“ตงตง กฤษกร” ไร้การเคลื่อนไหว แต่ทัวร์ลงยับ ลูกผู้ชายเขาไม่ทำกัน – รู้สึกผิดหวัง

“ตงตง กฤษกร” ไร้การเคลื่อนไหว แต่ทัวร์ลงยับ ลูกผู้ชายเขาไม่ทำกัน – รู้สึกผิดหวัง

      ทำเอาฮอตร้อนแรงจนติดเทรนด์ทวิตเตอร์กันเลยเมื่อวานนี้ หลัง “พ่อบาส สมรักษ์ คำสิงห์” คุณพ่อของ “เบสท์ รักษ์วนีย์” ออกมาแฉพฤติกรรมของแฟนหนุ่มลูกสาว อย่าง “ตงตง กฤษกร” ก่อนที่จะตัดสินใจเลิกกัน

อ่านข่าว : ว่อนเน็ท ย้อนคำพูด “เบสท์” หลังถูกถามเรื่องแฟนเปย์

         โดยเล่าว่าฝ่ายชายนั้นไม่แมน ตลอด 2 ปีที่คบลูกสาวอยู่บ้านด้วยกันไม่เคยซัพพอร์ต หรือช่วยออกค่าน้ำ ค่าไฟเลย แถมยังมีปัญหาเรื่องผู้หญิงซ้ำซาก แค่นั้นไม่ “พ่อบาส” ยังเคยเห็นกับตาว่าง้างมือจะตบลูกสาวอีกด้วย

          หลังจากที่เกิดประเด็นฮอตดังกล่าว ฝั่งของ “เบสท์” ยังได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านไอจีอยู่บ้าง ส่วนทางด้าน “ตงตง” กลับเงียบไร้คำตอบและไร้การเคลื่อนไหวใดๆในไอจีส่วนตัว

         แน่นอนว่าชาวเน็ตพร้อมใจกันทัวร์ลงไอจีของ “ตงตง” อย่างหนัก เรียกว่าเดือดสุดๆ คอมเมนต์บอกว่าลูกผู้ชายเขาไม่ทำกันอย่างนี้ รวมทั้งยังผิดหวังในตัวของ ตงตง บางรายถึงขั้นขอเลิกติดตามและเลิกซัพพอร์ตสินค้าต่างๆที่เจ้าตัวเป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วย เช่น พ่อสมรักษ์ออกมาแฉไม่เบาเลยนะเรา ลูกผู้ชายเขาไม่ทำกันหรอกนะครับ,ฟันก็ฟันของเรา ช่วยจ่ายค่ายาสีฟันก็ยังดี,เรามองว่า เบส รัก ตงตงมากๆ ดูจาก ตอนที่ตงๆไม่ได้มีงาน เบสก็ยังอยู่กับตงๆได้ เดี๋ยวนี้ ตงๆมีงานมากขึ้น จนลืมเบสไปแล้ว เราไม่ได้เข้าข้างเบส แต่เราคิดแบบนั้นดูจากการกระทำ,พ่อเขาจะโกหกทำไม ว่าไหม เราว่าต้องมีมูล บ้างแหละเนอะ,ยืมเงินผญ 5 ล้านเลยหรอ ทำไมกล้ายืมอ่ะ เข้าใจว่าผญรักก็ให้ได้ แต่แบบตะขิดตะขวงใจสักนิดมั้ยคือตัวเองเป็นผชนะ งี้ก็แมงดาอ่ะดิ,ขนของออกจากบ้านเบสท์ยังเอ่ย อยู่บ้านเค้า ยังจะคิดไปทำร้ายร่างกายเค้าอีก,น้องเบสบอกตลอดเรื่องอื่นรับได้หมด ยกเว้นเรื่องนอกใจ ก็ยังจะทำเนาะ อยากเลิกทำไมไม่คุยกันบอกกันดีๆ ถ้าคุยแต่แรกเรื่องคงไม่ออกมาเป็นแบบนี้ อ้างแต่ไม่มีเวลา บทเรียนครั้งใหญ่เลยนะตงตง รู้ทั้งประเทศ ทุกอย่างกำลังจะดีอยู่แล้ว ทำพังซะงั้น ถึงว่าไม่พาน้องกลับบ้านมีคนใหม่นี่เอง ผิดหวังจริงๆ,เลิกติดตาม รู้จักเพราะน้องเบส ไม่สมควรที่ครอบครัวเค้าให้โอกาส เค้าไปในครอบครัวเค้าทำร้ายจิตใจ ฯลฯ

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.daradaily.com/news/126072/read
ขอขอบคุณ : https://www.daradaily.com/news/126072/read