หญิง นราวัลย์ ใจกว้าง ยอมให้สามี ลิฟท์ สุพจน์ ไปซื้อกิน แต่ขออย่ามีเป็นตัวเป็นตน


ให้คะแนน


แชร์

หญิง นราวัลย์ ใจกว้าง ยอมให้สามี ลิฟ์ สุพจน์ ไปซื้อกิน แต่ขออย่างเดียวอย่ามีเป็นตัวเป็นตน ยอมรับแยกห้องนอน ลิฟท์ ห่วงเพื่อน ออย ธนา โสด กลัวเหงาอยู่คนเดียว แซวหาสาวให้

คู่รัก Y2K อย่างนักร้องหนุ่ม ลิฟท์ สุพจน์ กับภรรยาคนสวย หญิง นราวัลย์ ที่วันนี้จะมาอัพเดตความน่ารักของลูกสาวน้องพราว วัย 12 ปี พร้อมเปิดใจความรัก 14 ปีที่ตอนนี้มีปัญหาถึงขั้นแยกห้องนอนกันแล้ว แถมพี่หญิงยอมให้พี่ลิฟท์ไปซื้อกินได้ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน 31 ที่มีหนิง ปณิตา และบูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

เป็นคู่ที่อยู่ด้วยกันยาวนานคือ 14 ปีแล้ว? ลิฟท์ : “แต่งงานมา 14 ปี แต่ก่อนหน้านั้นน่าจะประมาณ 18-19 ปีได้”

หญิง : “คือคบกันมา 4 ปีถึงจะแต่งงาน”

ตอนนี้มีพยานรัก 1 คน น้องอายุเท่าไหร่แล้ว? ลิฟท์ : “12 ปี ก็ตามวัย ตอนนี้เขาเริ่มโต เขารักสวยรักงาม เริ่มแต่งหน้า อยากทาเล็บ แต่นิสัยจะออกทางแม่เขา บางทีเอาแต่ใจ บางทีมีอะไรก็ปรี๊ดๆ นิดนึง”

หญิง : “คือเขาก็มีความเหมือนคุณพ่อ ขี้เล่น อารมณ์ดี ชอบแหย่ ชอบแกล้ง”

ที่ลูกเอาแต่ใจ อยากถูกสปอยล์แบบนี้ เพราะคุณพ่อเริ่มก่อน? หญิง : “ใช่”

คุณพ่อเป็นสายสปอยล์? ลิฟท์ : “มันก็ปฏิเสธลำบาก เรามีลูกสาวก็อยากดูแลเขาให้ดีที่สุด บางทีเราเห็นเขาอยู่ในวัยอย่างนี้ เราก็กลัวถ้ามีอะไรเกิดขึ้นมันก็ไม่คุ้ม”

หญิง : “อยากสนิทกับลูก อยากให้ลูกไว้ใจ เขาสปอยล์ทุกอย่าง พี่จะเป็นคนเจ้าระเบียบ เรื่องเล่นเกมพี่จะพยายามเบรกไว้ แต่พอเขาไม่ได้จากพี่ปุ๊บก็จะไปหาพ่อ ไปกระซิบกัน 2 คน เดี๋ยวป๊าซื้อให้ๆ ซึ่งพี่มีข้อแลกเปลี่ยนว่าถ้าหนูเป็นเด็กดีถ้าทำตัวดีอย่างนี้ๆ ถึงเวลามี้ให้ แต่พอเราตั้งกฎขึ้นมานี่แหวกไง”

ถ้าอย่างนี้ก็ต้องทะเลาะกัน? หญิง : “มีเถียงกันบ้างทำไมทำอย่างนี้ แต่ไม่ถึงทะเลาะ แต่นั่งคุยกัน เขาก็โอเคๆ คราวหลังไม่ทำแล้ว แต่ก็เอาอีก ไปนั่งซุบซิบกันสองคน”

มันเลยทำให้พี่หญิงเกิดความน้อยใจลูกขึ้นมา? หญิง : “ใช่ เพราะเขารักพ่อมาก ติดพ่อมาก ตลอดเวลาจะต้องตัวติด ต้องนั่งตัก เกี่ยวแขน เกี่ยวขาตลอดเวลา ซึ่งมันก็ดีแต่ฉันเลี้ยงเธอมา ฉันรู้ใจเธอที่สุด ทำไมเธอไม่ทำแบบนี้กับฉันบ้าง”

ลิฟท์ : “จริงๆ หญิงเขาเป็นคนตรงๆ เขาไม่ชอบเล่นอะไรกุ๊กกิ๊กๆ อย่างบางทีเราอยู่กันสองคน เราจะไปแหย่เล่น เขาก็บอกอะไร คือเขาจะเป็นผู้หญิงสไตล์แข็งๆ หน่อย ลูกก็เลยมาหาเราประมาณนั้น”

พี่ลิฟท์สนิทกับลูกแบบนี้ห่วงหรือหวงขนาดไหน? ลิฟท์ : “น่าจะเป็นห่วงมากกว่า ไม่ได้ถึงกับหวง ห่วงคือเรื่องความปลอดภัย เราเห็นข่าวเยอะ บางทีคนที่เข้ามามันมีทั้งคนแปลกหน้า หรือแม้กระทั่งคนที่รู้จักเอง เราสอนลูกเสมอว่าอย่าไว้ใจใครง่ายๆ มีอะไรให้มาปรึกษาเรา หรือมีอะไรที่ฉุกเฉินจริงๆ ให้เดินออกมาจากตรงนั้นเลย”

เด็กวัยนี้เริ่มสนใจเพศตรงข้าม มีปรึกษาคุณพ่อคุณแม่บ้างไหม? ลิฟท์ : “มี ตอนนี้เขามาปรึกษาเขามีคนที่ชอบอยู่ มาจีบเขาหลายคน เราก็บอกว่าบางทีวัยนี้เราคบกันเป็นเพื่อนสิลูก ถ้าอยู่ๆ หนูตัดสินใจเลือกคนนี้แล้วนะ ถ้าเกิดคบไปคบมาอีกคนมันดีกว่าทำยังไง ก็จะเป็นการสอนให้เขาคบเป็นเพื่อนไปก่อนถึงเวลาอนาคตเดี๋ยวค่อยว่ากัน ยกตัวอย่างพ่อกับแม่กว่าจะได้มาเจอกันอายุ 28 นะลูก ซึ่งหมายความว่าระยะทางอีกไกลเลยกว่าลูกจะไปเจอคนที่ใช่”

วางแผนสอนให้เขาเรียนรู้เรื่องเพศสัมพันธ์ ต้องวางแผนขนาดนั้นเลยเหรอ? ลิฟท์ : “ต้องวางแผนสิ เพราะมันปฏิเสธไม่ได้จริงๆ นะ เอาง่ายๆ จากตัวเราเอง เมื่อก่อนตอนเราเป็นเด็ก พ่อ แม่เราห้ามขนาดไหน เราก็ยังแอบไป ทุกอย่างเรารู้ว่านี่คือเรื่องจริง เพราะฉะนั้นควรสอนลูกว่ามันคือเรื่องจริง แต่ควรปฏิบัติตัวยังไง ควบคุมยังไงในอนาคต”

เห็นว่าหน้าที่นี้ให้พี่หญิง? หญิง : “ใจหญิงคิดว่าผู้หญิงด้วยกันคุยกันน่าจะง่ายกว่า อย่างพ่อกับลูกคุยกันบางทีอาจจะมีตะขิดตะขวงนิดนึง แต่เราจะพยายามสอนเขาในเรื่องของการป้องกันตัวเองมากกว่า สอนให้เขารู้ว่าถ้ามันพลาดขึ้นมา มันจะเกิดอะไรขึ้นมากกว่า ครอบครัวสำคัญกว่าทฤษฎีที่โรงเรียน ความใกล้ชิด การพูดคุย เปิดใจคุยกันมันเป็นเรื่องสำคัญ เราคิดว่าเราคุยกับลูกทุกเรื่อง เราอยากให้ลูกไว้ใจเรา”

สอนเรื่องผู้ชายเจ้าชู้ไหม? ลิฟท์ : “จะพยายามไม่สอนว่าผู้ชายแบบไหนเป็นยังไงให้เขาเจอเอง บางทีกลัวเราสอนไปจะเป็นการชี้แนะ ไม่ว่าเรื่องผู้ชายหรือประสบการณ์ชีวิตอยากให้เขาเจอเอง แล้วพอเขาเจอปุ๊บให้เขามาปรึกษาเรา”

ครอบครัวนี้ปรึกษาและคุยกันทุกเรื่องไหม? ลิฟท์ : “ทุกเรื่องครับ อย่างครั้งแรกวันนั้น เขาโทรมาบอกว่าปาป๊าพาไปโรงพยาบาลหน่อย ทำไมลูก พราวเลือดออก เราก็ถามว่าออกตรงไหนลูก อ๋อมีประจำเดือน โทรมาแกล้งเรา”

หญิง : “พ่อดีใจใหญ่เลย เขารู้สึกว่าลูกไว้ใจที่จะบอก จะเล่าให้เขาฟัง”

เมื่อก่อนชื่อคุณอยู่อันดับต้นๆ แต่ตอนนี้ฉายาของคุณลิฟท์กลัวเมีย ลิฟท์ทาสเมีย ลิฟท์ทาสลูก จริงไหม? ลิฟท์ : “มันไม่ได้เป็นทาสหรอก เราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไง เราเลยทำอะไรที่เขามีความสุข เหมือนเขาบอกว่าจะทำยังไงให้ชีวิตเรามีความสุข เราก็ทำให้เมียถูกทุกข้อ แล้วเราจะมีชีวิตที่มีความสุข”

แต่มีหนึ่งอย่างที่ไม่กล้าขัดใจเลยคือ? ลิฟท์ : “สักครับ เราเป็นคนที่ชอบสัก ผมเป็นคนที่สักแขนด้านซ้าย รู้สึกว่าเวลาเดินมันเอียงๆ ยังไงไม่รู้ ก็เลยอยากจะไปสักลายสวยๆ อีกอันอยู่ที่แขนด้านขวา ขอมานานมาก ขอผ่านรายการ ขอทุกอย่างเขาก็ไม่เคยให้”

หญิง : “เคยให้ไปรอบนึงแล้วข้างหลังก็มี มีทั้งซ้าย มีทั้งหลัง เรารู้สึกมันเลอะเทอะ”

ถ้าสักรูปเขาล่ะ เขาให้ไหม? ลิฟท์ : “ไม่ได้ เขาบอกว่ามันเป็นลาง เดี๋ยวสักไปเกิดเลิกกันมันไม่ดี”

หลังจากแต่งงานเขาเป็นสามีแห่งชาติ เมียขออะไร ไม่มีคำว่าไม่ได้ เป็นคนโอนไวมาก? ลิฟท์ : “อย่างที่บอกถ้าการจะใช้ชีวิตให้มีความสุข ก่อนที่เราจะมีความสุข ภรรยาเราต้องมีความสุขก่อน ถ้าเขามีความสุข ชีวิตเราก็จะสงบ”

ให้ทุกอย่างเลยไหม? ลิฟท์ : “ถ้าพอที่จะทำได้นะ ไม่ใช่อยากได้อะไรที่มันเว่อร์ๆ เราไม่มีกำลังพอมันก็ไม่ไหว แต่อะไรที่สามารถให้เขาได้เราก็ให้”

คู่นี้เวลาเขาจะจู๋จี๋กันเขาต้องนัดกันนะ ทุกวันนี้ยังนัดกันอยู่ไหม? ลิฟท์ : “ช่วงนี้ไม่ได้นัดกันเลย ลูกนอนในห้อง”

แล้วพี่นอนไหนกัน? ลิฟท์ : “ตอนนี้ย้ายห้องแล้ว แยกห้องนอนกัน”

หญิง : “แต่หญิงนอนกับลูก”

ลิฟท์ : “มีปัญหาครอบครัวอยู่ตอนนี้”

ที่เขาลือกันว่ามีคู่รัก Y2K หรือคู่รักยุค 90 จะเลิกกันอีกคู่? ลิฟท์ : “ไม่เลิกสิ อันนี้แค่แยกห้องนอน”

เคลียร์ข่าวเลย ไม่ใช่คู่เราใช่ไหม? หญิง : “ปัญหาเกิดจากการแยกห้องนอน การใช้ชีวิตปกตินี่แหละ กรนดัง แค่นั้นเอง ไม่มีอะไรเลย”

ลิฟท์ : “ผมเป็นคนที่นอนหลับลึก เวลาเขาเรียกเราจะไม่รู้เรื่อง เราเป็นคนที่นอนเร็ว เขานอนทีหลัง บางทีลูกหลับก่อนลูกสะดุ้งตื่นเพราะเสียงกรนเรา แล้วเขานอนไม่ได้เต็มที่ เพราะเขาต้องตื่นไปเรียน นี่เขาก็บ่นตลอดเวลา เมื่อคืนฉันไม่ได้นอนเลยนะ กรนตลอดเวลา เราก็โอเคเพื่อความสบายใจ เราแยกห้องไปนอนดีกว่า เพื่อที่จะให้เขานอนได้เต็มที่”

หญิง : “ตอนแรกพี่ไม่ได้ยอมนะให้เขาแยกห้อง ทนทรมานอยู่สักพักใหญ่ สุดท้ายมันไม่ไหวจริงๆ ก็เลยยอมปล่อย”

พี่หญิงเป็นคนใจกว้างมาก เวลาน้องๆ คนไหนมีปัญหาครอบครัวมาคุยกับพี่คนนี้ พี่จะบอกว่า อย่าไปคิดอะไรมากปล่อยฮีซื้อกินไปเลย ทำไมยอมขนาดนั้น? หญิง :หลังจากมีลูกแล้วด้วยมั้ง ส่วนใหญ่เราโฟกัสไปอยู่ที่ลูก แล้วเรื่องเวลาที่จะใช้อยู่ด้วยกันสองคน 1.เราเข้าใจผู้ชาย มันคงมีบ้าง แต่เขาดีอย่างหนึ่ง เราเปิดโอกาสให้เขาไม่ได้ใช้โอกาสอย่างฟุ่มเฟือย

แปลว่าใช้บ้าง? หญิง : “ใช้บ้าง อันนี้ไม่ต้องโกหก ถ้าอยากจะไปก็ไป ไปเลยไม่ต้องบอก มารู้ทีหลังก็ไม่ได้โกรธ เพราะเคยผ่านช่วงเวลาที่บอกทุกอย่าง จนเรารู้สึกว่าเธอๆ พักก่อน”

ลิฟท์ : “คือเราอยากจะเปิดใจคุยกับเขาทุกเรื่อง บางทีเราไป เราก็ไม่อยากจะโกหก เพราะเขาไม่ชอบให้โกหก เราก็ต้องบอกตรงๆ พอดีเพื่อนมาไปกับเพื่อน ถึงแล้วนะ ขึ้นแล้วนะ อะไรอย่างนี้”

เรากลัวไหมว่าเขาไปใช้บริการอะไรอย่างนี้บ่อยๆ เขาติดหรือหลง ทำให้ความสัมพันธ์เราแย่ลง? หญิง : “อันนี้คือโชคดีอย่างหนึ่งที่เรารู้จักนิสัยเขามากพอสมควรว่าเขาเป็นคนแบบไหน คือการไปซื้อกินดีกว่าไปมีเป็นตัวเป็นตน อันนี้บอกตั้งแต่แต่งงานแล้ว ยังไงก็แล้วแต่มีเป็นตัวเป็นตนไม่เอา ซื้อกินไปเลย ทุกวันนี้เขาแอบไป เราไม่รู้ก็โอเค

ลิฟท์ : “ไม่ได้ไปไหนเลย”

หญิง : “วันก่อนคุยกับเพื่อนยังไง”

ลิฟท์ : “อันนั้นก่อนจะมีลูก พอดีนั่งคุยกับเพื่อน คุยไปคุยมาหลุด แต่ยิ่งเขาพูด เรายิ่งเกรงใจเขาไง บางทีเขาบอกไปเถอะๆ หลังๆ มาเวลาอยู่บ้าน อยู่กับเขามันโอเคกว่า บางทีรู้สึกว่าวัยเมื่อก่อนที่ชอบเที่ยว วัยตอนนี้ที่เราเป็นมันต่างกัน”

ใจกว้างขนาดนี้ให้คุณพี่ชายไปทำหมันหน่อยไหม? หญิง : “อยากให้ไปทำมาก หว่านล้อมบ่อยมาก จะมีเพื่อนเขาอีกคนที่กำลังไปทำ เธอๆ เปิดห้องคู่ไปเลย จะได้มีเพื่อนคุย”

ลิฟท์ : “ความจริงอาย หมอไม่อาย อายพยาบาลที่อยู่ข้างๆ จินตนาการแล้วมันเขิน”

ถ้าพยาบาลเป็นผู้ชายยอมไหม? ลิฟท์ : “ถ้าความสบายใจของเมียทำให้อยู่แล้ว”

พี่ลิฟท์หาสาวให้พี่ออย? ลิฟท์ : “จริงๆ ไม่ได้เป็นการหาหรอก บางทีเราแซวเขาเล่นๆ เฮ้ย..ออยอยู่คนเดียวเหงาหรือเปล่า เราก็เป็นห่วง เพราะเมื่อก่อนเขาอยู่กับครอบครัว ตอนนี้เขาอยู่คนเดียว อยู่กับนกก็กลัวว่าเขาจะเหงา เวลาไปเล่นคอนเสิร์ตที่ไหนก็ชอบเปิดตัวให้เขา เพื่อนผมโสดนะครับ ทักได้นะครับ”

แล้วมีบ้างไหม? ลิฟท์ : “ไม่มีเลยที่เห็น ตอนนี้เพื่อนผมหล่อมากนะ น้ำหนักจาก 70 กว่าลดเหลือ 64 หน้าเป็นหนุ่มเกาหลี”

คลิปสัมภาษณ์ ลิฟท์-หญิง

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7621462
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7621462