เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น เปิดชีวิตหลังผ่านมรสุมหนัก มีบางสิ่งที่ต้องแลกมา


ให้คะแนน


แชร์

เป็นอีกหนึ่งนักร้องสาวที่สู้ชีวิตไม่น้อย เพราะต้องเจอดราม่ามาอย่างหนักหน่วง สำหรับ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น หรือ รัชนก สุวรรณเกตุ เพราะตั้งแต่ที่เจนนี่ได้ก้าวเท้าเข้ามาเป็นนักร้องและเริ่มมีชื่อเสียง เธอก็เจอดราม่ามาอย่าต่อเนื่องจนมีบางครั้งที่เจ้าตัวอยากจะหันหลังให้วงการบันเทิง 

แต่เพราะหลังจากที่เจนนี่เริ่มเปลี่ยนทัศนคติใจการใช้ชีวิตใหม่ ก็ทำให้ชีวิตของเจนนี่ค่อยๆ เปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายๆ คนเริ่มเปิดใจให้กับนักร้องสาว ทำให้เจนนี่เริ่มมีความสุขกับการใช้ชีวิตมากขึ้นกว่าเดิม 

จากสาวใต้มาเป็นสาวกรุง

วันนี้เราได้มีโอกาสสัมภาษณ์ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น นักร้องร้อยดราม่าคนนี้ ก็ไม่พลาดที่จะอัปเดตชีวิตหลังจากที่ เจนนี่ ถูกหลายๆ คนยอมรับมากขึ้น ซึ่งเจนนี่เล่าให้เราฟังถึงเรื่องราวการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเธอในเมืองกรุงว่า 

“เจนนี่มาเริ่มต้นชีวิตใหม่เพราะลูกเลย แต่ไม่น่าเชื่อว่าการที่เราตัดสินใจอยู่ที่นี่ถือเป็นเรื่องที่ดี ถ้าเราไม่ได้อยู่กรุงเทพฯ ก็คงไม่มีโอกาสได้ทำอาชีพใหม่ๆ ที่เราชอบและรักมาโดยตลอด ดีใจมากๆ เหมือนหลังจากที่พายุสงบเราก็เห็นสายรุ้ง

สิ่งที่มันเกิดขึ้นตอนนี้มันคือสายรุ้งของชีวิตเจนนี่ มันเป็นสีสันให้ชีวิตเรา เชื่อว่าคนเราที่ชีวิตเจออุปสรรคปัญหาโดนดราม่าต่างๆ มันไม่ได้อยู่ตลอดไปหรอก มันอยู่ที่การปรับตัวของเรา ถ้าเราดีขึ้น คนก็ย่อมให้โอกาสเรามากขึ้น”

ก่อนที่จะเจนนี่จะเล่าถึงการปรับเปลี่ยนชีวิตจากสาวใต้มาเป็นสาวกรุงเทพฯ ให้เราฟังต่อว่า “พอย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ ก็ตลกดีค่ะ เจอรถติดบ้าง ต้องบอกว่าอยู่ใต้ไม่เคยเจอแบบนี้ (ยิ้ม)

แต่สิ่งที่ง่ายของที่นี่คืออาหาร มีเยอะแยะเต็มไปหมดเลย อยู่ใต้เราก็กินอาหารบ้านๆ ของเรา แต่ก็คิดถึงที่ใต้แหละ อากาศเอย อะไรเอย ฝุ่นก็ไม่มี

อยู่บ้านตื่นมาเช้ามาก็ได้ยินเสียงแม่เรียกกินข้าวทุกวัน มาอยู่กรุงเทพฯ ต้องเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว มันต้องดูแลครอบครัว มันต้องเป็นแม่ มันต้องเป็นสามีภรรยา มันก็เลยต้องปรับตัวนิดนึง (ยิ้ม)”

ช่วงที่ลำบากสุดของชีวิต

จากนั้น เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ได้เล่าถึงการปรับชีวิตของตัวเองให้ฟังจากการเป็นแม่ค้าขายของ และมาทำงานร้องเพลงในวงการบันเทิง ไม่มีอะไรยากเท่าตอนต้องหนีหนี้แล้ว

“ชีวิตของเจนนี่ไม่มีอะไรยากไปกว่าอดีตที่เจนนี่เคยผ่านมาแล้วค่ะ สบายมากค่ะ ชิลมาก (ยิ้ม) มันไม่ได้ยากเหมือนตอนที่เราหนีหนี้ ตอนที่เราเป็นหนี้มันยากกว่า ไปขายรองเท้าตากแดดตากฝนได้เงินน้อยยากกว่าเยอะเลย

อันนี้แค่ปรับในบางเรื่องเพื่อให้ชีวิตดำเนินไปในเส้นทางที่สวยงาม ไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่ก็แอบกดดันเพราะอยากทำให้มันดีสมกับที่เราได้รับโอกาส (ยิ้ม)”

ไม่เป็นตัวของตัวเอง

แต่ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ต้องยอมรับว่า ชีวิตที่เปลี่ยนไปของเธอนั้น ต้องสวนทางกับดาราคนอื่นๆ เพราะต้องปรับตัวไม่ได้เป็นตัวของตัวเองเหมือนที่ตอนนี้ใครๆ ก็เป็นตัวของตัวเองกันทั้งนั้น

“ต้องยอมรับว่าชีวิตของเจนนี่ก็ค่อยข้างสวนทางกับคนอื่นหน่อย พี่ๆ ดาราตอนนี้เขาได้เป็นตัวเองกันเต็มที่ ถือเป็นความโชคดีของเขาที่เขาไม่ค่อยมีดราม่า

แต่ความเป็น เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น เจนนี่ถามตัวเองทุกวันว่าอยากจะอยู่วงการนี้ต่อมั้ย ถ้าอยากอยู่ต้องปรับ แต่ถ้าวันนึงเรารู้สึกอิ่มตัว รู้สึกว่าพอแล้ว ก็ค่อยปรับไปเป็นตัวเองก็ได้ เป็นตัวเองเป็นเมื่อไรก็ได้ แต่งานมันไม่ได้มีมาตลอด (ยิ้ม)”

ก่อนที่เจนนี่จะเล่าให้เราฟัวต่อว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เธอได้ชั่งน้ำหนักมาแล้วว่ามันมีผลดีมากกว่าผลเสีย ถึงได้กล้ามาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี่

“เราคิดมาแล้วว่ามันมีผลดีมากกว่าผลเสียค่ะ ถามคนที่บ้านเขาก็บอกว่าไม่มีใครอยากให้ลูกสาวหรือแฟนโดนด่าอยู่ตลอด การที่เราปรับลุคให้มีความน่าเชื่อถือเจนนี่เชื่อว่าคนก็จะด่าเราน้อยลง (ยิ้ม)”

อยากเอาชนะใจคน

การที่เจนนี่เป็นแม่ค้าออนไลน์ ไลฟ์สดขายของ ต้องทำให้มีกระแส มีดราม่า คนถึงจะสนใจเข้ามาดูมาซื้อของ และรายได้ก็ดีกว่าการอ่านข่าว ทำไมถึงยอมแลก เราได้รับคำตอบจากเจนนี่ว่า 

“ใช่ นี่คือราคาที่เราต้องแลก มันคือสิ่งนึงที่เราต้องเสียมัน คือมันต้องได้อย่างเสียอย่าง จริงๆ ก็แอบเสียใจ ตอนนี้กำลังบาลานซ์ให้อยู่ในจุดที่พอดี ถ้ามันไม่เป็นตัวเองเลย กระแสก็ไม่มีอีก

แฟนคลับที่เคยชอบเราก็อาจจะหายไปก็ได้ ตอนนี้อยู่ในช่วง คิด วิเคราะห์ แยกแยะ ว่าจะทำยังไงดีที่เราจะบาลานซ์ทั้งสองอย่างได้ให้มันออกมาดีที่สุด

ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร เจนนี่เชื่อว่าถึงวันนึงมันจะมีจุดที่เราทำมันได้ไม่ต้องมานั่งคิดว่าจะต้องทำยังไง มันจะไปได้เองโดยอัตโนมัติ เพียงแต่เราต้องคุ้นชินกับมันก่อน สู้ต่อ ลองดูซักตั้ง

และที่ยอมทิ้งเงินเยอะๆ มาทำสิ่งนี้เพราะมันเป็นสิ่งที่ชอบ งานที่อยู่หน้าจอทีวี ที่ได้พูด ได้แสดงความสามารถตรงนี้คือสิ่งที่เจนนี่ชอบ แล้ววันนึงเราได้มาทำมันอย่างจริงจัง มันรู้สึกเหมือนความฝันเราเป็นจริง มันภูมิใจค่ะ

เจนนี่ตั้งใจทำมากๆ และอีกอย่างที่สำคัญเลยคืออยากชนะใจตัวเอง และชนะใจใครอีกหลายๆ คนที่มองว่าเราไม่มีความสามารถพอ เราอยากแสดงให้เห็นว่าเราไม่กิ๊กก๊อกที่มีแต่ข่าวเสียๆ เราก็ยังมีด้านดีๆ ที่อยากให้ทุกคนเห็นเราบ้าง (ยิ้ม)”

ผู้เขียน : จันทร์เจ้าขา

กราฟิก : Anon Chantanant

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2680720
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2680720