอกมากความสามารถจากละคร “ใต้เงาตะวัน” ทางช่อง 3 ประกบคู่ หมาก–ปริญ ว่าที่เจ้าบ่าวสุดฮอต แต่งานนี้เกิดเคมีสุดปัง! ที่แฟนๆกำลังเอาใจช่วยกับเรื่องราวความรักระหว่าง รีน่าและกรณ์ ที่มีเหตุให้ลุ้นทุก EP กันนั้น สาวโบว์ มาเยือน “มาลัยไทยรัฐ” กับแฟชั่นหวานนิดๆ เซ็กซี่หน่อยๆสีสันสดใส ต้อนรับ “ซัมเมอร์” มีความหวานผสมความวินเทจ ผสมผสานได้อย่างลงตัว กับแบรนด์ดัง T AND T Bangkok ทีแอนด์ ที และ Kloset ช่างแต่งหน้า : WHITE, ช่างผม torrmonster โดยมีสุรกิจ แก้วมรกต ถ่ายภาพสวยๆ สุดว้าว!!

สาวโบว์-เมลดา ดีกรีความสามารถไม่ธรรมดา เข้าสู่วงการบันเทิงจากการเป็นนักร้องเกิร์ลกรุ๊ปสัญชาติไทย “คิส มี ไฟฟ์” จากค่ายกามิกาเซ่ หลังจากยุบวงดนตรี เจ้าตัวก็เบนเข็มเข้าสู่วงการ “นางแบบ” ประกวดไทยซุปเปอร์โมเดลคอนเทสต์ 2013 จนคว้ารางวัลชนะเลิศมาครอง จนเป็นจุดเริ่มต้นการเป็น “นักแสดง” สะสมประสบการณ์มากมาย ขึ้นผงาดขึ้นแท่นเป็น “นางเอกแถวหน้า” ได้ไม่ยาก ทั้งแนวดราม่า คอเมดี้ ฯลฯ โบว์-เมลดา ชื่อนี้การันตีไม่ทำให้แฟนๆผิดหวัง ยิ่งบทบาทล่าสุด “รีน่า” ที่แฟนๆสุดสงสารสุดๆ

ซึ่งเบื้องหลังการทำงานสาวโบว์ เล่าว่า “คาแรกเตอร์ค่อนข้างตรงกันข้ามกับตัวโบว์มากๆ เลย รีน่ามีความหวานมาก เป็นผู้หญิงจริงๆ จนเวลาเราเล่นละคร จะต้องมาปรับจูนกันทุกวัน ทุกครั้งที่เริ่มถ่าย เวลาจะเรียกคุณกรณ์ ตะโกนก็จะเสียงนุ่มๆ จะไม่ตะโกนดังๆ แบบโบว์ แต่จะเหมือนโบว์ อย่างนึงตรงเป็นคนชอบทำงาน เป็นคนชัดเจน พูดตรงๆ แต่หลายๆคนมองเป็นสะใภ้ใหญ่ของบ้านนี้ เขามองตัวละครรีน่าเป็นไข่ในหิน แต่มีเหตุการณ์พลิกตัวละครให้รีน่าโตขึ้น ด้วยบทรีน่า สายหวานทำให้โบว์ปรับทุกครั้งที่ถ่าย ปรับทั้งเรื่อง พอเราทำแบบนี้พี่โอ๊ตผู้กำกับ บอกไม่ได้ โบว์จะงงผู้หญิงแบบนี้เค้าตะโกนยังไง เสียงโบว์ห้าวไป ดูแมนไป ต้องปรับเสียงซอฟต์ พอพูดแต่ละครั้งก็จะรู้สึกขนลุก (หัวเราะ) จริงเหรอผู้หญิงตะโกนแบบนี้เหรอ? คุณกรณ์คะ จะไปได้ยินได้ยังไง”

ส่วนร่วมงานพี่หมาก-ปริญ ถือว่าเป็นการร่วมงานครั้งแรก ที่สาวโบว์ยอมรับว่าเป็นการทำงานที่ง่ายมาก มีแค่ช่วงแรกๆที่ยังเข้าใจไม่ตรงจังหวะกัน ทำให้ตนแอบคิดไปเองเขาต้องการพื้นที่ส่วนตัวหรือเปล่า? เขาจะต่อบทให้เราหรือเปล่า? เพราะเวลาเล่นละครกับใครจะรบกวนคนที่เล่นด้วยกันต่อบทให้มันง่ายกว่า ทำให้การถ่ายทำเร็วขึ้น

“ถามว่าช่วงแรกๆ เกร็งมั้ย ไม่ค่อยเกร็งขนาดนั้นแต่ เกร็งทีมผู้กำกับมากกว่า ส่วนเวลาเล่นซีนหวานๆก็มีเกร็งบ้าง แต่เรารู้ว่าเป็นการแสดง เล่นเสร็จแยกย้าย หนูพอจัดการอารมณ์ตัวเองได้อยู่”

นอกจากตีบทบาทแตกกระจุยจนแฟนๆอินกับละครได้ไม่ยากแล้ว สาวโบว์-เมลดา ยังโชว์สกิลร้องเพลงประกอบละครชื่อเพลง “ยื้อ” ถือว่าเป็นเพลงที่ยอดวิวสูงเป็นอีกหนึ่งความท้าทาย

“ใช่ค่ะ โบว์ร้องเพลงยื้อ คู่กับพี่หมาก ยากค่ะ เสียงสูงมาก (ลากเสียงยาว) เราร้องตามฟิลลิ่งตัวละคร เหตุผลที่พี่นก-จริยา ผู้จัดเลือกเพลงนี้เป็นช่วงที่เราถ่ายละครกันด้วย เปิดบิลต์ให้นักแสดงอินกับตัวละครกับซีนๆนั้น มันก็เหมาะมากๆ รีน่ากับกรณ์พยายามยื้อความสัมพันธ์ของคนสองคนเอาไว้”

ทุกลมหายใจของโบว์-เมลดา มีแต่คำว่า ทำงาน ทำงาน ทำงาน 7 วันรวดแบบจุกๆ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าเคยพูดทีเล่นทีจริงกับแม่อยากอยู่บ้านนั่งโง่ๆ ไม่ต้องใช้สมองบ้างนั่งเฉยๆ สักวันนึงได้มั้ย กลับได้คำตอบจากแม่ว่าไม่ได้ ยิ่งเวลาจะเอาอะไรก็ต้องทำเอง เรียกว่าเป็นนางเอกแต่ไม่สามารถใช้สิทธิพิเศษใดๆ

“นางเอกก็คน หนูไม่ใช่เป็นนางเอก หนูเป็นนางเอกที่ไม่ได้เป็นนางเอก เป็นลูกแม่ แม่ดุด้วย จริงๆ โบว์คนชอบทำงาน เรื่องเที่ยวค่อยว่ากัน”

จะว่าไปโบว์ทำงานเหมือนร้อนเงิน วันนึงทำหลายจ๊อบมาก

“ใช่ค่ะ เรารู้สึกว่าออกจากบ้านมาก็ใช้เงินแล้ว หนูไม่ได้มีพื้นฐานมากพอที่จะไม่ต้องทำงาน ต้นทุนเรามันไม่พอแน่นอน เราต้องทำงานขยันหาเงินเต็มที่เพื่ออนาคต ออกจากบ้านขึ้นด่วนก็มีค่าใช้จ่าย”

ก่อนหน้านี้โบว์โดนแม่ดุบ่อยเรื่องอะไร

“ไม่รู้ แม่ดุทุกเรื่องเลย หลังๆจะโดนดุเรื่องกินแล้ว เพราะหนูไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย กลับถึงบ้าน 5 ทุ่ม ปล่อยใจนอนแล้วดีกว่า ออกกำลังกายทำไมเหนื่อย ตัวเปียกอาบน้ำใหม่ กลับมาบ้านอยากอาบน้ำ เลยนอนแล้วกันเผาผลาญแคลเหมือนกันก็จะโดนบ่นเรื่องกิน”

เคยโดนพี่อาเล็กบ่นเรื่องนี้บ้างมั้ย แต่คู่เราจะเป็นสายกินมาก

“ช่วงแรกๆที่รู้จักกันพาไปกินเยอะ ไม่รู้ทำอะไรก็ออกไปกินข้าว แต่ถ้าวันไหนกินเยอะจะไปออกกำลังกายเลย หลังๆปรับเรื่องอาหารแต่มีวันชิลเดย์บ้างเพราะหลังๆ หนูเหนื่อย พอเหนื่อยไป ตจว.ได้กินข้าว ไม่ถูกจริตเราอยากกินอันนี้เขาทำไม่ถึง ของมันน้อยเราจะรู้สึกกินทั้งทีก็อยากกินที่อร่อยๆ สรุปอ้วน ถ้าอ้วนเหมือนกัน แต่กินแล้วไม่อร่อยจะกินทำไม ก็เลยกินน้อยพอกลับบ้านซัดแหลก แม่ผัดกะเพราให้หน่อย ล้างความรู้สึกเดิม ที่ไม่อร่อยให้มันอร่อยขึ้น”

ส่วนความรักกับพี่เล็ก ก็จัดว่าเป็นสายคลั่งรักด้วยกันทั้งคู่

“หลังๆเจอกันน้อยมาก แต่โอเคค่ะ ดีตรง พยายามหาเวลามาเจอกันดีกว่าไม่เจอกัน”

ล่าสุดงานบอลช่อง 3 เจอกันแวบๆ แต่แฟนๆก็กรี๊ด

“ค่ะ เจอกัน แวบๆ ไม่ได้อะไรเท่าไหร่ เพราะอยู่คนละพาร์ตการแสดงกัน เขาเตะบอล เราเปลี่ยนเสื้อผ้าขึ้นโชว์ เขามายืนแค่ข้างหน้าให้กำลังใจแต่เราไม่เห็นนะเพราะกังวลกับท่าเต้น”

งานนั้นแฟนคลับแซว รอดูช็อตคลั่งรักโบว์-อาเล็ก

“ไม่ค่อยมีค่ะ มีช็อตมานั่งข้างๆ เท่านั้น คู่เราไม่หวานหรอกพี่ๆ เค้าหวานกว่าเราเยอะ คู่นึงจะแต่งงาน อีกคู่ก็หวาน แต่คู่เราฟีลเพื่อนมากกว่า วันนั้นแยกย้ายไม่ได้ไปต่อ แต่เค้าไปกับพี่เกรท เพราะเป็นวันเกิดพี่เกรทด้วย”

ตอนอาเล็กยิงลูกโทษไม่เข้าแซวอะไรขนาดไหน

“เราไม่คาดหวังอยู่แล้วเพราะเค้าเป็นนักกีฬาบาส การที่เขาเตะได้ขนาดนั้นเก่งแล้ว”

อาเล็กเตะบอลไม่เข้าอ้อนเราบ้างมั้ย

“ก็อ้อนแหละ พี่เตะไม่เข้าๆ ก็ให้กำลังใจ ไม่เป็นไร เตะดี เตะเก่งแล้ว เตะจริงๆ แหละ หลบได้ ท่าสวยแต่เรื่องยิงเข้าไม่เข้ามันอีกเรื่องนึง”

ไม่ค่อยรับงานคู่กันเลยจะมีโอกาสเห็นโบว์-อาเล็ก รับงานคู่กันบ้างมั้ย

“จริงๆ ก็เพิ่งมารับหลังๆ เพราะแรกเรายังรู้สึก ไม่รู้สิ”

ที่ไม่รับเพราะไม่มั่นใจสถานะหรือเปล่า

“ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้มั่นใจ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ ทุกอย่างมันไม่แน่ไม่นอนเราก็คุยไปเรื่อยๆ เรียนรู้กันไปเรื่อยๆ ถ้ามีงานคู่กันตอนนี้ก็ได้ค่ะ”

เพราะขอเป็นแฟนกันเรียบร้อยแล้วด้วยใช่มั้ย

“ขอเป็นแฟนไปแล้วแต่ก็ให้เป็นเรื่องของอนาคตเพราะไม่รู้จริงๆ เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมั้ยเพราะคนเราเปลี่ยนไปได้ทุกปี
ทุกๆวัน คนเราไม่เหมือนเดิม แค่เดินก้าวนึง หายใจออกก็เป็นอีกคนนึงแล้ว ตอนนี้คุยกันไปเรื่อยๆ เป็นเพื่อนคุย แลกเปลี่ยนความคิด”

แวบๆมองเรื่องของอนาคต

“ก็มีคุยบ้าง มันเป็นสิ่งที่หลายๆคู่คุยกันแหละ คุยกันเล่นๆ ชอบเหมือนกันมั้ย สมมติไปดูแหวน เดาสิแหวนแบบไหนที่โบว์จะชอบ เป็นเกมมากกว่า มีคุยๆ บ้างเพราะหนูก็อายุ 27 ไม่กี่ปีจะ 30 แล้ว ถ้ามีลูกจริงๆ เกินอายุ 35 ก็จะมีลูกยากแล้ว คือพี่เล็กเองอยากแต่งเพราะแกอายุ 33 แล้ว แล้วพี่เล็กเป็นคนรักเด็กด้วย ถ้าเราคิดจะมีลูกกันจริงๆ โบว์คงเริ่มฝากไข่จะได้ง่ายดายในยุคสมัยนี้อาหารการกิน ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด”

มุมของการสร้างครอบครัวเราแพลนอีกนานขนาดไหน

“ประมาณ 30 ควรจะมีครอบครัวได้แล้วเพราะเราไม่ได้มีครอบครัวเป็นคู่ชีวิตกันเฉยๆ เราจะต้องเป็นครอบครัวที่มีลูก มันต้องเป็นแบบนั้น อายุเป็นสิ่งที่มากำหนด คนสมัยก่อนแต่งงานเร็วมีลูกเร็วแต่คนสมัยนี้แต่งงานกันช้า พอมีลูกช้าเกิดมามีปัญหาอีก ต้องทบทวนหลายๆอย่าง เรื่องสุขภาพอีก”.

เสื้อผ้า : T AND T Bangkok ทีแอนด์ ที และ Kloset
ช่างภาพ : สุรกิจ แก้วมรกต

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2680696
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2680696